“ถ้าไม่เริ่มวันนี้ แล้วเราจะเริ่มวันไหน เราจะเริ่มในวันที่โลกไม่เหลืออะไรให้เราแล้วเหรอ?” เป็นคำพูดของคุณหยุยและคุณตูน เจ้าของร้าน Get Well Zone ที่ทำให้เราฉุดคิดได้ว่า แม้เราจะเป็นเพียงจุดเล็กๆ ของการเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยเหลือโลกในครั้งนี้ แต่มันก็ยังดีกว่าเราไม่ลงมือทำอะไรเลย จริงไหมคะ…?
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประเด็นเรื่องของพลาสติก เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะหลายๆ ร้านค้า ก็ออกมาบอกแล้วว่า จะงดจ่ายถุงพลาสติก ทำให้ผู้บิรโภคต้องพกถุงผ้ามาใส่ของที่ซื้อเอง จุดนี้คุณหยุยบอกว่า หลายๆ คนกำลังหลงประเด็น ทำให้พลาสติกกลายเป็นผู้ร้าย ซึ่งจริงๆ แล้ว พลาสติกเองมันก็มีประโยชน์ หากเรารู้จักใช้มันอย่างคุ้มค่า จนกว่ามันจะหมดอายุขัยของมัน
หลังจากถุงพลาสติกถูกทิ้ง ถุงผ้าคือสิ่งที่คนหันหน้ามาพึ่งพิง แต่คุณรู้ไหมคะว่า กรรมวิธีการผลิตมันโหดร้ายกว่าพลาสติกเยอะ มันมีทั้งสารเคมี แถมการย่อยสลายก็ทำได้ไม่ได้ดีเท่ากับพลาสติก หากเรายังใช้ถุงผ้าแบบอิงกระแสแฟชั่น ซื้อตามเทรนด์ มีแล้วก็ซื้ออีก มันก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้ถุงพลาสติกแล้วทิ้งเพียงแค่ครั้งเดียว
ผู้หญิงน้อยคนมากที่จะทราบว่า เครื่องสำอางที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน อย่างพวกสครับ หรือเจลที่มันเป็นเม็ดบีท จริงๆ แล้วมันคือไมโครพลาสติก พอเราใช้แล้วล้างออกไป มันก็ลงไปที่แหล่งน้ำ สุดท้ายมันก็ไปปนเปื้อน สัตว์น้ำก็กินเข้าไป จนกลายเป็นวงจร รวมถึงทิชชูเปียกด้วย ที่หลายๆ คนยังไม่ทราบว่า บางยี่ห้อมันมีส่วนผสมของพลาสติกอยู่ แม้จะโยนทิ้งไป มันก็ไม่ย่อยสลาย
ยังมีของใช้ของผู้หญิงอีกสิ่งหนึ่งที่กลายเป็นที่พูดถึงไม่แพ้กัน สิ่งนั้นก็คือ ‘ผ้าอนามัย’ ที่เมื่อใช้แล้วมันจะกลายเป็นขยะน่ารังเกียจจำนวนมหาศาล เขาเลยมีผ้าอนามัยใช้ซ้ำ (ใช้แล้วซัก) และผ้าอนามัยแบบถ้วยที่ทำจากซีลิโคน มารองรับ แต่ต้องบอกเลยว่า ผู้หญิงอย่างเราๆ ยังมีความกล้าไม่มากพอที่จะเปลี่ยนมาใช้ คุณตูนเจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่ใช้ผ้าอนามัยแบบถ้วยที่ทำมาจากซีลิโคนจริงๆ มันสะดวกสบายมากกว่าที่เราจินตนาการไว้ในตอนแรกเสียอีก วิธีการทำความสะอาดก็แค่เอาไปต้มในน้ำร้อน เก็บในที่ที่สะอาด แล้วก็นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก จนกว่ามันจะพัง
ส่วนผ้าอนามัยแบบซักได้ หรือผ้าอนามัยแบบใช้ซ้ำ การใช้งานมันก็ไม่ต่างจากการใส่กางเกงใน เราแค่ซัก และเก็บไว้ในที่ที่สะอาด มันสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ระหว่างวันจะมีตัวรีฟิว ที่เราสามารถหยิบมาเปลี่ยนได้ ถ้าเรากล้าที่จะเปลี่ยน ยอมลดความสบายลงมา นอกจากจะช่วยลดขยะบนโลก ก็ยังประหยัดเงินในกระเป๋าที่เราต้องจ่ายเป็นค่าผ้าอนามัยได้อีกเยอะเลยทีเดียว
แม้มันจะเป็นเงินเพียงไม่กี่บาท ที่เราควักจ่ายไปเพื่อซื้อผ้าอนามัย แต่สำหรับคนที่กำลังซื้อน้อย การที่เขาต้องเจียดเงินมาซื้อผ้าอนามัยหลักร้อยในทุกๆ เดือน มันค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ คุณตูนบอกว่า จริงๆ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐานของคน ถ้าประเทศเรามีมาตรฐานการใช้ชีวิตที่มั่นคงกว่านี้ มันควรเป็นมาตรการที่รัฐบาลควรจะเข้ามาช่วยเหลือ ผู้หญิงควรจะได้ผ้าอนามัยฟรีด้วยซ้ำ ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้หรือเปล่า…
คลิป > ผ้าอนามัยซักได้ ผ้าอนามัยแบบถ้วย ใช้ได้จริงหรือไม่? คุยกับเจ้าของร้าน Get Well Zone
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย Women MThai Team