แบรนด์เนม ที่สาวๆ มักอ่านออกเสียงผิด ชมคลิป!!
กระเป๋าราคาแพงกว่าจะได้มาใบหนึ่งก็ไม่ใช่ง่ายๆ ราคาที่แพงลิบลิ่ว ทำให้คุณต้องเก็บหอมรอมริบ ตั้งใจเก็บเงินจนกว่าจะได้มา แต่..เมื่อกระเป๋ามันแพง ก็ต้องมีของเก๊ของปลอมเป็นธรรมดา และใครกันล่ะที่อยากจะได้ของปลอมในราคาของแท้กันล่ะ ? เพราะฉะนั้นอย่าชะล่าใจ เรามาดูวิธี เช็กกระเป๋าแบรนด์เนม ของแท้กันดีกว่า ว่าจะมีวิธีไหนกันบ้าง
1.ตั้งใจดูรายละเอียดของกระเป๋าบ้าง
ทุกแบรนด์ระดับโลกนั้นล้วนแล้วแต่เช็คจุดด่างพร้อยก่อนปล่อยออกวางขายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นทุกรายละเอียดของกระเป๋าจะต้องมีความ “เป๊ะ” “ปัง” เพราะฉะนั้นเส้นด้ายต่างๆที่เย็บจะไม่มีทางหลวม และของแท้นั้นจะทำด้วยฝีมือล้วนๆ หากคุณเห็นข้อบกพร่องแค่เพียงจี๊ดเดียว และคนขายบอกว่าเกิดจากความผิดพลาดทางการผลิตล่ะก็ อย่าไปฟังเชียวล่ะ เพราะของแท้ต้องเป๊ะเท่านั้น!
2.ซิป กระดุม ตะขอ
นอกจากสภาพภายนอกกระเป๋าที่ต้องดูแล้ว ตะขอ กระดุม ซิป ตัวล็อค ก็ต้องห้ามละเลย บริเวณเหล่านั้นต้องอยู่ในสภาพที่เป๊ะ พร้อมสลักชื่อและหมายเลข ซึ่งแสดงความน่าเชื่อถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพ ยกตัวอย่างเช่น กระเป๋า Hermes จะมีการสแตมป์โลโก้ ‘Hermes Paris made in France’ บริเวณฝาพับกระเป๋าพร้อมระบุปีและวัตถุดิบที่ใช้ในการทำกระเป๋าด้วย
แบรนด์ดังๆจะไม่ใช้หนังหยาบๆหรือหนังคุณภาพต่ำ ส่วนใหญ่จะใช้แต่หนังคุณภาพสูงเท่านั้น จะไม่ใช้วัสดุที่เป็นน้ำมันและเหนียวหนึบ ทรงอาจจะนุ่มนิ่มและยืดหยุ่นแต่สุดท้ายรูปร่างของกระเป๋าจะยังคงเดิม
4.ตราสัญลักษณ์ชื่อ
อย่าสนใจแต่รายละเอียดมากไป เพราะสิ่งสำคัญที่สุดอย่างตราสัญลักษณ์ชื่อก็แสนสำคั๊ญสำคัญ โดยเฉพาะฟอนต์ตัวอักษร ความหนาความบาง ความเลือนลาง หรือแม้แต่การสะกด“ผิด” เช็คให้ดีเพราะไม่งั้นคุณอาจมีเงิบได้
5.Serial number
สุดแสนจะสำคัญเลยล่ะ เพราะถ้าคุณอยากได้ของแท้ ของจริง ไม่มีเทียมปน เลขซีเรียลนัมเบอร์ของกระเป๋านั้นจะถูกซีลและติดไว้อย่างพิเศษ ไม่สามารถดึงออกได้ง่ายๆ ในขณะที่ของเทียมนั้นจะสกรีนง่ายๆ และติดกาวผิวๆเท่านั้น
6.การหีบห่อ แพ็คเกจ
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่แสนจะเว่อวังคุณภาพดีแล้ว หีบห่อของผลิตภัณฑ์นั้น คุณเองก็ต้องสังเกตเช่นกัน ส่วนใหญ่มักจะทำจากวัตถุดิบคุณภาพดี ไม่มีจุดบกพร่อง ที่สำคัญคือไม่คิดราคาเพิ่ม
7.ลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแบรนด์ใดซักแบรนด์ ของให้ลองศึกษาจุดเด่นของแบรนด์นั้นๆก่อน และจดจำไว้ว่าแต่ละแบรนด์นั้นล้วนมีจุดเด่นและภาพลักษณ์ของแบรนด์ตัวเองเสมอ ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์สุดกรี๊ดของสาวๆ หลายคน เช่น Prada จะใช้ลายเส้นสีที่เข้ากัน ไม่มีลายเส้นสีที่ตัดกันมากจนเกินไป
ที่มา brightside
เรียบเรียงโดย Women Mthai Team