มีคำแนะนำสำหรับการรับประทานอาหารว่า ควรเคี้ยวไม่น้อยกว่า 32 ครั้งต่อการรับประทานอาหาร 1 คำ เมื่อได้ยินอย่างนี้หลายๆคนคงมีคำถามในหัวกันแล้วใช่ไหมว่า…เมื่อไหร่จะอิ่ม คำตอบคือ คุณจะอิ่มได้ดีขึ้นคือ นี่คือคำตอบที่ร่างกายของคุณต้องการอย่างแท้จริง
หลายๆคนมักจะรับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ ด้วยการรีบกินและกลืนอาหารลงไปในท้อง โดยที่ยังเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพและระบบการย่อยอาหารแล้ว นี่ยังอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการกินอาหารมากเกินความจำเป็นอีกด้วย มาดูกันว่าทำไมเราถึงควรเคี้ยวอาหารให้ช้าลง
การเคี้ยวให้ช้าลง ช่วยลดน้ำหนักได้
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือวิธีที่เบสิคที่สุดในการควบคุมน้ำหนักสำหรับใครหลายๆคนที่ชอบกินอาหาร ลองคิดดูว่าการกินอาหารในแต่ละมื้อให้คุณคำนึงถึงการเคี้ยวอาหารให้ช้าลงและแน่นอนว่าการกินอาหารของคุณจะช้าลงตามไป และเมื่อกินไปถึงระยะหนึ่ง สมองจะบอกกับเราว่าควรจะอิ่มได้แล้ว ทั้งๆที่อาจจะยังกินไปได้ไม่เยอะเท่าไหร่
การเคี้ยวอาหารสัมพันธ์กับการส่งผลต่อสุขภาพจิตโดยรวมได้ มีคำแนะนำว่าในคนที่เคี้ยวอาหารอย่างเป็นจังหวะที่ถูกวิธีก็ช่วยให้มีสมาธิดีขึ้น และยังส่งผลต่อความจำและความสามารถในการประมวลผลต่างๆในสมอง ที่ทำได้ดีขึ้นอีกด้วย
ส่งผลดีต่อระบบการย่อยอาหาร
แน่นอนว่าหากคุณเคี้ยวและกลืนอาหารเร็วเกินไป นั่นจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก หรือไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ และอาจส่งผลต่อระบบการย่อยอาหาร ทำให้ท้องอืด มีกรดไหลย้อน ปวดท้อง และอื่นๆ ตามมาได้อีก วิธีแก้ก็มีง่ายๆ แค่เคี้ยวให้ช้าลงและละเอียดขึ้นเท่านั้นเอง ใครที่เป็นกรดไหลย้อนบ่อยๆ แนะนำวิธีนี้เลย
การเคี้ยวช่วยรับมือกับความเครียดได้ นั่นแน่!! เข้าทางใช่ไหมล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณจะใช้ข้อนี้เป็นข้ออ้างในการเคี้ยวเพื่อลดความเครียด เราคงแนะนำว่าหมากฝรั่งหรือน้ำแข็งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่คิดงานไม่ออก หรือรู้สึกเครียดหนักๆ แนะนำให้ลองหาน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ใส่แก้วมาวางไว้ข้างๆ แล้วหยิบขึ้นมาเคี้ยวทีละก้อน นอกจากความเย็นจะช่วยให้สดชื่นขึ้นแล้ว การได้บดเคี้ยวในขณะที่สมองกำลังทำงานหนักจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น
