จบไปแล้วสำหรับการประกวดนางงามที่หลายๆ คนจับตามอง ซึ่งสาวงามที่คว้ามงกุฎไปครองก็คือ ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น หมายเลข 19 นั่นเองค่า เรียกได้ว่าทั้งสวย ทั้งเก่ง Performance ดี แถมยังตอบคำถามได้จับใจมากๆ อีกด้วย วันนี้ Women MThai จะพามาดู คำถาม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ทั้งรอบ 5 คนสุดท้าย และ 3 คนสุดท้าย มาดูกันค่ะว่าสาวงามแต่ละคนตอบว่าอะไรกันบ้าง?
ภาพบรรยากาศรอบตัดสิน มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019
คลิป > เปิดคำถามบนเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 เจอแบบนี้ สาวๆ จะตอบว่าอะไรกัน
คลิป > แฟนคลับเฮสนั่น! วินาที มงลง ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019
คำถามรอบ 3 คนสุดท้าย Empowering Question
คุณคิดเห็นอย่างไร กับการที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องอยู่เพื่อลูก และลูกยังเด็กอยู่ ทั้งที่เธอไม่ได้รักสามีของเธอแล้ว หรือเพียงแค่อยู่ด้วยกันตามหน้าที่
เบลล่า ธนัชพร บุญแสง : เบลล่ามีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้ แม่ของเบลล่าเลี้ยงเบลล่ามาตัวคนเดียว จริงๆ แล้วคือหย่าร้างกัน แต่ว่าคือพ่อกับแม่ก็อยู่ด้วยกัน แต่คือแม่กับพ่อพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อที่จะให้ลูกทั้ง 2 มีความสุข ดังนั้นเบลล่าคิดว่า… (สัญญาณหมดเวลา)
ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น : “To be honest, when I was a kid, I thought that my parents were together because of me. Because when I look at other couples, when I look at my friend ‘s parents, they looked like they were intimate.
But I believe, for a woman, to stay together with a guy even though she doesn’t love him just for a kid, to have a full family, you have to appreciate the sacrifice that the mother can do for a child, so that she or he can live in a very happy family and can grow to be the best that they can be by being loved and cherished by their full family.” (ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันคิดว่าพ่อแม่พ่อแม่อยู่ด้วยกันเพราะฉัน เพราะทุกครั้งที่มองไปที่ครอบครัวอื่นหรือครอบครัวของเพื่อน พวกเขาดูใกล้ชิดกัน แต่ฉันเชื่อว่า สำหรับผู้หญิงที่ต้องอยู่กับผู้ชายที่ไม่ได้รัก เพื่อลูกของเขาแล้วนั้น คุณควรที่จะยกย่องและเข้าใจเขา เพราะเขาทำเพื่อลูก เพื่อให้ลูกได้อยู่ในครอบครัวที่มีความสุข และเติบโตมาในรูปแบบที่ดีที่สุด ด้วยความรักและใส่ใจจากครอบครัว)
มิเรียม ศรพรหมมาศ : “ฉันเคยมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ก่อนที่พ่อแม่จะหย่าร้างกัน ทั้งคู่ยังอยู่ด้วยกันเพราะความรักที่มีให้ฉันและน้องชาย และนั่นคือการปกป้องชีวิตของฉัน ความรักไม่เคยทำให้ใครล้มเหลว ไม่ว่าจะไปที่ไหนหรืออยู่ที่ไหนก็ตาม ฉันยังได้รับความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข และฉันก็รักผู้อื่นในแบบนั้นเช่นกัน ซึ่งความรักของพ่อแม่ของฉันก็ไม่เคยลดลงเลย”
คำถามรอบ 5 คนสุดท้าย
เมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศแคนาดา มีสาวข้ามเพศชนะการแข่งขันปั่นจักรยานในลีกของผู้หญิง คุณคิดว่าการที่สาวข้ามเพศมีสิทธิ์เข้าแข่งขันกีฬาในลีกของผู้หญิง ตัวคุณเองมีความเห็นอย่างไร และขอเหตุผลประกอบความคิดเห็นของคุณ
เบลล่า ธนัชพร บุญแสง : “สำหรับเบลล่า เบลล่าคิดว่าการที่เราจะทำอะไรบ้างอย่างมันไม่ได้อยู่ที่เรื่องเพศ มันอยู่ที่ความคิด มันอยู่ที่จิตใจของเรา ดังนั้นเบลล่าคิดว่า ถ้าเราคิดอยากจะทำอะไรบางอย่างแล้ว เราก็ควรที่จะทำให้ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ในวันที่โลกมักจะพูดถึงความไม่เท่าเทียม คุณคิดว่ามีความเท่าเทียมอะไรบ้างที่มีอยู่แล้ว และดีอยู่แล้วที่คุณประทับใจ
เฟิร์ส ภัทราพร หวัง : “สำหรับเฟิร์สนะคะ ความเท่าเทียมที่ดีอยู่แล้ว เฟิร์สคิดว่าเป็นการปฏิบัติในประเทศไทย ที่ให้กับเพศที่สาม และผู้ชาย-ผู้หญิงเท่าเทียมกันค่ะ และเฟิร์สก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน พ.ร.บ. คู่ชีวิตให้เกิดขึ้นในประเทศไทยได้จริงค่ะ ขอบคุณค่ะ”
จากในหลายกรณีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีผู้หญิงจำนวนมาก ถูกสามีทำร้ายร่างกายต่อเนื่องอย่างยาวนาน จนวันหนึ่งเธอได้ฆ่าสามีในการป้องกันตัว และส่วนใหญ่ถูกตัดสินจำคุก คุณมีความเห็นอย่างไร และให้เหตุผลประกอบ
ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น : “ฉันเชื่อว่า มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่ผู้หญิงก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดและความทรมาน โดยที่เธอไม่สามารถพูดคุยกับใครได้ และไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ในสถานการณ์นั้น ฉันเชื่อว่าเราควรก่อตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยผู้หญิงเหล่านี้ เพื่อให้พวกเธอไม่ต้องทรมานอีกต่อไป พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ พวกเขาจะได้มีความสุข เป็นอิสระ และไม่ต้องเจอเหตุการณ์เหล่านั้นอีก”
ปีนี้มีนักเคลื่อนไหวเยาวชนออกเคลื่อนไหวหลายคน รวมถึงเกรต้า ธันเบิร์ก ที่ออกมาเรียกร้องวิกฤตการณ์สภาวะอากาศ เป็นกระบอกเสียงให้โลก และสิ่งแวดล้อม และเธอได้กล่าวไว้ว่า ผู้ใหญ่ได้ขโมยอนาคตของเด็กๆ ไป คุณมีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
มิเรียม ศรพรหมมาศ : “มิเรียมเพิ่งฟังคำสัมภาษณ์ของน้องเกรต้าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รู้สึกภูมิใจมากๆ เพราะน้องเขาบอกว่า ถ้าเราพูดกับพ่อแม่ ถ้าเขาฟังเราได้ แล้วสามารถที่จะทำให้คนอื่นฟังได้ด้วย และในพระคัมภีร์มันบอกว่า Do not look down on your youth for the age มิเรียมเชื่อว่าเด็กมองสิ่งที่เรามองไม่เห็นค่ะ”
ตามสถิติขององค์การสหประชาชาติ ทุกวันจะมีเด็กสาวประมาณ 33,000 คนทั้งโลก ถูกบังคับให้แต่งงาน ทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพื่อลดภาระเศรษฐกิจของครอบครัว คุณคิดเห็นอย่างไรกับปรากฎการณ์ทางสังคมเช่นนี้
คิม โดเชคาโลวา : “คิมคิดว่ามันเป็นข้อกฎบังคับของประเทศเขานะคะ แต่ว่าสิทธิของมนุษย์คือ เขามีความเชื่อและมันมีสิ่งที่มีคนเคยบอกคิมว่า God will never give us things that we can’t handle และฉันคิดว่าพวกเขาสามารถควบคุมและจัดการได้ ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตามค่ะ”
เรียบเรียงโดย Women MThai Team