เฟรนส์ฟราย ธัญชนก มูลนิลตา ผู้หญิงที่แต่ก่อนคิดว่านางงามเป็นเรื่องไกลตัว จนกระทั่งวันหนึ่งที่ตัดสินใจเข้ามาประกวดและได้รับมงกุฎ ก็เป็นใบเบิกทางที่ทำให้เธอได้เจอกับโอกาสดีๆ มากมาย
บอกเลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่เก่งและแกร่งมาก แม้เพื่อนจะเป็นคนชวนให้เธอมาประกวด แต่ระหว่างการเก็บตัวทำกิจกรรมต่างๆ เธอดูแลตัวเอง คิดลุค เลือกชุดเอง โดยที่ไม่มีพี่เลี้ยงเลย เธอเชื่อว่าสีผิวไม่ได้เป็นจุดอ่อนในการประกวดนางงาม ด้วยความที่ปีก่อนหน้านั้น เมญ่า นนธวรรณ เป็นผู้ที่ได้ตำแหน่ง มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 ทำให้กระแสของนางงามผิวสีเป็นที่น่าจับตามอง แถมยังเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนมีทัศนคติที่ดีกับผู้หญิงผิวสีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
เราไม่ได้ประกวด เพื่อนำเรือนร่างของเราไปประกวดต่อในเวทีระดับนานาชาติ แต่เราทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศไทย นำวัฒนธรรม องค์ความรู้ต่างๆ และทัศนคติต่างๆ ไปสู่เวทีโลก นอกจากนี้เรายังมีการทำโครงการจิตอาสาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอีกด้วย
หลังจากได้เป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ เธอก็ได้รับโอกาสที่ดีมากมาย อย่างแรกเลยก็คือได้เป็นกรรมการในการคัดเลือกมิสไทยแลนด์เวิลด์รุ่นต่อๆ ไป ซึ่งเธอบอกว่า การเป็นตัวเอง ไม่เฟค แสดงความจริงใจออกมา นี่แหละจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณชนะใจกรรมการได้
โอกาสที่ดีต่อมาคือได้ทำการงานร่วมกับ UN เป็น Friend of UNDP คนแรกของโครงการ Sustainable Development ด้วยความที่เธอได้ภาษาจีนด้วย จึงทำให้เธอได้ไปสัมภาษณ์ฟ่าน ปิงปิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เธอภูมิใจมากๆ และตอนนี้เธอก็ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นผู้ประกาศข่าว MONO29
ไม่ได้มีทุกงานที่เราทำแล้วมันจะไม่มีข้อผิดพลาด เราต้องเรียนรู้และไม่ยอมแพ้ในสิ่งที่ทำ ถ้าหยุดทำเพียงเพราะเราเฟลตั้งแต่ครั้งแรก มันก็จะเฟลไปตลอด เรากลับมองว่านี่เป็นข้อดี ที่จะทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง
เฟรนส์ฟรายมองว่าทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง เราต้องหาให้เจอ ลองถามตัวเองว่าเราทำแล้วมีความสุขไหม แล้วหลังจากนี้เรามีแพลนจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าเราตอบคำถามเหล่านี้ได้ เราก็ทำไปเลยค่ะ ต่อให้คุณไปถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า เขาก็จะตอบในมุมของเขา เขาไม่สามารถตอบเรื่องเราได้ดีที่สุด เท่ากับเรารู้จักตัวเราเอง…
คลิป > ชีวิตคือการเรียนรู้! เฟรนส์ฟราย ธัญชนก มูลนิลตา ผู้หญิงที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง
เรียบเรียงโดย Women MThai Team
รูปภาพจาก : frenchfine.thanya