เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า “ความสำเร็จของคุณ จะมาจากทัศคติ การใช้ชีวิต และผู้คนที่รายล้อม” ทว่า วิทยาศาสตร์สามารถบอกคุณได้ล้ำกว่าอีกขั้น ด้วยการศึกษาและการค้นคว้า พบว่า คู่ชีวิต ที่คุณเลือก คือ อีกหนึ่งเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
จากการศึกษาของ Carnegie Mellon University (CMU) พบว่า คู่สมรสสามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของคุณได้อย่างมาก เพราะจะนำไปสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวได้ในที่สุด ซึ่งการที่มีคู่สมรสคอยสนับสนุนในสิ่งที่คุณทำ มีแนวโน้มที่จะให้โอกาสตัวเองได้ประสบความสำเร็จมากกว่า
หลังการศึกษาจากคู่สมรส 163 คู่ คู่รักแต่ละคนจะได้รับเลือกโจทย์ปริศนาเพื่อให้หาคำตอบและชิงรางวัล ในขณะนั้นนักวิจัยก็จะจดบันทึกการมีปฏิสัมพันธ์ของแต่ละคู่ และพวกเขาพบว่า คู่ที่ให้กำลังใจและสนับสนุนซึ่งกันละกัน มักจะชอบความท้าทายและการแข่งขันเพื่อชิงรางวัล ในขณะที่คู่ที่มีความเห็นขัดกัน มักจะเลือกโจทย์ที่ง่ายกว่า
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะยังมีรายงานว่า คู่รักที่่ชื่นชอบโจทย์ที่ท้าทายยังมีความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ดีกว่า มีการเจริญเติบโตทางความคิด และมีความสุขที่มากกว่าคู่อื่นๆ
จากข้อมูลของ Brooke Feeney ผู้เขียนนำการศึกษาและศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาในวิทยาลัยมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ของ CMU พบว่า การสนับสนุนแนวคิดที่ผู้คนเลือกในการตัดสินใจที่เฉพาะเจาะจงเช่น การหาโอกาสในการทำงานหรือการหาเพื่อนใหม่ มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาว และเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต
ทั้ง Barack และ Michelle Obama, Mark Zuckerberg และ Pricilla Chan รวมถึง Jay-Z และ Beyonce ที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของคู่รักคนดังที่ประสบความสำเร็จ
ทุกคนมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกันและอาศัยอยู่ในแวดวงที่แตกต่างกันไป แต่ทุกคนต่างก็ยอมรับในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ พวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เป็นอยู่นี้ หากไม่มีคนสำคัญคอยเคียงข้าง
ไม่ว่าจะต้องกล่าวปราศัยที่ไหน ทั้งอดีตประธานาธิบดี Barack Obama หรือแม้แต่เจ้าพ่อโซเชียลอย่าง Mark Zuckerberg และตัวแม่ของวงการอย่าง Beyonce ต่างก็กล่าวขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังและเป็นแรงสนับสนุนของพวกเขาเสมอ
โดยสรุปแล้ว การศึกษานี้ตอกย้ำแนวความคิดที่ว่า การมีคู่ชีวิตที่ดีจะพาเราไปสู่เส้นทางของความสำเร็จ และพวกเขาพร้อมที่จะผลักดัน รวมถึงคอยประคองเราในวันที่เหนื่อยล้า เพื่ออนาคตที่วาดฝันไปพร้อมๆ กัน
5 ภาษารักเสริมสัมพันธ์ กับ อ.อ้าย Horo Coaching
ที่มา ideapod.com