ผ่านเรื่องราวความรักมาหลายรูปแบบ ปัจจุบันสาว เมจิ อโณมา ศรัณย์ศิขริน แต่งงานรอบสองกับสามีชาวออสเตรเลีย เควิน คุก ตลอดระยะเวลา 5 ปีของชีวิตสามีภรรยา เรามักจะได้เห็นเมจิ เขียนแชร์เรื่องราวความรักให้ได้อ่านกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งแต่ละอย่างก็ล้วนเป็นข้อคิดเตือนใจได้เป็นอย่างดี เราลองมาอ่านกันดูนะคะ
ในอดีตเมจิเองสมัยวัยรุ่นเข้าวงการบอกตรงๆ เลยว่า ไม่ค่อยได้ใส่ใจครอบครัวมากนัก เพื่อน สังคม ต้องมาก่อน ยังสนุกกับงาน กับสังคม เพื่อนฝูง ชีวิตรอบข้าง มี Social Life มากมาย ทั้งความวุ่นวาย เรื่องราวทั้งดีและร้ายปนเปกันไป เจอผู้คนทุกระดับทุกสังคม
จนมาถึงวันนี้อย่างแรกที่เมจิแคร์ที่สุดคือคนในครอบครัว เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เค้าคือคนที่อยู่ข้างเราเข้าใจเราไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ทุกวันนี้เมจิมีเพื่อนน้อยลง แต่ชีวิตเมจิกลับมีความสุขและมีระเบียบมากขึ้น ความวุ่นวายน้อยลงไปด้วย เมื่อก่อนเพื่อนมากมายแต่เรื่องวุ่นวายก็มากมายไปด้วย
ต่อมาสิ่งที่เมจิใส่ใจที่สุดคือสุขภาพของตัวเองและครอบครัว เมจิกับสามีเวลาเราว่างๆ นั่งทานข้าวกัน เราสองคนมักจะ Recheck กันเสมอ ในข้อดีข้อเสียของกันและกัน เพื่อปรับปรุง เพราะถึงคบกันนานแค่ไหน ตัวเราในอดีตกับตัวเราในวันนี้ ความคิดกิริยาท่าทางย่อมเปลี่ยนไป แบบที่เราไม่รู้ตัว
ถ้าเปลี่ยนไปทางที่ดีเราจะก็พูดกันออกมาให้เห็นว่า”you ดีขึ้นแบบนี้ๆ นะ ทำต่อไป ฉันเป็นกำลังใจให้” แต่ถ้ามีบางอย่างไม่ดี เราก็จะเป็นกระจกส่องกันว่า “ช่วงนี้ You มีกิริยาแบบนี้ๆ นะ ควรลดลงหรือไม่ควรแสดงออกมา” เมจิและสามี เวลาเราจะเปิดอกคุยอะไรกัน เราจะเลือกเวลาที่เราสองคนผ่อนคลาย เราเลี่ยงที่จะไม่พูดกันตอนที่เราสองคนกำลังเครียดเรื่องงาน กำลังยุ่งกับอะไรอื่นๆ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ใจเรายังไม่เปิดรับอะไร นอกจากการแก้ปัญหางานที่อยู่ตรงหน้า เราสองคนคิดเสมอๆ ว่า ถ้าเรารักกัน เลือกที่จะแต่งงานกัน เราจะให้เกียรติกันตลอด จนเราจะตายจากกัน เหมือนในวันที่เราสัญญากันต่อหน้าพยานมากมายในวันที่เราแต่งงานกันว่า
“เราจะให้เกียรติ และเราจะเป็นกระจกวิเศษส่องให้กันและกัน คือ คอยตักเตือนเมื่อฝ่ายใดทำสิ่งไม่ถูก คอยชมเชยเมื่อฝ่ายใดทำในสิ่งที่ดี”
ชีวิตแต่งงานเราต้องให้ความรักเมตตาเคารพซึ่งกันและกันเพราะคำสัญญาในวันแต่งงานเราได้ประกาศออกไปแล้ว จงยึดมั่นและอย่าลืมคำๆนั้น อย่าปล่อยให้คำสัญญาในวันแต่งงานเป็นเพียงพิธีการซาบซึ้งในวันนั้นแล้วปล่อยให้จบไป
ทุกวันนี้เมจิกับสามีงานยุ่งทั้งคู่ แต่ยังไงก็แล้วแต่เรา2คนกลับชอบ Keep Busy อยู่ตลอดเวลา บางครั้งคุยกันวันละ 3 ประโยคยอดฮิต คือ Good night กับ Good Morning แต่ที่ไม่เคยเว้นที่จะพูดในทุกวันคือ I love you เมจิเข้าใจค่ะ ว่าจริงๆ เรารู้สึกกันอยู่ตลอดในใจ แต่ยิ่งนานวันเมจิกับสามีเคยนั่งคุยกันว่า “ช่วงหลังๆ เราสองคนคุยกันน้อย ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกัน เพราะต่างๆคนต่างนั่งหน้าคอม ทำงานหน้าที่ของตัวเอง
เราเลยตกลงกันว่า อย่าให้การอยู่ห่างกันมันเป็นความเคยชินชา หรือห่างเหินกันเกินไปมันก็ไม่ดี อย่างน้อยหากไม่รู้จะพูดอะไร ก็ขอให้บอกความในใจที่เราสองคนมีให้กันตลอดคือ ต้องเอ่ยถึงความรักของเราสองคนบ่อยๆ เพื่อเป็นเหมือนโซ่ ที่ยังยึดเราสองคนไว้ว่าเรายังรักกัน ย้ำเตือนกันเสมอๆ ทั้งๆที่รู้อยู่ในใจ ถึงแม้เราจะมีเวลาให้กันน้อย หรือ อยู่ห่างกันคนละประเทศ เพราะเมจิกับสามี ต่างคนต่างเดินทางบ่อยทั้งคู่ เราก็ต้องคุยกันทางเสียง มากกว่าText line ว่า “I love you” เสียงมีมิติ และรับรู้ได้ถึงใจ มากกว่าข้อความหรือ Sticker รูป
จากที่บางครั้งเราอาจเผลอทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ แต่เราก็ตกลงว่าอย่างน้อยควรมีเวลา 1-2 วันที่เราสองคนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะบางทีความสัมพันธ์ในชีวิตแต่งงานเราคุยกันน้อยลง หวานแหววน้อยลง โรแมนติกน้อยลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เรารักกันน้อยลง เราสองคนเลยใช้กิจกรรมเป็นการแสดงความสัมพันธ์ตามประสาครอบครัวที่ไม่มีลูก เช่น ไปนั่งริมสระที่คอนโด อาบแดด อ่านหนังสือที่ตัวเองชอบ หรือเข้ายิม นั่งปั่นจักรยานที่อยู่ใกล้ๆกัน ก็ถือว่าได้อยู่ด้วยกัน
ที่มาและรูปภาพจาก : meiji_27anorma