คุณแม่หลังคลอด ทำอาหารคลีน ลดความอ้วน ลดน้ำหนัก หุ่นดี อ้วนหลังคลอด อาหารคลีน

คุณแม่ทำอาหารคลีน อยากให้ลูกชายเลิก Junk Food จนตัวเองหุ่นดีขึ้น

แอน-พิชามญชุ์ บราวน์ คุณแม่ Full time วัย 32 ปี ที่เคยผ่านปัญหาอ้วนหลังคลอด กลายเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจ พยายามลดแล้วแต่น้ำหนักก็นิ่งอยู่นาน จนเริ่มมาศึกษาอย่างจริงจัง จึงรู้ว่าไม่จำเป็นต้องกินน้อยหรืออดอาหาร ก็สามารถมีหุ่นดีได้เหมือนกัน มาอ่านเรื่องราวของเธอกันค่ะ…

Home / แฟชั่น / คุณแม่ทำอาหารคลีน อยากให้ลูกชายเลิก Junk Food จนตัวเองหุ่นดีขึ้น

แอน-พิชามญชุ์ บราวน์ คุณแม่ Full time วัย 32 ปี ที่เคยผ่านปัญหาอ้วนหลังคลอด กลายเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจ พยายามลดแล้วแต่น้ำหนักก็นิ่งอยู่นาน จนเริ่มมาศึกษาอย่างจริงจัง จึงรู้ว่าไม่จำเป็นต้องกินน้อยหรืออดอาหาร ก็สามารถมีหุ่นดีได้เหมือนกัน มาอ่านเรื่องราวของเธอกันค่ะ

อ้วนหลังคลอด

หลังคลอดน้ำหนักสูงที่สุดคือ 84 กก. พอให้นมลูกก็ค่อยๆลดลงจนเหลือ 70 กก. พยายามทานอาหารคลีน แต่น้ำหนักก็นิ่งอยู่เท่าเดิมประมาณ 6 เดือน ลองทุกวิธี เช่น ทานสลัดผักทุกมื้อ อดข้าวมื้อเย็น เริ่มออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ลด จนเริ่มท้อ ปัญหาหนักคือให้นมลูกแล้วจะหิวหนักกว่าเดิม แก้ยังไงก็ไม่หาย โหยมากเวลาให้นมเสร็จ จนมาเจออาหารคลีน จึงค่อยๆศึกษามาเรื่อยๆ

อยากให้ลูกได้กินอาหารที่มีประโยชน์

จุดเริ่มต้นที่คิดอยากลดความอ้วนคือ รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา ไม่กระฉับกระเฉง ขี้เกียจ อยากเปลี่ยนตัวเอง อยากกลับไปใส่เสื้อผ้าตัวเดิมได้ อยากให้ลูกชายและครอบครัวทานอาหารครบ 5 หมู่ เนื่องจากลูกชายติดของทอดมาก เช่น ไก่นักเก็ตกับเฟรนช์ฟรายส์ อยากให้ลูกชายกินอาหารที่เรากินด้วยกันทุกมื้อ จึงเริ่มลดน้ำหนักแบบจริงจัง ทานอาหารมีประโยชน์ แล้วก็ค่อยๆให้คนในครอบครัวทานตามทุกวัน แบบไม่รู้ตัว

เริ่มลดน้ำหนักจริงจัง ปลายปี 2017

เนื่องจากรู้สึกเบื่อหนายตัวเองที่ทำยังไงก็ลดไม่ได้สักที ออกกำลังกายหนักมาก ยกเวทหนักมากแต่ก็ไม่ผอมสักที น้ำหนักมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยลองมาศึกษาการทานอาหารคลีน ไม่ทานอาหารที่มาจากนมวัว ทานอาหารที่มาจากธรรมชาติ ไม่ทานน้ำตาล แต่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแทน ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน ก็ ถือว่าดีมาก ลดลงมาเหลือ 63 กก. จาก 70 กก. เปอร์เซ็นต์ไขมันจาก 31 % เหลือ 23.9%

เคล็ดลับหุ่นดี สุขภาพดี

1.หาเป้าหมายในการลดน้ำหนัก เริ่มจากค่อยลดลงทีละไซส์ จาก XL เหลือ L, จาก L เหลือ M

2.ให้เวลาตัวเอง การลดน้ำหนักที่ถาวร ต้องให้เวลาค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ ไม่กดดันตัวเอง ตั้งเป้าว่าต้องลดให้ได้เดือนละ 2 กิโล หรือ 1.5 กิโล อย่าลืมว่าเวลาเราเพิ่มน้ำหนัก เราก็ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกัน

3.ศึกษาอาหารในการลดน้ำหนัก แล้วก็ทำเป็นเรื่องสนุก ไม่เครียดจนเกิดไป เลือกกินที่หลากหลาย คิดเมนูให้ไม่จำเจ แต่สามารถลดน้ำหนักได้อยู่

4.หาชุดที่อยากใส่ห้อยไว้ให้มองเห็นทุกวัน เตือนตัวเองว่าต้องให้ชุดนั้นให้ได้

5.โฟกัสที่การลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ เพราะจะช่วยให้เราไปเผาพลาญพลังงานเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ไม่นับแคลอรี่แต่นับสารอาหาร เช่น คาร์โบไฮเดรต 50% ไขมันดี 10% โปรตีน 40 % เป็นต้น

วิถีคุณแม่สายสตรอง

ตื่นเช้าก่อนส่งลูกชายไปโรงเรียน ทำอาหารเช้าให้ทาน เสร็จแล้วก็ไปยิม (ไปยิม 4-5วันต่อสัปดาห์ วันละ 1 ชั่วโมง) ไปยิมเสร็จกลับมาทำความสะอาดบ้าน ทำงานบ้าน เสร็จก็ไปรับลูกชายจากโรงเรียน กลับมาทำอาหารเย็นให้คุณพ่อกับลูกชายต่อ ชีวิตจะวนๆแบบนี้ส่วนใหญ่ค่ะ

กินอาหารคลีน ให้สอดคล้องกับตาราง CrossFit

ตอนนี้มีตารางตาม Crossfit ที่เล่นประจำคะ โปรแกรมในแต่ละวันโค๊ชจะเลือกไว้ แต่ละวันจะไม่มีเหมือนกัน Crossfit เป็นเวทเทรนนิ่งผสมคาร์ดิโอในตัว ตารางจะควบคุมทุกส่วนของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงทุกสัดส่วน

การทำอาหารแต่ละมื้อ แต่ละวันก็จะขึ้นอยู่กับการเล่น CrossFit วันถัดไป เช่น ถ้าตารางพรุ่งนี้มี ยกน้ำหนัก หรือใช้แรงเยอะๆ ก็จะทานข้าวโอ๊ตมื้อเช้า ทานเป็นข้าวโอ๊ตกับผลไม้ หรือจะทำข้าวโอ๊ตแพนเค้กแทนแล้วแต่ของที่มีในแต่ละวันด้วยค่ะ หลังจากเล่นเสร็จ ก็จะทานคาร์โบไฮเดรตเป็นข้าวกล้อง กับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น อกไก่ หรือไข่ต้ม มื้อเย็นก็แล้วแต่สารอาหารที่เหลืออยู่ในแต่ละวัน แต่ก็อยู่ใน 5 หมู่ค่ะ อาหารที่ได้ต้องเป็น Plant based คือมาจากธรรมชาติ ไม่ผ่านกระบวนการใดๆ

เดินสายกลาง ลดแบบไม่เครียด

สำหรับคนที่ลดน้ำหนักอยู่ หาแรงบันดาลใจ ในการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน อย่าดูตัวเลขที่ตาชั่ง ให้ใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพทุกวัน ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ในขนาดที่พอเหมาะ อาหารคลีนถ้าทานเยอะเกินความจำเป็นก็อ้วนเหมือนกัน ควรอยู่ในทางสายกลาง ไม่เคร่งเครียกดดันตัวเอง ชวนคนรอบข้างมาทานด้วยกัน ถ้าคุณเริ่มเปลี่ยน ครอบครัวคุณก็เปลี่ยนตามด้วยโดยปริยาย ตอนนี้ลูกชาย 3 ขวบ ไม่ทานของทอด ของผัดเลยค่ะ ทานรสหวานจากผลไม้ ทานผักผลไม้ปั่นทุกวัน นี่คือผลพลอยได้ที่ไม่ใช่แค่เราได้เอง แต่ครอบครัวเราได้ด้วย สู้ๆ นะคะ

ขอบคุณ ผู้หญิงสร้างแรงบันดาลใจ aannbefitbehealthy

บทความนี้ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้บนเว็บไซต์ MThai.com เท่านั้น

บทสัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย : Women MThai Team