คนเราบางทีก็เข้าใจยากเหมือนกันนะ ตอนโสดก็พร่ำเพ้ออยากมีคนรัก มุ่งหน้าไขว่คว้าหาความรักแบบไม่ลืมหูลืมตา ใครหล่อหน่อย ใครทำดีด้วยหน่อยก็ใจอ่อน แต่พอมีแฟนปุ๊บ ตัวติดกันปั๊บ หลายครั้งก็แอบรู้สึกเหมือนกันว่าตอนโสดฉันสบายกว่านี้ สุขภาพจิตดีกว่านี้ เงินเหลือเก็บเยอะกว่านี้! ตกลงนี่ชีวิตฉันต้องการอะไรกันแน่
ไม่อยากโสดแล้ว ขอมีใครสักคนจับมือเดินไปด้วยกัน
อยากมีใครสักคนให้ออดอ้อนบ้างในวันเหนื่อยๆ ก็อยากกระโดดกอดแฟนบ้างป่ะ เห็นคู่เพื่อนทำแบบนั้นแล้วก็อยากมีบ้าง คงจะรู้สึกดีไม่น้อยเลยล่ะ อยากมีคนที่เราจะทิ้งตัวลงได้โดยที่มีอ้อมกอดเขารอรับอยู่
อยากพูดคำว่า ‘ฉันรักเธอ’ ใจจะขาด บอกรักตัวเอง บอกรักพ่อแม่มานาน อยากมี Someone ที่ได้ใจเราไปเต็มๆ สักที โสดมานานก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าครั้งแรกที่ได้พูดคำๆ นั้น ใจเราฟินแค่ไหน!
อยากมีคนโทรปลุกตอนเช้า และบอกฝันดีทุกคืน นาฬิกาปลุกก็ตั้งเองได้แหละ แต่ตอนนี้อยากมีคนโทรปลุก อยากทำเสียงงัวเงียใส่แล้วเขาตอบมาว่า ‘ตื่นได้แล้วครับคนดี’ หรือตอนก่อนเข้านอน ได้โทรคุย บอกฝันดีกันทุกคืนก่อนนอน คงจะหลับฝันดี
มีคนช่วยแชร์ แทบจะทุกอย่างในชีวิต โดยเฉพาะผู้หญิงกินไม่อั้นอย่างเรา ถ้าได้นั่งกินข้าวกับแฟน เราคงอยากสั่งทุกอย่างที่อยากกิน เพราะรู้ว่าจะมีคนช่วยกิน แต่ถ้าเรายังโสดๆ ไปกินข้าวคงสั่งได้แค่ข้าวราด หรือก๋วยเตี๋ยว
คนมีแฟนมักจะแอบอิจฉาคนโสดลึกๆ อยู่เหมือนกัน . . .
อยากไปไหนก็ไป อยากทำอะไรก็ทำ แถมยังเฟลิร์ตหนุ่มหล่อที่ผับได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาหาว่าเธอเป็นนางวันทองสองใจ ส่วนคนมีคู่น่ะหรอจะทำอะไรก็ต้องนึกถึงใจคนที่บ้าน ไม่ได้อึดอัดใจหรอกนะ แต่เกรงใจอ่ะ
เวลาไปเที่ยวจะไปคนเดียวก็เหงา เพราะในใจน่ะจะเดินทางไกลหรือใกล้แค่ไหนก็คิดถึงแฟนอยู่ดี ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน ค่าใช้จ่ายคูณสอง เจอแฟนชอบเที่ยวไม่เหมือนกันก็ต้องกระเตงกันไปทุกที่อีก เขาอยากกินอันนั้น ฉันอยากกินอันนี้ นี่แหละคือความเสียสละที่แท้จริง ผลัดๆ กันไป
รักเขาก็ต้องรักคนที่เขารักด้วย เพื่อนเขาเยอะว่าเหนื่อยแล้ว ครอบครัวเขาเยอะนี่เหนื่อยกว่า 100 เท่า แล้วบอกเลยว่าเรื่องของบุพการีฉันไม่แตะของคนอื่นจริงๆ ใครๆ ก็รักพ่อรักแม่ ถ้าเป็นฉันก็อยากให้เขารักครอบครัวฉันเหมือนกัน เหมือนเราได้ครอบครัวใหม่เพิ่มอีกหนึ่งตอนโตต้องปรับตัวกันยกใหญ่ค่ะคุณ
งานแต่งงานที่ฉันเคยฝันเอาไว้ตอนโสด เอาเข้าจริงมันไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่สวยหรูอย่างเดียวหรอกนะ มันคือเงินทั้งนั้น เพื่อนเจ้าสาวเป็นสิบ แขกหลายร้อย ไม่จัดก็ไม่ได้เพราะพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย รบเร้ามาเหลือเกิน กว่าจะอลังการงานสร้างได้ขนาดนี้ บอกเลยว่า หมดไปไม่รู้เท่าไหร่ (เห้อ)
ควรใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจว่าเข้าสู่ประตูวิวาห์ ? แล้วหลังแต่งงานแล้วควรปรับตัวอย่างไรบ้าง
เรียบเรียงโดย Women Mthai Team