เป็นคนดังหรือคนธรรมดา ถ้าหากมีความรักแล้ว ครอบครัวไม่กีดกัน ถือว่าเป็นความโชคดีของทั้งคู่ที่มีครอบครัวคอยสนับสนุน แต่สำหรับบางคู่กลับไม่เป็นอย่างนั้น ดังเช่น คู่ของ คลาเรนซ์ แทน หนุ่มลูกครึ่งสิงคโปร์-ฮ่องกง และเอ็ดน่า โซเฟีย สาวผิวสีชาวกานา ที่เจออุปสรรคพ่อไม่ปลื้ม ต้องใช้เวลากว่า 3 ปี จนกว่าพ่อและญาติฝ่ายเจ้าบ่าวจะไฟเขียวให้แต่งงานลงเอยกันได้
งานแต่งงานของ คลาเรนซ์ แทน และเอ็ดน่า โซเฟีย
“อย่างที่ทราบกันดีว่าครอบครัวคนจีนมักจะเคร่งกับการเลือกลูกสะใภ้เข้ามาเป็นคนในครอบครัวมากๆ ยิ่งหลานชายไปคบหาดูใจกับหญิงชาวแอฟริกันผิวสี ยิ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากมากๆ แน่นอนว่าพอครอบครัวรู้ว่าผมกำลังคบกับเอ็ดน่าปัญหาต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะพ่อที่ออกตัวแรงมากว่าไม่เห็นด้วยกับความรักของผม ที่ต่างทั้งด้านวัฒนธรรม และเชื้อชาติ ถึงกับยื่นคำขาดเลยว่าจะไม่มาร่วมอวยพรในวันแต่งงาน”
“เขาเชื่อว่ามันจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่ ไม่เป็นผลดีต่อชีวิตคู่ในอนาคต รวมถึงด้านธุรกิจด้วย หากผมอยากทำธุรกิจในแถบเอเชีย” คลาเรนซ์ แทน เล่าย้อนถึงอุปสรรครัก
เจออุปสรรคก้อนใหญ่ขวางทางรักแบบนี้ หลายคนอาจจะยอมแพ้ไปแล้ว แต่บอกเลยว่า ทั้งคู่ไม่เคยยอมแพ้จ้า แม้จะมีทะเลาะกันบ้างแต่ก็จับมือกันแน่นเพื่อพิสูจน์ความรักครั้งนี้
คลาเรนซ์ จึงวางแผนให้ครอบครัวของเขาได้เจอเอ็ดน่า เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ใช้เวลาร่วมกัน ทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน ซึ่งแน่นอนว่ามันสร้างความอึดอัดไม่น้อย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าพ่อจะไม่ยอมรับเอ็ดน่า แต่เขาก็ยังให้การต้อนรับอย่างสุภาพ แต่สำหรับเอ็ดน่า เธอสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่การต้อนรับอย่างเต็มใจ จนทะเลาะเรื่องนี้กับคลาเรนซ์หลายครั้ง แต่คลาเรนซ์ก็ไม่ละความพยายามถึงขนาดโกหกเอ็ดน่าว่าครอบครัวของเขาอยากชวนเอ็ดน่ามาทานข้าวด้วย แต่ความจริงแล้วตรงกันข้าม…
น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อนได้ นับประสาอะไรกับใจคน ในที่สุดครอบครัวของคลานเรนซ์ ก็ยอมรับเอ็ดน่าเพราะหลังจากได้ใช้เวลาด้วย พวกเขาก็พบว่าเอ็ดน่า เป็นคนฉลาด เอาใจใส่ครอบครัว มีน้ำใจ ขยัน และสุภาพ อีกทั้งเธอยังเป็นแรงสนับสนุนสำคัญทั้งเรื่องของเงินและกำลังใจที่ทำให้คลาเรนซ์ทำธุรกิจสำเร็จอีกด้วย กลายเป็นว่าคนที่โชคดีคือคลาเรนซ์ต่างหากที่ได้พบเธอ
หลังจากคบกันกว่า 3 ปี ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้จัดงานแต่งงานกัน ท่ามกลางความยินดีของครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งคนที่แฮปปี้สุดๆ ก็คือ พ่อของคลาเรนซ์ นั่นเอง ที่งานนี้ขอโชว์เล่นแซ็กโซโฟนเองซะด้วย
คลาเรนซ์ เล่าว่า “มันยากมากกว่าที่เราสองจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้ แต่เพราะเธอคือคนที่ผมรักมากที่สุด ผมจึงไม่ยอมแพ้เลยสักครั้ง และวันนี้มันคุ้มค่ามากที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่กับเธอ”
คลิป > ถ้าจะมีใครรักเรา ต้องรักในสิ่งที่เราเป็น ฟังมุมมองความรัก แบบฉบับ หญิงแม้น
เรียบเรียงโดย Women Mthai Team
ที่มาและภาพประกอบ nextshark.com และ เฟซบุ๊ก Edna Sophia