ทุกคนใฝ่ฝันอยากจะมีชีวิตรักที่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป ที่จะดูแลซึ่งกันและกันไปจนแก่เฒ่า ถ้ามองว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าวันนี้คุณจะเป็นคนดังหรือคนธรรมดา ทุกคนล้วนแต่สมควรได้รับความรักดีๆ เราลองมาเรียนรู้เรื่องราวความรักของคนดังกันบ้าง เชื่อได้เลยว่า คุณจะได้เห็นมุมมองที่ต่างออกไปอย่างแน่นอน
1. โบ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ – แบงค์ ร.อ.กฤชพล เศวตนันทน์
คุณแม่น้องอชิ ที่ใครๆก็รู้จักดี แม้รักครั้งก่อนจะจบลง แต่ก็ยังทำหน้าที่พ่อและแม่ที่ดีให้กับลูกอยู่เสมอ สำหรับความรักครั้งใหม่กับคุณแบงค์ ก็บอกว่าก่อนและหลังแต่งงาน ก็ยังดูแลกันเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลาย เป็นความรักที่ดี พยายามไม่คาดหวัง เน้นทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
2. พ่อรอง แม่ทุม – เค้ามูลคดี
เพิ่งจะผ่านวันครบรอบแต่งงาน ปีที่49 ไปไม่นาน ซึ่งพ่อรองก็ยังคงดูแลแม่ทุมเป็นอย่างดี แม้ว่าในวันนี้แม่ทุมจะป่วยหนัก แต่ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ทำให้แม่ทุมมีกำลังใจและต่อสู้กับความเจ็บป่วยในร่างกายได้เรื่อยมา พ่อรองเคยพูดถึงแม่ทุม เมื่อครั้งที่แม่ทุมทรุดหนักว่า “เวลานี้แม่กับพ่อคือคน ๆ เดียวกันแล้วนะ พ่อเป็นแค่ร่างกายเท่านั้นเอง แต่แม่เป็นหัวใจของพ่อ วันใดที่หัวใจดวงนี้ของพ่อมันหยุดเต้น พ่อจะอยู่ยังไงล่ะแม่” ทำเอาหลายคนที่ได้ดูข่าวในช่วงนั้น ถึงกับน้ำตาคลอซาบซึ้งในความรักที่ทั้งคู่มีให้กัน นอกจากนี้พ่อทุมยังต้องรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองให้แข็งแรง เพื่อที่จะได้อยู่ดูแลแม่ทุมไปนานๆ อีกด้วย
3. กบ ปภัสรา เตชะไพบูลย์ – พรเทพ เตชะไพบูลย์
เมื่อได้มาพบรักกับพ่อหม้ายอย่าง พรเทพ เตชะไพบูลย์ ที่อายุมากกว่าเป็นรอบ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานหลังจากคบหากันเพียงแค่ 2 เดือน และพิสูจน์ให้สังคมได้รับรู้แล้วว่า การแต่งงานที่เกิดขึ้นเมื่อ 17 ปีก่อน เกิดจากความรักที่แท้จริง
การยอมรับ และไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงใคร เป็น เคล็ดลับดูแลชีวิตคู่ ที่ยึดถือมาตั้งแต่วันแรก ทั้งคู่มองว่าสามีภรรยาควรพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ใครชอบอะไรไม่ชอบอะไร เปิดใจคุยกันให้หมด และที่สำคัญต้องเชื่อใจ ศรัทธาในกันและกัน
4. นิหน่า สุฐิตา – แบงค์ พชร ปัญญายงค์
สมัยก่อนที่มีความรัก ก็จะเป็นอารมณ์ป๊อปปี้เลิฟ ใจสั่นเมื่ออยู่ใกล้กัน แต่พอได้มาใช้ชีวิตแต่งงานมีครอบครัว เรามีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น เราเลือกที่จะอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอด จะมาเอาแต่ใจไม่ได้แล้ว อย่างเวลาโมโห ไม่พอใจอะไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็จะเอาตัวเองเป็นใหญ่ งอนก็ต้องมาง้อทันที แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ ต้องใจเย็น และฟังคนอื่นให้มากขึ้น
เราเป็นคู่รักเหมือนคนอื่นทั่วไปเลยค่ะ มีเรื่องบวกเรื่องลบปนๆกันไป แต่เราจะไม่เอาชนะกัน เราต้องมองให้เราเป็นทีมเดียวกัน จะเถียงให้เจ็บกันไปทั้งคู่ทำไม ไม่มีประโยชน์ ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ถามก่อนเลยว่าเถียงชนะแล้วได้อะไร สุดท้ายครอบครัวพัง คุณยังมีความสุขอยู่หรอ? ถ้าวันนี้เค้าร้อน งั้นเราก็ต้องเย็น
คุณแบงค์เป็นคนเข้าใจ แล้วก็ให้เกียรตินิหน่ามากๆ เลยทำให้ทุกอย่างโอเค กฏเหล็กหรือข้อห้ามก็ไม่ได้ตั้ง เราให้อิสระกัน เคยถามคุณแบงค์เค้าไปว่าอยากให้เราปรับอะไรไหม? เค้าตอบกลับมาว่าไม่มีเลย ก็ดีอยู่แล้ว ตอนนั้นรู้สึกผิดมาก เพราะในใจเรามีเรื่องที่อยากให้เค้าเปลี่ยนเต็มไปหมดเลย ทั้งๆที่เรารู้อยู่แล้วล่ะว่าเรามีข้อเสียอะไรบ้าง แต่คุณแบงค์เลือกที่จะมองข้าม
5. โย่ง อาร์มแชร์ – ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ
คู่รักเด็กแนวที่ผ่านคำครหาว่าจะคบกันได้ไม่นาน เป็นเพียงแค่วัยรุ่นที่คยกันแบบเด็กๆ จนตอนนี้ทั้งคู่แต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกัน หนุ่มโย่งก็ยังคงความหวานกับภรรยาคนนี้ไม่เคยเปลี่ยน ไม่เชื่อลองอ่านข้อความนี้ดูสิ….
ในทุกๆวันพิเศษของเรา ผมมักจะถามกับก้อยเสมอว่า อยากทานข้าวที่ไหนเป็นพิเศษไหม? อยากไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษรึเปล่า? แต่คำตอบทุกครั้งของก้อยก็มักจะเป็น “ไปที่ไหนก็ได้ หรือกินอะไรก็ได้” ซึ่งผมก็มักจะเดาคำตอบได้เกือบทุกครั้ง
ผมรักในความเรียบง่ายของก้อยมาก……. ตลอด13ปีที่คบกันมา ก้อยทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่ทำให้ทุกๆวัน ทุกๆมื้อ และทุกๆที่ของเรา มีความหมายและมีความพิเศษขึ้นมา ก็คือการที่เราได้เผชิญสิ่งเหล่านั้นด้วยกัน ด้วยความรักและเข้าใจ และด้วยรอยยิ้ม
จะวันไหนก็ได้ ที่มีคุณ จะทานข้าวที่ไหนก็ได้ ที่มีคุณ และไปที่ไหนก็ได้ ที่มีคุณ แค่นี้ ทุกๆวันทุกๆมื้อและทุกๆที่ของผมก็น่าจดจำและพิเศษที่สุดในชีวิตแล้ว
ขอบคุณนะครับ คุณคนพิเศษแสนสวยของผม
6. คิมแตฮี- เรน
หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานกว่า 5 ปี ก็ตัดสินใจแต่งงานอย่างเงียบๆ เรียบง่าย และใช้เงินเพียงหลักหมื่นเท่านั้น ซึ่งภายในงานก็เต็มความรัก ความอบอุ่น จากตัวบ่าวสาวและแขกคนสนิท ไม่มีพรีเวดดิ้ง และตัดชุดเจ้าสาวเอง หลายคนอาจจะมองว่าทั้งคู่เป็นคนมีชื่อเสียง น่าจะต้องเลือกชุดแต่งงานจากช่างห้องเสื้อชื่อดัง แต่คิมแตฮี กลับเลือกออกแบบและให้สไตล์ลิสส่วนตัว ช่วยกันตัดชุดแต่งงานนี้ขึ้นมา ตั้งแต่การเลือกผ้าลูกไม้ วัดตัว ปรับแก้แบบ รวมไปถึงชุดในงานเลี้ยงมงคลสมรส ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เรียบง่าย แต่ทั้งสองชุด ก็แสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจ้าสาว แต่เป็นชุดที่มาจากความตั้งใจที่แท้จริงของคิมแตฮี
7. เมจิ อโณมา และสามี เควิน คุก
ผ่านเรื่องราวความรักมาหลายรูปแบบ ปัจจุบันสาว เมจิ อโณมา ศรัณย์ศิขริน แต่งงานรอบสองกับสามีชาวออสเตรเลีย เควิน คุก ตลอดระยะเวลา 5 ปีของชีวิตสามีภรรยา เรามักจะได้เห็นเมจิ เขียนแชร์เรื่องราวความรักให้ได้อ่านกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งเธอก็ได้แชร์ เคล็ดลับชีวิตคู่ มาให้ได้อ่านกันอยู่บ่อยๆ…
เราสองคนมักจะ Recheck กันเสมอ ในข้อดีข้อเสียของกันและกัน เพื่อปรับปรุง เพราะถึงคบกันนาแค่ไหน ตัวเราในอดีตกับตัวเราในวันนี้ ความคิดกิริยาท่าทางย่อมเปลี่ยนไป แบบที่เราไม่รู้ตัว ถ้าเปลี่ยนไปทางที่ดีเราจะก็พูดกันออกมาให้เห็นว่า”you ดีขึ้นแบบนี้ๆ นะ ทำต่อไป ฉันเป็นกำลังใจให้” แต่ถ้ามีบางอย่างไม่ดี เราก็จะเป็นกระจกส่องกันว่า “ช่วงนี้ You มีกิริยาแบบนี้ๆ นะ ควรลดลงหรือไม่ควรแสดงออกมา”
เมจิและสามี เวลาเราจะเปิดอกคุยอะไรกัน เราจะเลือกเวลาที่เราสองคนผ่อนคลาย เราเลี่ยงที่จะไม่พูดกันตอนที่เราสองคนกำลังเครียดเรื่องงาน กำลังยุ่งกับอะไรอื่นๆ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ใจเรายังไม่เปิดรับอะไร นอกจากการแก้ปัญหางานที่อยู่ตรงหน้า เราสองคนคิดเสมอๆ ว่า ถ้าเรารักกัน เลือกที่จะแต่งงานกัน เราจะให้เกียรติกันตลอด จนเราจะตายจากกัน เหมือนในวันที่เราสัญญากันต่อหน้าพยานมากมายในวันที่เราแต่งงานกันว่า
8. มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และภรรยา
ถึงแม้ว่าทุกคนจะทราบดีถึงความร่ำรวยของมาส์ก แต่เขากลับเลือกจัดงานแต่งเล็กๆ ที่สวนหลังบ้าน มีเพื่อนสนิทไม่กี่คนมาร่วมงาน และแสดงความยินดี แต่ทั้งคู่ก็แฮปปี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยหลังจากแต่งงานทั้งคู่ก็เดินทางท่องเที่ยวทริปฮันนีมูนไปหลายประเทศ ทั้งญี่ปุ่น อเมริกา อิตาลี และเมืองต่างๆของสหรัฐ
ความโรแมนติกของมาส์กยังคงมีออกมาให้เห็นอยู่เป็นประจำ หากได้เข้าไปส่องเฟซบุ๊ค มาส์กจะลงรูปคู่และลูกสาวของเขาอยู่บ่อยๆ มาส์กน่ารักและอบอุ่นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มจีบกัน ทั้งคู่พบรักกันในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งของมหาวิทยาลัย หลังจากที่ได้ออกเดทกับชาน มาส์กก็รู้ใจตัวเองในทันทีเลยว่าเขาอยากเดทกับชานมากกว่าการก้มหน้าทำการบ้านซะอีก ชานมีกฏเหล็กที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ความสัมพันธ์ยังคงไม่สะดุด นั่นก็คือในหนึ่งสัปดาห์ จะต้องมีการพูดคุยกันอย่างน้อย 100 นาที และไม่ใช่การพูดคุยผ่านเฟซบุ๊คด้วย
ชานเป็นผู้หญิงที่อยู่ในทุกๆ ช่วงเวลาของมาส์ก ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเฟซบุ๊ค เป็นคนแรกๆที่เข้าร่วมเฟซบุ้ค จนแต่งงานและตอนนี้ทั้งคู่เขยิบบทบาทมาเป็นพ่อแม่ให้กับลูกสาวที่ชื่อ แม็กซิม่า และไม่ว่าเงินในบัญชีของมาส์กจะพุ่งสูงไปมากแค่ไหน แต่ทั้งคู่ก็ยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย กินแฮมเบอร์เกอร์ข้างถนนได้ แถมยังบริจาคเงินให้กับโรงเรียนและโรงพยาบาลอีกหลายแห่งอยู่บ่อยๆ ถือเป็นตัวอย่างคู่รักที่ดี ที่น่าชื่นชมมากๆ
9. เจี๊ยบ โสภิตนภา – เบียร์ – ธิตินันท์ ชุ่มภาณี
เจี๊ยบเป็นคนที่อยากมีครอบครัวตั้งแต่เด็กๆ เพราะเจี๊ยบเสียคุณพ่อไปตั้งแต่เจี๊ยบยังอายุน้อยมาก เลยชอบมีความรักแล้วก็อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น พอมาเจอพี่เบียร์ แม่เจี๊ยบยังบอกเลยว่าพี่เบียร์เหมือนพ่อมาก คือพี่เบียร์จะเป็นคนที่มีความเป็นพ่อสูงมาก ด้วยความที่เค้ากับเจี๊ยบอายุห่างกัน 7 ปี เค้าก็จะเอ็นดูเหมือนเจี๊ยบเป็นลูก ให้ความรักความเมตตา สอนเรื่องนู้นเรื่องนี่อยู่ตลอด อาจจะมีดุบ้าง แต่เราอยู่กับเค้าแล้วเราจะอบอุ่น เค้าเข้ามาเติมเต็มความรัก เจี๊ยบดีใจที่เวลาไปเจอเรื่องแย่ๆ จากข้างนอกมา พอกลับมาบ้านก็จะมีคนมาคอยซัพพอร์ต คอยเป็นห่วงเป็นใย มีความรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในบ้าน เหมือนบ้านเป็นประเทศ เป็นโลกของเรา ถ้านับเวลาตั้งแต่แต่งงานมาก็ 14 ปี แล้วค่ะ
เรื่องความหวานคือต้องบอกว่าคู่ของเจี๊ยบเสมอต้นเสมอปลาย เป็นเพื่อนคู่คิดกันมาตลอด พี่เบียร์เป็นคนแสดงความรักค่ะ เค้าจะน่ารัก ยังคงหอมแก้มกันทุกวัน เดินจับมือกันมุ้งมิ้ง แต่ชีวิตคู่อ่ะค่ะ มันก็ไม่ได้ดีไปทุกวันหรอก ลิ้นกับฟัน ก็มีทะเลาะกันบ้าง ซึ่งวิธีเดียวเลยที่แม่สอนเจี๊ยบไว้ตอนที่แต่งงาน ถ้าเรามีจุดมุ่งหมายที่เราจะอยู่กันไปตลอดชีวิต เราต้องคิดเสมอว่าเราไม่ได้ทะเลาะเพื่อที่จะเลิกกัน แต่เราทะเลาะเพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น อย่าโวยวายแล้วบอกเลิกหรือเดินออกจากบ้าน แม่สอนว่าทะเลาะกันให้ปิดประตูห้องเลย อย่าแยกห้องกัน เพราะถ้าทะเลาะกันแล้วเดินออกจากบ้านไปทุกวันๆ จะกลายเป็นความเคยชิน วันนึงก็จะค่อยๆ ห่างกันออกไปเรื่อยๆ ยิ่งมีลูกแล้วต้องคิดให้เยอะขึ้นด้วยค่ะ
10. แอมานุแอล มาครอง และสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส
ย้อนกลับไปเมื่อ 24 ปีที่แล้ว มาครองในวัย 15 กำลังเป็นวัยรุ่นเต็มตัว ได้ตกหลุมรัก brigitte trogneux ครูประจำชั้นของเขา เพื่อนของเขาหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเขาเป็นแฟนกับลูกสาวคุณครูด้วยซ้ำ
มาครองไม่ได้หลงรักเพียงแค่อารมณ์ชั่วครู่ชั่วคราว แต่เขาตั้งใจจะแต่งงานกับเธอให้ได้ และเรื่องราวก็ผ่านไป จนตอนนี้เขาได้พิสูจน์ความรักให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเขารักเธอจริง มาครองเข้าพิธีแต่งงานเมื่ออายุ 29 ในขณะที่เจ้าสาวในดวงใจของเขาอายุ 53 นั่นจึงทำให้เธอกลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศส ในทันที
11. เกริก ชิลเลอร์ – อ้อม ศานันทินี พันธุ์ชูจิตร
คู่นี้ไม่ต้องพูดเยอะ อ่านข้อความในวันครบรอบแต่งงานก็รู้แล้วว่ารักกันมากจริงๆ
“ไม่ได้คิดว่าเป็นผัวเมียกัน แต่คิดว่าเป็นเพื่อนกัน เวลาเถียงกันเราก็คิดว่าเถียงกับเพื่อน ทะเลาะกับเพื่อน เดี๋ยวก็ดีกัน ผมรู้จักกับเพื่อนคนนี้มา20ปีแล้วครับ ก็ยังเถียงกันตลอด เถียงกับเพื่อน ไม่เห็นจะใช่เรื่องใหญ่อะไร ว่ามะ”
12. ตู่ นพพล โกมารชุน – ปรียานุช ปานประดับ
อีกหนึ่งคู่รักที่หลายคนเห็นกันมานาน หลังจากที่พบรักกันในละครเรื่องกนกลายโบตั๋น เมื่อปี 2533 ทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่รักที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด และไม่น่าเชื่อว่าอดีตนางงามอย่าง ซ้อนุช จะต้องพบเจอกับปัญหาสุขภาพมาตั้งแต่เด็ก และด้วยความที่ตัวเองต้องต่อสู้กับโรคต่างๆ มานาน
เมื่อสามีอย่างคุณตู่ ต้องเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ ในฐานะภรรยาคู่ชีวิต ก็ยกมือไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “ขอให้ความเจ็บปวดทั้งหมดที่พี่ตู่ประสบ มาเกิดแก่ลูกแทนเถิด” เพราะมองว่าคุณตู่ไม่เคยเจ็บป่วยเหมือนเธอ แต่เธอป่วยมาเยอะ คิดว่าสามารถทนความเจ็บปวดเหล่านั้นแทนได้ และถึงแม้ว่าในวันนี้เธอจะยังคงต่อสู้กับความเจ็บป่วยในร่างกายไม่จบสิ้น แต่ก็ยังมีกำลังใจดีๆ จากคุณตู่ คอยดูแลอยู่เสมอมา เป็นคู่รัก คู่ชีวิต ที่น่าชื่นชมมากๆ
13. อาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา และ อาเปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์
จุดเริ่มต้นจากการร่วมงานคู่กัน จนตอนนี้ทั้งคู่ก็ครองรักกันมานานเกือบ 40 ปีแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่เพิ่งทำความรู้จักกัน อาต้อยในฐานะที่เป็นศิลปินนักร้อง และผ่านการแต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว เมื่อได้มาพบกับอาเปี๊ยกที่เพียบพร้อมไปด้วยชาติตระกูล และการเลี้ยงดู แถมยังมีตำแหน่งเป็นถึงรองนางสาวไทย ก็รู้สึกต้องเจียมเนื้อเจียมตัว แม้ใจจะอยากจีบมากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยและทำงานด้วยกัน ความอารมณ์ดีและความจริงใจ ก็ทำให้เกิดเป็นความรักขึ้นมา และถึงแม้ว่าอาต้อยจะออกตัวว่าเป็นคนไม่โรแมนติก แต่ก็แสดงถึงความรักที่มีให้ภรรยาด้วยการดูแลเอาใจใส่ในทุกๆวัน
นอกจากนี้ยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่ออยู่บ่อยๆว่า ”เราถกเถียงกันมาหลายครั้งว่าอยากให้เราตายก่อน ฝากให้เขาดูลูก เขาก็บอกว่าเขาต้องตายก่อนให้เราดูลูก ก็ยังถกเถียงกันอยู่ไม่จบ มันเป็นเรื่องปัญหาโลกแตก ในที่สุดถึงวันก็จะรู้เองว่าใครจะต้องไปก่อนกัน”
เรียบเรียงโดย : Women MThai Team