กล่องเสียงบอบช้ำ ท่อช่วยหายใจ โควิด-19

กล่องเสียงบอบช้ำ เมื่อหายจาก COVID-19 อาการที่เกิดขึ้นได้จากการใส่ท่อช่วยหายใจ

ผู้ป่วย COVID-19 ที่อาการรุนแรงและต้องใส่ท่อช่วยหายใจเป็นเวลานาน เมื่อหายแล้วอาจส่งผลให้กล่องเสียงได้รับการบาดเจ็บ

Home / HEALTH / กล่องเสียงบอบช้ำ เมื่อหายจาก COVID-19 อาการที่เกิดขึ้นได้จากการใส่ท่อช่วยหายใจ

ผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่อาการรุนแรงและจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจขณะทำการรักษาเป็นเวลานาน เมื่อหายแล้วอาจส่งผลให้กล่องเสียงได้รับการบาดเจ็บ เกิดการบวม อักเสบ หรือมีแผลได้ เพื่อรักษากล่องเสียงที่บอบช้ำจากการรักษาจึงควรหมั่นสังเกตตนเอง เมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้วควรรีบพบแพทย์ทันที

เมื่อเกิดอาการ กล่องเสียงบอบช้ำ หลังหายจาก COVID-19

แพทย์หญิงจิราวดี จัตุทะศรื แพทย์ด้านหู คอ จมูก ศูนย์หูคอจมูก โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ในผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่มีการอักเสบของปอดอย่างรุนแรง จนส่งผลให้ระบบการหายใจล้มเหลว หายใจได้ยากจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ (Ventilator) เพื่อช่วยในการรักษาโดยวิธีการใส่ท่อช่วยหายใจ (Endotracheal Intubation) ทางปากผ่านกล่องเสียงไปยังหลอดลม ท่อนี้จะเป็นตัวนำออกซิเจนจากเครื่องช่วยหายใจส่งไปยังปอด ช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งใช้เวลาในการรักษาที่ค่อนข้างนาน ตัวท่ออาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อภายในกล่องเสียงจนเกิดการบวม ช้ำ อักเสบ มีแผล แผลเป็น หรือบวมจนกลายเป็นเนื้องอกได้ ส่งผลให้เกิดภาวะกล่องเสียงทำงานผิดปกติไปจากเดิม

อาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการใส่ท่อช่วยหายใจ

1.ภาวะกล่องเสียงหดเกร็ง (Laryngospasm) จะเกิดขึ้นเมื่อถอดท่อช่วยหายใจออกแล้ว เป็นการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นในทางเดินหายใจขณะที่กล้ามเนื้อของกล่องเสียงยังหย่อนตัวไม่เต็มที่จึงเกิดการบีบเกร็งของกล้ามเนื้อกล่องเสียงและสายเสียง เช่น ทำให้ออกซิเจนไม่สามารถผ่านเข้าปอดได้

2.ภาวะกล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) นอกจากการใส่ท่อช่วยหายใจแล้วยังสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • เชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา วัณโรค
  • การใช้งานกล่องเสียงมากที่มากเกินไป อาทิ พูดดัง พูดนาน ร้องเพลงผิดวิธี ไอแรง ไอเรื้อรัง ขากเสมหะบ่อย ๆ
  • มีสิ่งระคายเคืองกล่องเสียง เช่น การหายใจเอามลภาวะในอากาศเข้าไป การสูบบุหรี่ การสำลักอาหาร อาเจียน กรดไหลย้อน
  • การกระแทกเสียดสีจากภายนอกกล่องเสียง เช่น อุบัติเหตุของแข็งกระแทกลำคอทางด้านหน้า
  • การกระแทกจากภายในกล่องเสียง ที่เกิดจากการใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อดมยาสลบ หรือเพื่อให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วยหนักที่ไม่สามารถหายใจได้เองตามปกติ

ถ้ากล่องเสียงเกิดการอักเสบแล้ว การรักษามีดังต่อไปนี้ (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้นในกล่องเสียง)

  • การให้ยาโดยแพทย์จะพิจารณาจากสาเหตุที่เกิดเป็นหลัก อาทิ ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไอ ยากรดไหลย้อน เป็นต้น
  • การพักใช้เสียงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ต้องพูดน้อย ๆ ไม่ตะเบ็งเสียง ไม่ตะโกน ไม่ร้องเพลง
  • ควรงดดื่มคาเฟอีนในปริมาณมาก งดดื่มแอลกอฮอล์
  • และผ่าตัดในกรณีที่มีเนื้องอกหรือแผลเป็นในกล่องเสียง โดยแพทย์จะสอดท่อผ่านเข้าไปทางช่องปาก ร่วมกับผ่าตัดด้วยอุปกรณ์สำหรับกล่องเสียงโดยเฉพาะ ภายใต้การมองผ่านเลนส์ของกล้องจุลทรรศน์ (Microscope) เพื่อป้องกันการบอบช้ำหรือกระทบกระเทือนต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้ป่วยจะไม่มีบาดแผลบริเวณผิวหนังลำคอ แต่หลังผ่าตัดควรพักการใช้เสียงด้วยการพูดน้อย ๆ ต่อเนื่อง 2 สัปดาห์หรือจนกว่าแผลจะหายเป็นปกติ

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่รักษาด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจและท่อช่วยหายใจตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษา เมื่อหายแล้วอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้ ควรที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ถ้ารู้สึกว่าเกิดอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อได้รับการรักษาที่ทันท่วงที

ข้อมูลจาก : ศูนย์หู คอ จมูกกรุงเทพ โทร.1719 แอดไลน์ @bangkokhospital