อ้วนหนักจนขอเปลี่ยนตัวเอง
ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้าที่จะลดน้ำหนัก คือเราเป็นคนอ้วน หนักสุดที่ 133 กก. ก็เริ่มขยับตัวลำบาก เหนื่อยง่าย และอ่อนแอมาก จนมาถึงจุดพีคที่เราเริ่มนอนหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ในกลางดึก ต้องนอนผวา กลัวจะหยุดหายใจชั่วขณะ เลยตัดสินใจลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย ก็เริ่มตั้งแต่ปี 2016 – 2017 แต่ก็ไม่ได้เห็นผลมาก เพราะตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องโภชนา ไม่ได้คุมอาหาร อาศัยลองผิดลองถูก
จนมาปี 2018 – 2019 เราเริ่มลงมือใหม่อีกครั้ง โดยการเข้าไปศึกษาหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการกิน กินยังไงถึงจะถูกหลัก แล้วก็เริ่มทำอาหารกินเอง เน้นไปที่โปรตีนเป็นหลัก เช่น ไก่ ไข่ ปลา กุ้ง เรางดของทอด มัน หวาน
1 ปี ลดน้ำหนัก 50 กก.
การลดน้ำหนักจะประสบผลสำเร็จได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวินัยและอาหารที่เรากินเท่านั้น การพักผ่อนก็สำคัญเช่นกันค่ะ ในหนึ่งวันต้องนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมง ช่วงนี้เป็นอะไรที่พีคมากๆ เราคุมอาหาร และออกกำลังกายไปด้วย เริ่มเห็นผลตั้งแต่เดือนแรก และกำลังไปได้ดี เลยเป็นแรงผลักดันให้เราตั้งใจมีวินัยทำต่อไปไม่หยุดค่ะ ระยะเวลาเราทำต่อเนื่องแบบมีวินัยภายใน 1 ปี เราลดน้ำหนักไป 50 กก.ค่ะ และปี 2020 เราก็จะยังไม่หยุดนะคะ จะทำต่อไปแบบต่อเนื่องค่ะ
เป็นเทรนเนอร์ให้ตัวเอง
เราไม่ได้จ้างเทรนเนอร์ เราลองศึกษาด้วยตัวเองอาจจะลองผิดลองถูกบ้าง เราเล่นเวท+คาร์ดิโอ เล่นให้ครบทุกส่วน ไหล่ อก หลัง ขา เราลองจัดตารางให้เหมาะสมกับร่างกายของเรา ร่างกายเราเท่านั้นที่จะเป็นตัวบงบอกว่าไหวหรือไม่ค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากฝากบอกคนที่หนักหลักร้อย อย่าพึ่งสิ้นหวังนะคะ คุณสามารถลดน้ำหนักได้ตัวเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งยาอาหารเสริม ขอแค่อย่าปิดกั้นตัวเอง ออกมาลุกขึ้นสู้ ถ้าคุณสู้ คุณก็จะชนะ ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องศึกษาหาข้อมูลต่างๆ และนำมาปรับใช้ให้เข้ากับร่างกาย อย่าหยุดที่จะศึกษา และคุณต้องลงมือทำด้วยค่ะ สิ่งที่จะได้กลับมามันคุ้มมากๆค่ะ คือได้ทั้งสุขภาพที่ดี และพฤติกรรมการกินของเราจะปรับไปในทางที่ดีมากๆค่ะ
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย Women MThai
ขอบคุณผู้หญิงสร้างแรงบันดาลใจ น้ำฝน ชัยรัตน์ อายุ 27 ปี
instagram : Namfon_nafon