เค้าว่ากันว่าเซนส์ของผู้หญิงส่วนใหญ่น่ะแม่น โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนรัก เพราะฉะนั้น ถ้ามี สัญญาณรักเปลี่ยน แม้นิดเดียวก็รู้สึกได้ และเพื่อให้แน่ใจยิ่งขึ้น มาเปิดตำรา 10 สัญญาณรักเปลี่ยน ลองสังเกตซิว่า ใช่หรือแค่มโนไปเอง เผื่อว่าช่วงเวลานี้จะได้เตรียมแผนสำรองไว้ ไม่ว่าจะเป็นการหาทางแก้ไขหรือเตรียมเก็บกระเป๋าก็ตาม
1.เริ่มวิจารณ์รูปร่างของคุณ
Omar Khayyam นักคณิตศาตร์และผู้ประพันธ์กวีเคยกล่าวไว้ว่า “หากเขารักคุณจริง เขาจะชอบทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ แม้ว่าจะเป็นข้อเสียของคุณก็ตาม” เป็นความจริงหนึ่งที่ใช้ได้กับคู่รักทุกคู่ ถ้าหากคู่รักเริ่มติรูปร่างของคุณบ่อยขึ้นผิดปกติล่ะก็ เขาอาจจะไม่ได้ไม่ชอบรูปร่างของคุณ แต่ลึกๆ แล้วเขาอาจจะไม่ชอบตัวคุณเองก็ได้ บ่อยครั้งที่หลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แม้ว่าเราจะไปลดน้ำหนักมาแต่เขาก็จะหาข้อเสียอย่างอื่นมาว่าเราอยู่ดี
2.เล่าข้อเสียของคุณให้เพื่อนฟัง
แม้ว่าจะไม่มีใครในโลกนี้สมบูรณ์แบบไปเสียหมด แต่คนรักกันมักจะมองเห็นข้อดีของคู่รักมากกว่าข้อเสียเสมอ ดังนั้นหากเขาเพ่งความสนใจไปที่ข้อเสียของคุณ แล้วยังเอาไปพูดเล่นกับคนอื่นในที่สาธารณะอีกมันแสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มไม่เคารพคุณ และอาจจะหมายถึงความรักที่ลดลงไปอีกด้วย
3.ตำหนินิสัยของคุณเป็นประจำ
บ่อยครั้งที่แฟนมักจะบอกว่านิสัยเปิ่นๆ ของคู่รักนั้นช่างน่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน แต่ถ้าเกิดเมื่อไหร่เขาเริ่มมองพฤติกรรมเดิมๆ ของคุณที่เคยคิดว่าน่ารักกลายเป็นสิ่งน่ารำคาญในสายตาเขาแทน ก็จงระวังเรื่องความสัมพันธ์เอาไว้ให้ดี
4.ไม่ให้ความสนใจกับสิ่งที่คุณพูด
เป็นปกติที่คนเราจะมีความสนใจไม่เหมือนกัน แม้ว่าบางครั้งเรื่องที่คุณพูดอยู่จะเป็นเรื่องที่เขาไม่สนใจเลย แต่ถ้าเขาแคร์คุณจริงๆ เขาก็จะตั้งใจฟังเพื่อให้คุณรู้สึกได้รับความสนใจ ทว่าหากเขาพยายามเปลี่ยนเรื่องสนทนาเป็นเรื่องของตัวเอง หรือบอกให้คุยเรื่องที่คุณสนใจกับคนที่มีรสนิยมแบบเดียวกัน อาจจะแปลว่าเขาไม่สนใจในเรื่องคุณอีกต่อไป
5.ไม่ปลอบประโลมเวลาคุณเศร้า
ชายคนไหนกันจะทนเห็นน้ำตาของหญิงสาวได้ เมื่อเห็นแฟนเศร้าก็ต้องเข้ามาปลอบเพื่อทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเขาคิดว่าคุณร้องไห้กับเรื่องโง่ๆ แล้วปล่อยให้คุณเศร้าคนเดียว ก็ควรจะพิจารณาความสัมพันธ์ได้แล้วนะ
6.ไม่ส่งข้อความหวานแหววให้เหมือนตอนเริ่มคบกันใหม่ๆ
การเพิ่มสีสันให้กับความสัมพันธ์ด้วยการส่งข้อความน่ารักๆ หรือเล่นมุกสองแง่สองง่ามใส่กันบ้าง เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของคุณยังแน่นแฟ้นดี ทว่าหากเขาเมินเฉยไม่ตอบข้อความของคุณ แล้วยังไม่รับส่งมุกกับคุณบ้างเลย อาจจะแปลว่าเขาเห็นคุณเป็นคนไม่สำคัญไปแล้ว แต่ถ้าคุณส่งข้อความหาเขาถี่ๆ จนน่ารำคาญมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ
7.การตอบรับคำขอร้องของคุณ
เมื่อสาวๆ ขอร้องให้หนุ่มๆ ช่วยแล้ว พวกเขามักจะให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้เสมอ เพราะการช่วยเหลือพวกเธอก็เป็นการแสดงน้ำใจและทำคะแนนหัวใจไปในตัวด้วย แต่ถ้าเขาไม่สนใจหรือแสดงท่าทีรำคาญผิดปกติ ต่อคำขอร้องง่ายๆ อย่างช่วยหยิบของให้หน่อย หรือช่วยซื้อของในร้านสะดวกซื้อให้ที อาจจะแปลว่าเขาไม่อยากเหนื่อยเพื่อคุณสักเท่าไหร่ ลองสังเกตดูให้ดีว่าเขาเต็มใจช่วยสาวคนอื่นมากกว่าคุณหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็ชัดแล้วว่าเขาหมดใจจริงๆ
8.อารมณ์หึงหวง
แม้ว่าการหึงหวงกันจนออกนอกหน้านอกตา อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้คุณลำบากใจอยู่บ้าง แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าเขากลัวว่าจะเสียคุณไป ในทางกลับกันถ้ามีคนเข้ามาจีบคุณแล้วเขายังไม่แสดงความหึงหวงให้เห็นเลยแม้แต่น้อย อาจตีความได้ว่าเขาเต็มใจปล่อยคุณให้ไปหาคนอื่นเพราะหมดรักแล้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับความหึงหวงของแต่ละบุคคลตามปกติด้วย
9.เลิกเป็นห่วงว่าคุณอาจจะได้รับอันตราย
ตามปกติแล้วคู่รักอยากจะให้คนรักของตัวเอง ปลอดภัยจากอันตรายทุกอย่างที่อาจทำร้ายเธอได้ เขาจึงมักจะปกป้องคุณเมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอันตราย หรือไม่ก็บอกให้คุณเลี่ยงจากเรื่องพวกนั้นเสีย แต่ถ้าเขาปล่อยให้คุณต้องไปเสี่ยงอันตรายอยู่คนเดียว ในสถานการณ์ที่ตัวเองช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้คุณได้ อย่างเช่น ไม่ยอมไปรับส่งคุณแม้ว่าจะต้องเดินกลับบ้านคนเดี่ยวในซอยเปลี่ยว หรือไม่ช่วยคุณจากสัตว์ที่คุณกลัว ก็อาจหมายความว่าคุณไม่ได้มีความสำคัญต่อชีวิตเขาเท่าไรนัก
10.เลิกแสดงความรักต่อคุณด้วยการเรียกชื่อเฉพาะ
การเรียกกันด้วยชื่อเฉพาะเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของคู่รักที่บ่งบอกให้เรารู้ว่าเรายังมีความพิเศษต่อกันอยู่ บางคนอาจจะเรียกแฟนว่า ที่รัก ตัวเอง หรืออ้วน ก็แล้วแต่คู่รักแต่ละคู่เลย แต่เมื่อคุณเคยใช้คำเรียกกันแบบนี้มาก่อนแล้วหยุดใช้ไปดื้อๆ มันก็แสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกที่คู่รักมีต่อกันอย่างชัดเจน