แต่งงาน

10 สัญญาณบ่งบอกว่า คุณพร้อมแล้วที่จะแต่งงานกับหนุ่มข้างกาย

คุณไม่มีทางรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต คุณควรเลือกใครสักคนที่จะเดินทางเคียงคู่ไปกับคุณจนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต และนี่คือ 10 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณพร้อมแล้วที่จะตกร่องปล่องชิ้นกับใครสักคน 1.คุณรู้สึกมั่นคง คุณไม่ต้องตั้งคำถามว่าคุณกับคนรักจะเดินทางไปถึงจุดไหน ที่สำคัญคุณสองคนจะพูดถึงอนาคตได้อย่างไม่เคอะเขินและไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกขยาดด้วย 2.คุณมักจะนึกถึงคนรักของคุณเป็นคนแรก เขาคือคนแรกที่คุณต้องการส่งข่าวให้ไม่ว่าจะเป็นข่าวใหญ่หรือข่าวเล็ก อันที่จริงบางสิ่งที่คุณอยากบอกเขานั้นสำคัญมากจนคุณไม่อยากโทรหาคนอื่นเลย 3.คุณไว้ใจกัน ยกตัวอย่างเช่นถ้าคนรักของคุณไปเที่ยวกับเพื่อนๆ คุณอาจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแต่ไม่ใช่เรื่องพฤติกรรมของเขาแน่นอน คุณรู้ว่าเขาจะไม่หักหลังหรือทำร้ายความสัมพันธ์ของคุณไม่ว่าการกระทำของคุณจะงี่เง่าแค่ไหนก็ตาม…

Home / แฟชั่น / 10 สัญญาณบ่งบอกว่า คุณพร้อมแล้วที่จะแต่งงานกับหนุ่มข้างกาย

คุณไม่มีทางรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต คุณควรเลือกใครสักคนที่จะเดินทางเคียงคู่ไปกับคุณจนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต และนี่คือ 10 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณพร้อมแล้วที่จะตกร่องปล่องชิ้นกับใครสักคน

1.คุณรู้สึกมั่นคง

คุณไม่ต้องตั้งคำถามว่าคุณกับคนรักจะเดินทางไปถึงจุดไหน ที่สำคัญคุณสองคนจะพูดถึงอนาคตได้อย่างไม่เคอะเขินและไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกขยาดด้วย

2.คุณมักจะนึกถึงคนรักของคุณเป็นคนแรก

เขาคือคนแรกที่คุณต้องการส่งข่าวให้ไม่ว่าจะเป็นข่าวใหญ่หรือข่าวเล็ก อันที่จริงบางสิ่งที่คุณอยากบอกเขานั้นสำคัญมากจนคุณไม่อยากโทรหาคนอื่นเลย

3.คุณไว้ใจกัน

ยกตัวอย่างเช่นถ้าคนรักของคุณไปเที่ยวกับเพื่อนๆ คุณอาจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแต่ไม่ใช่เรื่องพฤติกรรมของเขาแน่นอน คุณรู้ว่าเขาจะไม่หักหลังหรือทำร้ายความสัมพันธ์ของคุณไม่ว่าการกระทำของคุณจะงี่เง่าแค่ไหนก็ตาม

4.คุณมีความเห็นเรื่องลูกไปในทิศทางเดียวกัน

จำนวนไม่ใช่เรื่องสำคัญ..คุณอาจไม่รู้ว่าการมีลูกจะเป็นอย่างไรหรือรู้สึกเช่นไร แต่สำคัญตรงที่คุณทั้งคู่อยากมีลูกเหมือนกัน..หรือเปล่า?

5.คุณเป็นตัวของตัวเองสุดๆเมื่ออยู่กับคนรัก

แม้แต่เพื่อนสนิทของคุณก็ดูไม่ออกว่าคุณเปลี่ยนแปลงอะไรไปหรือเปล่าเมื่ออยู่กับคนรักหรือเมื่อความสัมพันธ์เริ่มต้นขึ้นแล้ว (แต่ถ้าจู่ๆเพื่อนสนิทของคุณคิดว่าคุณเปลี่ยนไปเมื่อมีคนรักล่ะก็..ดูท่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ)

6.คุณไม่ต้องการเปลี่ยนคนรักของตัวเอง

คุณไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นได้ไม่ว่าเขาจะมีนิสัยชอบเก็บตัวหรือกล้าแสดงออก ไม่ว่าเขาจะรักครอบครัวหรือไม่..หรือเคร่งศาสนาหรือเปล่า? แต่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการปาถุงเท้าลงพื้นของเขาได้แม้ว่าจะยากก็ตาม ดังนั้นจงถามตัวเองว่า..คุณรักคนรักของคุณเต็มร้อยหรือเปล่า? หากคุณต้องการแต่งงานกับใครสักคน คุณต้องเข้าใจว่าเขาสามารถเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ที่สำคัญเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงมากหากคุณพยายามที่จะมองหาคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด

7.คุณรู้เหตุผลว่าทำไมคุณจึงอยากแต่งงาน

ถูกสังคมกดดัน? หน้าข่าวอินสตาแกรมของคุณ? หรือความผูกพันทางใจลึกซึ้ง? คุณกำลังคิดถึงการแต่งงานหรือชีวิตคู่? รู้ไหมว่าบางคนแต่งงานเพราะหลงผิดและทำให้ชีวิตคู่ไปกันไม่รอด ดังนั้นจงซื่อสัตย์กับตัวเอง..การอยู่คนเดียวอาจเป็นเรื่องน่ากลัวโดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ทว่าการหย่าร้างนั้นทำให้รู้สึกเจ็บปวดใจกว่ามาก ดังนั้นอย่าตัดสินใจเพราะความกลัวเป็นหลัก

8.คุณไม่คิดถึงเรื่องการเลิกรากัน

แม้กระทั่งตอนที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง..คุณก็ยังไม่คิดที่จะเลิกกัน เนื่องจากชีวิตคู่ควรเป็นความสัมพันธ์ที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกันแทนที่จะละทิ้งกันไป

9.คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาคนรัก

การลดระดับความสัมพันธ์ของคนสำคัญอย่างเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน ที่ปรึกษา หรือแม้แต่เครือญาติไม่ใช่แนวคิดของคนฉลาดเลย ขณะเดียวกันการเติมเต็มความฝัน ความหวัง และความต้องการของคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรมเช่นกัน ดังนั้นคุณไม่ควรคาดหวังว่าคนรักจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่คุณ

10.คุณรู้จักวิธีถกเถียงกันอย่างสร้างสรรค์

เราทุกคนล้วนต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ช่วงแรกและบางครั้งก็มีบทเรียนแย่ๆที่คุณอาจรับมือไม่ไหว ดังนั้นถ้าคุณหาคำตอบไม่ได้ก็ควรมองหาแนวทางการแก้ไข เนื่องจากปัญหาจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

เรียบเรียงโดย Women Mthai Team