สาวๆหลายคนที่กำลังจำกัดการรับประทานของหวานเพื่อควบคุมน้ำหนัก หรือคุมแคลอรี่ให้พอดีสำหรับในแต่ละวันคงกำลังหงุดหงิดใจอยู่เรื่องเดียว นั่นเพราะผู้หญิงกับการ กินขนมหวาน มันเป็นของคู่กันโดยเฉพาะยิ่งหากเป็นวันที่เครียด ทำงานหนัก ยิ่งทำให้โหยน้ำตาล อยากของหวานมากขึ้นไปเป็นเท่าตัว วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆจากคุณเมจิ อโณมา ที่จะมาบอกเคล็ดลับกับสาวๆว่า กินขนมหวาน กันยังไงดีให้ไม่รู้สึกผิดแถมยังไงสบายใจมีความสุขจากการได้กินขนมอีกด้วย
เมจิมีวิธีคือ จะดื่มชาเขียวร้อน (แบบTea bag , ที่ไม่ใช่ชาเขียวลาเต้วีปปฟูๆ แบบนั้นไม่เอานะคะ) ดื่มก่อนซัก15นาที แล้วค่อยทานของหวาน เพราะฤทธิ์ชาเขียวจะช่วยลดน้ำตาลในเลือด ( แต่ไม่ใช่ทานมากมายไม่บันยะบันยัง แล้วดื่มชาไปแก้ มันก็ช่วยไม่ได้หมดนะจ๊ะ)
ถ้าวันไหนทานของหวานมากๆ เมจิก็จะหยุดทานน้ำตาล และ Carbs ไปอีก48 ชม. รอให้ร่างกายเอาพลังงานจากGlucose ที่เมจิทานมากๆ ไปใช้เป็นพลังงานออกในช่วงออกกำลังกาย
แต่ถ้ากินทุกวัน ทุกมื้อ แต่ออกกำลังกายหนัก ร่างกายก็สะสมไขมันค่ะ เพราะของหวาน น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ระดับน้ำตาลมันขึ้นเร็วมาก กินแป็บๆก็อารมณ์ดี สบายใจมีความสุข แล้วระดับน้ำตาลก็ร่วงเร็วด้วย นี่คือสาเหตุว่าทำไมกินของหวานแล้วดีดได้ซักพัก ก็กลับมาอยากทานน้ำตาลอีก พอไม่ได้ทาน อารมณ์หงุดหงิด ก็กลับมาง่วงแล้วอ่อนเพลีย เพราะที่น้ำตาลร่วง ร่างกายเก็บเอาไปเป็นBody Fat เร็วค่ะ มันเลยร่วงเลย ไม่ว่าคนออกกำลังกาย หรือคนนั่งทำงาน หากดื่มอะไรที่เป็นน้ำตาลสังเกตุพลังงานมาเร็วมาก แต่ก็ร่วงเร็วค่ะ เมจิเลยไม่ค่อยทานบ่อย เพราะมันจะทำให้สมองเมจิเสพติดน้ำตาล พอไม่ได้ทานจะหงุดหงิด กว่าจะปรับสมองได้มันใช้เวลานานมาก
ที่มาข้อมูลจาก meiji_27anorma