ลดความอ้วน ลดน้ำหนัก ลดน้ำหนัก 21 กก. ออกกำลังกายลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก

เปลี่ยนคำดูถูกเป็นกำลังใจ ลดน้ำหนัก 21 กก. โดยไม่ใช้ยา

เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่อดีตเคยลดน้ำหนักแบบผิดๆ จนถึงจุดที่อ้วนมาก ไม่กล้าชั่งน้ำหนัก แต่อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของเธอ.. ตอนนั้นอ้วนสุดคือ 78 กก. ชั่งครั้งเดียว 78 ไม่กล้าชั่งอีกเลย ที่สุดในชีวิตแล้วก็ว่าได้ ตอนนั้นรับน้องแล้วก็ทำงานหนัก ไก่ทอดทุกเย็น น้ำปั่นต้องพิเศษวิปครีม…

Home / แฟชั่น / เปลี่ยนคำดูถูกเป็นกำลังใจ ลดน้ำหนัก 21 กก. โดยไม่ใช้ยา

เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่อดีตเคยลดน้ำหนักแบบผิดๆ จนถึงจุดที่อ้วนมาก ไม่กล้าชั่งน้ำหนัก แต่อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของเธอ..

ตอนนั้นอ้วนสุดคือ 78 กก. ชั่งครั้งเดียว 78 ไม่กล้าชั่งอีกเลย ที่สุดในชีวิตแล้วก็ว่าได้ ตอนนั้นรับน้องแล้วก็ทำงานหนัก ไก่ทอดทุกเย็น น้ำปั่นต้องพิเศษวิปครีม หมูกระทะเยียวยาทุกอาทิตย์ ตี 2-3 ยังนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์อยู่หน้าเซเว่น ทำแบบนี้มาตลอด 3 ปี

แต่ออกกำลังกายหนักมาก เพราะตอนนั้นคิดว่า ออกกำลังกายแล้วจะผอม ยาลดน้ำหนักตัวไหนว่าดีแอมป์ลองมาหมด ถ้าให้นับที่กินตั้งแต่ ม.4 จนปี 3 ก็ประมาณ 8 ยี่ห้อ ราคาถูกยันแพง แอมป์ฟาดหมด

จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนัก

ด้วยความที่ลดน้ำหนักมาตลอดตั้งแต่มัธยม กินยา ออกกำลังกาย อดข้าวเย็น ตบะแตก โยโย่ วนไปมา 4-5 ปี ไม่ผอมสักที ที่บ้านก็บ่นว่าเราอ้วน แต่พอเห็นเราอดข้าวก็สงสาร บอกว่าให้กินไปเถอะ เดี๋ยวตายไปไม่ได้กินนะ เราก็เลยยังกินแบบจัดเต็มต่อไป จนมีเพื่อนมาพูดบ่อยเข้าก็เริ่มไม่โอเค วันนั้นร้องไห้เลย น้อยใจตัวเองว่าทำไมถึงอ้วน แล้วก็โทษทุกอย่างรอบตัว คิดแต่ว่าเราเรียนหนัก เราทำงานเยอะ แต่ไม่เคยโทษตัวเองเลย

จุดเปลี่ยนคือช่วงปิดเทอมปี 3 จะขึ้นปี 4 เห็นพี่ๆ เรียนจบรับปริญญา ใส่ชุดครุย เราเห็นรุ่นพี่ที่ผอมๆ พอใส่ชุดครุยทำไมมันดูตันๆ ทั้งที่ตัวจริงเขาตัวเล็กนะ ถ้าเป็นเราใส่จะไม่ยิ่งกลมเลยหรอ อีกอย่างนึงคือพออ้วนแล้วเหนื่อยง่าย สุขภาพเริ่มไม่ดีละ หรือที่ผ่านมาเราลดน้ำหนักแบบผิดๆ มาตลอด (เพิ่งมาคิดได้) ก็เลยเปลี่ยนความคิด

ตอนนั้นลองมองหาคนที่เขาประสบความสำเร็จ ดูเขาเยอะๆ ดูหลายคนมากว่าเขาทำยังไง แค่กินดีๆ ออกกำลังกายน้อยๆ มันทำได้จริงหรอ ตั้งใจลองดู รอบนี้เรามาพัฒนาตัวเองกัน จะลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายแล้วจริงจัง คนอื่นทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้ แค่ที่ผ่านมาเราไม่เอาจริงเอง ของแบบนี้อยู่ที่ใจล้วนๆ ก็แค่เลิกหาข้ออ้าง เลิกบ่น แล้วลงมือทำ

แอมป์จะชอบจดบันทึกประจำวันในปฏิทินเลย ว่าอะไรควรทำในแต่ละวัน มี 5 ข้อ คือ

1.ออกกำลังกาย

2.ดื่มน้ำ 2 ลิตร

3.นับแคล

4.ขับถ่ายทุกวัน

5.ยิ้มให้ตัวเองทุกวัน

เอาจริงเคล็ดลับจริงๆ ไม่มีเลย เพราะก็แค่สิ่งดีๆที่เราทุกคนรู้อยู่แล้วว่า กินดี ออกกำลังกาย สม่ำเสมอ อดทน มีวินัย แค่นั้น แต่ก็คงจะมีอยู่อย่างนึงคือ คำว่า ลำบากตอนนี้สบายวันหน้า เพราะช่วง 8-9 เดือนแรก คือออกกำลังกายทุกวัน 7 วัน/สัปดาห์ (ช่วงปิดเทอมปี 3 ว่างมากๆ) กินคลีนมากๆ ตัดน้ำหวาน 100% ปรับพฤติกรรมตัวเองเปลี่ยนไป 80% เลยก็ว่าได้ บังคับตัวเอง ยอมอดทนลำบาก จนผ่านช่วงที่มันรู้สึกว่ายากนะยากมาก จนตอนนี้เข้า 1 ปีแล้ว

ช่วงเดือนที่ 10 คือเดือนที่ได้กินหมูกระทะครั้งแรก ให้รางวัลตัวเอง เริ่มมีชีทเดย์เพื่อให้รางวัลตัวเอง ตอนนี้มันรู้สึกไม่ฝืนเลย รู้สึกว่า เราปรับให้มันเข้ากับชีวิตเราได้ กินดีแบบอร่อยแฮปปี้ มีเยอะมาก แค่เราปรับ mindset ของเรา ตอนนี้ไม่ต้องออกกำลังกาย 7 วันก็แฮปปี้ได้ กินคลีนไม่จำเป็นต้องจืดชืด ขนมก็ยังกินได้ ทุกอย่างมันต้องพอดี มันถึงจะดี มันจะรู้สึกดีกับตัวเองมากเวลาหยิบกางเกงมาใส่แล้วมันหลวม ต้องเอาเอวเข้าทุกตัว นั่นแหละความสำเร็จ

อดทนเท่านั้นคือทางรอด ฮึบ!!!

ตารางการออกกำลังกาย

ว่างตอนไหนก็ออกได้ ออกตอนว่างเลย ตอนนี้ปี 5 ฝึกสอนอยู่โรงเรียน เลิก 16:30 ก็จะออก 6 โมงถึง 2 ทุ่ม เสาร์อาทิตย์ก็จะออกช่วงบ่ายๆ วันอาทิตย์บางวันก็พักให้รางวัลตัวเอง

หลายคนชอบถามว่าออกตอนไหนดี ออกตอนนี้เขาว่าไม่ดีไรงี้ แอมป์ว่ามันอยู่ที่การใช้ชีวิตมากกว่า คนเราเวลาไม่เหมือนกันนะ เอาจริงออกไปเถอะ ตอนไหนก็ได้ที่ว่าง แค่อย่าโหม เอาแต่พอดี เพราะจริงๆ การที่เราออกไปเที่ยว ไปทำงาน เดิน นั่นคือออกกำลังกายแล้วนะ คิดในทางบวกไว้ อย่าไปซีเรียส

ไอเดียในการทำอาหารคลีนในแต่ละครั้ง

“ง่าย” คำเดียวเลย เพราะเราอยู่หอ มันจำกัดมากๆ สำหรับคนที่ไม่ได้มีครัวอยู่บ้านหรือคอนโด ราคาก็ต้องไม่แรงเกินไป มันจะท้อ ไม่อยากให้คิดว่าอาหารคลีนต้องแพงเสมอไป อาหารพื้นๆจากธรรมชาติเบสิคๆเลย นั่นแหละดี ก่อนจะเริ่มมีหม้อสุกกี้ แอมป์ทำอาหารจากหม้อหุงข้าวอย่างเดียวเลย แม่ให้มาแค่หม้อหุงข้าว หม้อหุงข้าวธรรมดาเลย จับฉลากงานปีใหม่ได้ หม้อเล็กๆ อาหารก็แช่ลังโฟมเอา ไม่มีข้ออ้างในการที่อยู่หอแล้วจะกินคลีนไม่ได้ อันนี้ไม่ใช่เลย อยู่ที่เราจะคิด จะทำจริงจังไหม

คุยกับตัวเองเยอะๆ ถามตัวเองเยอะๆ ว่าอยากเป็นแบบไหน พอใจแบบไหน ทำเพื่อตัวเอง ฉันรักตัวเอง ท่องไว้ค่ะ คนที่มาดูถูก มาว่า มาบูลลี่เรา แล้วไงอะ เขาก็ได้แค่พูดนะ ถ้าเราไม่ลงมือทำ ผลก็เกิดกับเราคนเดียว คนที่อ้วนขึ้นสุขภาพไม่ดีก็คือเรา ไม่ใช่เขาเลย เพราะฉะนั้น เพื่อตัวเองค่ะ แอมป์ทำได้ ทำไมทุกคนจะทำไม่ได้ เชื่อในตัวเองหน่อย แล้วความมั่นใจจะมาหาเรา

ขอบคุณผู้หญิงสร้างแรงบันดาลใจ แอมป์-ปฏิมา ยากรณ์
นิสิตครู มศว ปี5 คณะศิลปกรรมศาสตร์ (ครูสอนศิลปะ)
IG : diaret.ap