ประกวดนางงาม ผู้หญิงทัศนคติดี เทวี ฤาชนก มีแสง

นางงามคือเรื่องของผลประโยชน์ บทสัมภาษณ์ที่ไม่อ้อมค้อม ของ เทวี ฤาชนก

“อย่าให้เทวีได้จับไมค์” เป็นฉายาของ เทวี ฤาชนก มีแสง ที่ถ้าใครได้ติดตามการประกวดนางงาม จะทราบทันทีเลยว่า เธอเป็นคนที่ตอบคำถามดี ทัศนคติดี มองโลกตามความเป็นจริง และแม้ว่าจะยังไม่มีโอกาสได้จับไมค์ หรือได้สวมมงกุฎบนเวทีใหญ่ๆ แต่การประกวดมันไม่ใช่ทั้งหมด เธอยังสามารออกไปทำอย่างอื่นได้ เพราะเธอมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน…

Home / แฟชั่น / นางงามคือเรื่องของผลประโยชน์ บทสัมภาษณ์ที่ไม่อ้อมค้อม ของ เทวี ฤาชนก

“อย่าให้เทวีได้จับไมค์” เป็นฉายาของ เทวี ฤาชนก มีแสง ที่ถ้าใครได้ติดตามการประกวดนางงาม จะทราบทันทีเลยว่า เธอเป็นคนที่ตอบคำถามดี ทัศนคติดี มองโลกตามความเป็นจริง และแม้ว่าจะยังไม่มีโอกาสได้จับไมค์ หรือได้สวมมงกุฎบนเวทีใหญ่ๆ แต่การประกวดมันไม่ใช่ทั้งหมด เธอยังสามารออกไปทำอย่างอื่นได้ เพราะเธอมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นก็คือ อยากทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม…

หนึ่งในความฝันของผู้หญิงหลายคนคือ อยากจะเป็นเจ้าหญิง ได้สวมมงกุฎสวยๆ เทวีก็เช่นกัน เธอบอกว่าชอบดูการประกวดนางงามมาตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้นประมาณ ม.5 ม.6 ก็ได้มีโอกาสประกวดนางสงกรานต์แห่งประเทศไทย แล้วชนะ เลยชอบ อยากประกวดต่อ หลังเรียนจบก็ลงประกวด MUT 2018 MTW 2018 และนางสาวไทย 2562 ซึ่งเป็นการประกวดบนเวทีนางงามครั้งสุดท้ายของเธอ

หลายคนอาจจะตั้งคำถาม หรือสงสัยว่า ประกวดมาก็เยอะแล้ว ทำไมถึงยังไม่ได้เข้ารอบลึกๆ ไปจับไมค์ตอบคำถามสักที เทวีตอบว่า การประกวดนางงามเป็นเหมือนการเล่นเกมการเมือง ทุกอย่างเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ที่เราเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ แต่บนสังเวียนขาอ่อนที่ผ่านมา ก็ทำให้เธอได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น เมื่อก่อนเธอคิดว่า ถ้าเราทุ่มเทมากที่สุด ทำดีที่สุด เราจะต้องประสบความสำเร็จสูงสุด แต่มันไม่ใช่ มันขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย แม้จะไม่ได้มงกุฎหรือตำแหน่งใดๆ แต่เธอก็ไม่เคยโทษตัวเองว่าดีไม่พอ ไม่สวย หรือไม่พร้อม ณ เวลานั้นเธอทำดีที่สุดแล้ว และบางคนที่ได้ตำแหน่งก็อาจไม่ใช่คนที่สวยที่สุด หรือดีที่สุด มันขึ้นอยู่ที่ปัจจัยแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ ซึ่งมันก็อาจเปลี่ยนแปลงได้

การประกวดนางงามมันทำให้เสียงของเราดังขึ้นก็จริง แต่ก็ใช่ว่าพอไม่ได้เป็น เราจะไม่สามารถทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมได้เลย เราอาจจะต้องสั่งสมประสบการณ์ วุฒิภาวะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง

เรามักคุ้นชินภาพนางงามเดินโบกมือ สวมมงกุฎสวยๆ อยู่บนเวที แต่ใครจะรู้ว่าระหว่างทางการประกวดมันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป การประกวดนางงามเป็นเหมือนดาบสองคม บางคนก็อาจได้ประโยชน์มหาศาลที่สามารถนำไปพัฒนาชีวิตตัวเองได้ บางคนก็อาจจะจมอยู่ในชื่อเสียง ถ้าไปไม่ถึงฝันก็จะรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ บางคนที่โดนแฟนนางงามติมากๆ ก็อาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็เป็นได้ เพราะระหว่างการประกวด ก็มีเพื่อนๆ หลายคนที่เครียด เข้ามาพูดคุย ปรึกษากับเทวี

ครั้งหนึ่งเทวีเคยพูดว่า อยากเป็นนายกหญิงคนแรกที่เป็นนางงาม เลยลองถามเธอไปว่าถ้าได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเกี่ยวกับด้านการเมือง อยากจะแก้ไขปัญหาอะไร เธอตอบเลยว่า การศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ ที่ผ่านมาเหมือนให้เด็กเรียน เพื่อแข่งกัน จนเด็กต้องเอาเวลาทั้งหมดไปเรียนกวดวิชา ซึ่งมันเป็นวิธีที่ผิด หากลองเปิดช้อยส์ให้กว้าง ให้เด็กได้เขียนแสดงทัศนะ แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ไม่ใช่เลือกตอบถูกผิดแค่ 4 ข้อ ของแบบนี้มันอาจจะใช้เวลาในการเปลี่ยนแปลง แต่เชื่อว่าทำได้จริง แล้วต่อไปทุกคนก็จะสามารถคิด วิเคราะห์เองได้แบบที่ไม่ต้องมีคนมาบอกว่าเราต้องทำอะไร

เทวี ฤาชนก

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิง เธออยากรณรงค์เรื่อง “การคุมคามทางเพศ” หลายครั้งที่มีเหตุการณ์แบบนี้ กลับโทษว่าผู้หญิงเป็นคนที่แต่งตัวโป๊ ผู้หญิงคนมีเสรีภาพในการแต่งตัว แต่รู้กาลเทศะ เธอมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรเปลี่ยน คือต้องเคารพและให้เกียรติกันมากขึ้น

“ผู้ชายจะไม่กล้าจีบผู้หญิงเก่ง” เชื่อว่ามีสาวๆ จำนวนไม่น้อยที่เคยได้ยินประโยคนี้ เทวีกลับบอกว่า สนับสนุนให้สาวๆ เรียนภาษาไปเลย เราจะได้มีโอกาสออกไปเจอผู้ชายอีกหลายล้านคนทั่วโลก อย่าปิดช้อยส์ตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องแอ๊บว่าตัวเองไม่เก่ง เพื่อให้ผู้ชายมาชอบ เพราะมันจะทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวเองไปทั้งชีวิต…

คลิป > ถามตรง ตอบตรง นางงามเป็นเรื่องของผลประโยชน์จริงไหม? บทสัมภาษณ์ของ เทวี ฤาชนก

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย Women MThai Team

รูปภาพจาก : tavee_ruechanok / Miss Universe Thailand