แซลลี เสาวลักษณ์ แมคโดนัลด์ คือ ผู้หญิงที่เราจะมาพูดคุยกันในวันนี้ เธออายุ 50 เป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของหน้าที่การงาน แต่สิ่งที่เธอรู้สึกว่ายังไม่ประสบความสำเร็จมานานกว่า 40 กว่าปี คือการ ลดน้ำหนัก
เธอเล่าย้อนเรื่องราวกลับไปตั้งแต่สมัยสาวๆ ว่าไม่เคยเข้าใกล้คำว่าผอมเลย อวบอ้วนมาตลอดตั้งแต่จำความได้ น้ำหนักในสมัยนั้นไม่ต่ำกว่า 55-56 ก.ก. ซึ่งเธอก็รู้ตัวเองดีว่าส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมการกินของเธอนั่นเอง โดยเฉพาะตอนท้องลูกคนแรก มีอาการแพ้ท้องหนักมาก และก็กินเก่งหนักมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง ขนมเค้ก ข้าวมันไก่ จนแม่ค้าในซอยจำได้หมด เพราะอุดหนุนอยู่เป็นประจำ น้ำหนักตอนนั้นก็พุ่งทะยานไปที่เกือบ 90 ก.ก. พอคลอดลูกออกมา น้ำหนักก็ลงมานิดหน่อย แล้วก็คงความอ้วนอย่างนั้นต่อไป จนมาท้องลูกคนที่สอง คราวนี้น้ำหนักไม่ได้พุ่งทะยานมาที่เกือบ 90 กิโลกรัม แต่ทะลุไปที่ 91 !!!
การันตีความอ้วนหลังจากคลอดลูก
น้ำหนักที่ขึ้นแล้วไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เริ่มส่งผลกระทบกับชีวิตมากขึ้น หุ่นที่อ้วนตัน ทำให้ใส่ชุดไหนก็ไม่สวย หน้าตาก็ดูแก่กว่าวัย เธอเล่าให้ฟังว่า น้องชายจะแต่งงาน เลยไปตัดชุด ปรากฏว่าสัดส่วนในตอนนั้น ทำเอาปวดใจไปหลายวัน 46-44-48 ตัวเลขนี้จำได้ขึ้นใจมาจนถึงปัจจุบัน เป็นสัดส่วนที่พีคสุดในชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นความอ้วนยังทำให้ภาพลักษณ์ภายนอก เธอดูเหมือนอาซิ้ม มีคนเข้ามายกมือไหว้สวัสดีหลายคน เพราะนึกว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ และนอกจากหุ่นจะไม่สวยแล้ว สุขภาพยังไม่ดีอีกด้วย ในตอนนั้นอายุแค่ 30 กว่าๆ แต่เดินขึ้นบันไดแล้วเหนื่อยหอบ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม ข้อเข่าก็ไม่ค่อยโอเค เจ็บแปล๊บๆ อยู่บ่อยครั้ง เลยตัดสินใจลดความอ้วนอย่างจริงจัง
แต่ด้วยสมัยนั้นยังไม่มีอินเตอร์เน็ตแพร่หลาย เลยไม่รู้ว่าจะไปหาข้อมูลมาจากไหน วันหนึ่งเผอิญเดินผ่านหน้าห้างสรรพสินค้า เห็นมีคนมาเต้นแอโรบิค เลยลองดูบ้าง วันแรกก็เห็นผล เต้นไปไม่ถึง 5 นาที ก็หน้ามืด จะเป็นลม จนต้องไปหาน้ำหวานมากิน รู้เลยว่าร่างกายอ่อนแอมากขนาดไหน แต่ยังไม่ลดละความพยายาม ค่อยๆ ฝึกเต้นไปแบบนั้นอยู่ทุกวัน หนึ่งปีผ่านไป น้ำหนักเหลือ 76 ก.ก. ถือเป็นการลดน้ำหนักได้สำเร็จเป็นครั้งแรก แต่ก็ยังไม่เห็นความแตกต่างเท่าไหร่ เพราะยังมีความสุขกับการกินอยู่ เธอเล่าพร้อมกับหัวเราะเล็กๆ ว่าแม่บ้านคนเก่าทำกับข้าวเก่งมาก พอแม่บ้านคนนี้ลาออก ก็แอบดีใจนิดๆ เพราะจะได้ไม่ต้องกินอาหารจัดหนักทุกวัน ช่วงนั้นเลยหันมาทำกับข้าวกินเอง
ส่วนหนึ่งของเมนูอาหารที่คุณแซลลี่ทำเอง
เมื่อน้ำหนักลงไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นก็ลุยลดความอ้วนต่อไป แต่ครั้งนี้ลดด้วยการกินน้อย เพราะใจร้อน อยากลดน้ำหนักเร็วๆ มื้อเย็นแทบจะไม่กินเลย ส่วนมื้อเช้า กลางวัน จะเน้นไปที่ผักกับปลานึ่ง และเพิ่มการออกกำลังกายด้วยการวิ่งวันละ 1-2 ชั่วโมง เพราะกว่าจะรอเต้นแอโรบิคตอนเย็นก็นานเกินไป ผสมกับการการเล่นเวทที่ฟิตเนส พอทำไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าลดเร็วมาก 5 เดือน ลดไปประมาณ 25 ก.ก. ซึ่งถือเป็นการลดความอ้วนได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 2
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ไลฟ์สไตล์ก็เปลี่ยนไป เริ่มสูบบุหรี่ และดื่มไวน์หนักมาก น้ำหนักก็เริ่มขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องพบลูกค้าอยู่เป็นประจำ จึงต้องแต่งตัวสวยตลอด แต่เสื้อผ้าเดิมที่เคยใส่ได้ ก็กลับใส่แล้วคับ จึงเริ่มรู้ตัวว่ากลับมาอ้วนอีกแล้ว
จุดเริ่มต้นลดน้ำหนักเป็นครั้งที่ 3 เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลังจากแต่งงานครั้งที่ 2 เธอเล่าว่าดื่มไวน์กับสามีทุกวัน วันละ 1-2 ขวด และสูบบุหรี่จัด จนวันหนึ่งไปเที่ยวทะเล มองเห็นกองบุหรี่ที่เยอะจนน่าตกใจ รู้สึกกลัวตายขึ้นมานิดๆ เลยคุยกับสามีว่า “ถ้าไม่หยุดตอนนี้ เราต้องตายเร็วแน่ๆ” ประกอบกับในช่วงนั้น เพื่อนรอบตัวที่รู้จัก เริ่มป่วยเป็นโรคต่างๆ และบางคนก็ล้มหายตายจากกันไป เลยตั้งใจที่จะเลิกบุหรี่จริงจัง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลูกสาวบอกให้เลิก ก็ยังไม่คิดจะเลิก ตอนที่พูดออกไปว่าจะกลับมาเลิกบุหรี่และลดความอ้วนอีกครั้ง สามีทำหน้าไม่ค่อยเชื่อ เธอยิ่งต้องพิสูจน์ให้สามีเห็นว่าเธอทำได้จริง เพราะหลายครั้งที่ไปเที่ยวทะเล แล้วต้องใส่บิกินี่ เธอจะเห็นสายตาของสามีที่มองมาเหมือนเริ่มปลง เพราะคิดว่าคงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว ยิ่งทำให้เธอมีแรงฮึดอีกครั้ง โดยเริ่มตั้งเป้าวันแรก 1 มกราคม 2559
การลดความอ้วนครั้งนี้ แตกต่างออกไปจาก 2 ครั้งที่ผ่านมา เพราะมีการศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องจากในอินเตอร์เน็ต และวางแผนมาอย่างดี โดยปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
1. จำกัดอาหาร กินให้ดี กินให้ถูกต้อง และที่สำคัญ ต้องครบทั้ง 5 หมู่
2. สังเกตร่างกายของตัวเอง ว่าตอบสนองกับอะไร เช่น บางคนกินโปรตีนแล้วอ้วน บางคนกินคาร์โบไฮเดรตน้ำหนักขึ้น แต่ละคนจะมีวิธีการลดความอ้วนแตกต่างกันไป
3. ทำอาหารเอง เลือกวัตถุดิบเอง และทำให้หลากหลาย ซึ่งเรื่องนี้เธอภูมิใจมาก เพราะสามารถทำอาหารได้นานาชาติ ไม่เกี่ยงชนชาติไหน และที่สำคัญ รสชาติต้องอร่อย ไม่จำเป็นต้องคลีนจ๋า อกไก่ ผักต้มทุกวัน เนื้อสัตว์อย่างอื่นสามารถกินได้หมด เพียงแต่ต้องมีวิธีในการทำให้อ้วนน้อยที่สุด เรื่องเครื่องปรุง หลายคนคงนึกว่าจะต้องใช้ประเภทโลว์โซเดียมแน่ๆ แต่เปล่าเลย เธอใช้เครื่องปรุงปกติทำอาหาร เพียงแต่ใส่ให้น้อย พอทำทุกวันๆ จนติดเป็นนิสัย เดี๋ยวนี้กินเกลือน้อยลง น้ำตาลก็ลดลง แต่ก่อนปรุงก๋วยเตี๋ยว ตักน้ำตาลไม่ต่ำว่า 3 ช้อน
4. ศึกษาเรื่องนับแคลอรี่ ให้เหมาะกับรูปร่างของตัวเอง พอเริ่มทำอาหารเองทุกวัน เดี๋ยวนี้สามารถกะด้วยสายตาก็รู้ว่ากี่แคล อาหารว่างก็เป็นผลไม้ เรียกได้ว่าเปลี่ยนอาหารการกินทั้งบ้าน จนตอนนี้ลูกสาวก็หันมากินด้วย
5. ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากเดิมกินไวน์วันละ 1-2 ขวด ถ้ามีปาร์ตี้ก็ 3-4 ขวด แต่เดี๋ยวนี้ 1 ขวด แบ่งกินได้หลายวัน ประกอบกับเลิกบุหรี่ด้วย จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องจิบไวน์ไปด้วย
6. ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เธอวิ่งแทบทุกวัน วิ่งเรื่อยๆ บางทีก็สลับกับการต่อยมวย และเล่นเวท แบ่งตารางให้ชัดเจน และหาวันพักผ่อนให้กับร่างกายด้วย
7. กินปกติได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงชีวิต เช่น อยากกินส้มตำไก่ย่าง ก็แค่ลอกหนังออก หรือข้าวขาหมู ก็แค่สั่งไม่เอาหนัง แม้แต่เมนูผัดซีอิ้ว ที่ขึ้นชื่อเรื่องแคลอรี่สูง ก็สามารถกินได้โดยการใช้เส้นหมี่ และใส่น้ำมันน้อยๆ เป็นต้น
จากทั้งหมดที่บอกไป จนถึงตอนนี้ อายุ 48 ปี เธอใช้เวลา 9 เดือน ลดลงมาจาก 61 เหลือเพียงแค่ 52 ก.ก. เท่านั้น!! ยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับช่วงที่อ้วนสุดในในชีวิตตอนท้องลูกคนที่สอง จะเท่ากับว่าเธอสามารถลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 40 ก.ก. ถือเป็นการลดความอ้วนได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 3 !!!
และดูเหมือนว่าครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะลดความอ้วนแล้ว เพราะสิ่งดีๆ ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย และการกินอาหาร เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตจนกลายเป็นนิสัยไปแล้ว เชื่อว่าถ้ามีนิสัยและกิจวัตรประจำวันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ยังไงก็ไม่มีทางกลับไปอ้วนได้อีก
กิจกรรมอีกหนึ่งอย่างที่ชอบมาก คือการวิ่ง
คาร์ดิโออย่างหนัก ด้วยการเรียนมวยไทย
แต่ไม่ใช่ว่าลดความอ้วนสำเร็จแล้วจะเก็บเคล็ดลับความสวยไว้ใช้แค่คนเดียว ตอนนี้เธอยังเปิดกลุ่มบนเฟซบุ๊ก ชื่อว่า “สุขภาพดีเงินซื้อไม่ได้” เพื่อแบ่งปันข้อมูลการลดน้ำหนัก และให้กำลังใจ แลกเปลี่ยนความรู้ แสดงให้เห็นพัฒนาการของร่างกายไปพร้อมๆ กับสมาชิกในกลุ่ม ทำให้คนอื่นเห็น ว่าเราทำได้ คนอื่นก็ทำได้ โดยเฉพาะการเข้าใจผิดต่างๆ เช่น หลายคนมองว่าการกินคลีนเป็นเรื่องยุ่งยาก ซับซ้อน ทั้งที่อาหารคลีนคือการปรุงรสให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการออกกำลังกาย เล่นเวทมากๆ ตัวจะใหญ่ หรือคาร์ดิโอทุกวัน กล้ามจะหาย แต่ความเป็นจริง ถ้าไม่คาร์ดิโอให้ร่างกายลีนไขมันออกก่อน จะไปสร้างกล้ามเนื้อได้ยังไง ? และคำถามอื่นๆ อีกมากที่เธอจะคอยแนะนำอยู่ในกลุ่มนี้ รวมไปถึงสูตรอาหารต่างๆ ที่ทำอยู่เป็นประจำ ส่วนเรื่องความสวยความงาม เธอบอกว่าแค่ออกกำลังกาย ก็ช่วยให้ผิวพรรณสดใสขึ้นแล้ว ที่เหลือก็แค่ทาครีมทั่วไป แบรนด์บ้าง ทั่วไปบ้าง ใช้ได้หมด
สำหรับใครที่กำลัง ลดน้ำหนัก อยู่ อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งหยุด กว่าเราจะสะสมไขมันในร่างกายได้มากขนาดนี้ใช้เวลามานาน เพราะฉะนั้น การเอาไขมันออก ก็ต้องใช้เวลาเช่นเดียวกัน ขอแค่ทำอย่างสม่ำเสมอ และถูกหลักการ ไม่นานก็ หุ่นสวยๆ กล้ามเน้นๆ ก็จะตามมาแน่นอนค่ะ
ดูกันอีกชัดๆ นี่คือหุ่นของผู้หญิงอายุ 48 เป๊ะมาก!
รูปภาพโดย Covinus
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย : Women MThai Team