กลายเป็นเทรนด์ความงามที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ปากอวบอิ่ม ปากสายฝ. แบบเต็มๆฟูๆ ที่สาวๆไทยกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างล่าสุดที่สาวดิว อริสรา ก็ออกมาบอกว่าตัวเองก็ฉีดฟิลเลอร์ปากมา และก็มั่นใจว่าตอนนี้ตัวเองสวยโอเคแล้ว แถมยังบอกอีกด้วยว่า ตัวเองเป็นสายฟิลเลอร์อยู่แล้ว และก็มั่นใจในความปลอดภัยเพราะให้ความสำคัญกับคุณภาพมากที่สุด วันนี้เราเลยไปเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากมาฝากสาวๆที่กำลังสนใจกันอยู่ว่าควรจะต้องศึกษาและคำนึงถึงเรื่องไหนกันบ้าง และที่สำคัญที่สุดต้องเตรียมเงินในกระเป๋าเท่าไหร่ ตามไปดูกันค่ะ
สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเลยคือ ความปลอดภัยค่ะ ฟิลเลอร์ปลอมในท้องตลาดมีเยอะมากและก็อันตรายมากด้วย จำไว้เป็นอันดับต้นๆว่า อยากสวยในราคาถูก(มากก) ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า “ปลอม” ต้องเช็คให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปฉีดนะคะ ที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือ ควรฉีดด้วยแพทย์เท่านั้นค่ะ
สำหรับฟิลเลอร์ปากในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ที่ได้รับการแนะนำว่าปลอดภัยและได้มาตรฐาน เช่น Juvederm ราคาประมาณ 10,000 – 20,000 บาท , Restylane ราคาประมาณ 10,000 – 20,000 บาท Belotero ราคาประมาณ 9000 – 18,000 บาท ซึ่งโดยทั่วไปก็จะอยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือนแล้วแต่ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เราฉีดด้วย
สรุปง่ายๆคือ โดยทั่วไปแล้วหากเป็นฟิลเลอร์ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อการฉีด ดังนั้นหากเจอราคาที่ถูกมากๆ ให้สันนิฐานไว้ก่อนว่าอาจไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ และให้หาข้อมูลให้มากที่สุดก่อนตัดสินใจ
ยี่ห้อฟิลเลอร์ ที่ผ่านมาตรฐาน อย. ในประเทศไทย มีจำนวนทั้งหมด 7 ยี่ห้อ ได้แก่ Juvederm, Restylane, Neuramis, Belotero, Revanesse Ultra, Perfectha และ Yviore โดยหลักๆ แล้วต้องมีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิคแอซิดเท่านั้น แต่ยี่ห้อเหล่านี้ก็ถูกปลอมแปลงอยู่เสมอ ต้องสังเกตให้ดี
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการฉีดสาร HA เพื่อเข้าไปเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ช่วยแก้ปัญหาสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องปากเป็นร่อง หรือริ้วรอยมากๆ โดยเฉพาะในกลุ่มที่อายุเริ่มมากขึ้นก็จะเริ่มสังเกตเห็นได้ว่า ริมฝีปากจะบางลงเรื่อยๆ การฉีดฟิลเลอร์ก็จะช่วยให้ฟูและะเต็มดูอวบอิ่มขึ้น และก็ยังสามารถจัดรูปทรงปากได้ตามที่ต้องการ มาดูกันว่าหลักการที่จะดูว่าควรจะฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อปรับปากให้เข้ากับรูปหน้า คือ
- ปากมีความสมมาตรหรือไม่ ถ้าปากเบี้ยว มุมปากตก ปากไม่เท่ากัน สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ปากมีความสมส่วน สมดุลได้รูปมากขึ้น
- เรื่องสัดส่วนระหว่างริมผีปากบนและล่าง โดยทั่วไปสัดส่วนทองคำ (Golden ratio) ที่ได้สัดส่วนสวยงามที่สุดของริมฝีปาก คือ ริมฝีปากบนจะต้องหนาประมาณ 1 ส่วน ริมฝีปากล่างจะเป็น 1.6-1.8 ส่วน ขึนกับความยาวคางส่วนปลายของผู้เข้ารับบริการด้วย
และสำคัญมากที่สุดคือ ควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพราะว่าที่บริเวณปากของเรานั้นประกอบไปด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กๆเต็มไปหมด จึงต้องระวัดระวังในการฉีดและต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ได้มาตราฐานเท่านั้น รวมทั้งยังมีคำแนะนำว่า สำหรับคนนที่เคยผ่าตัดริมฝีปากมาก่อนต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีดอย่างละเอียดเสียก่อนนะคะเพื่อความปลอดภัย
ข้อมูลความรู้เรื่องฟิลเลอร์จาก rwcclinic
ที่มาภาพจาก @duearisara ( หมายเหตุ : ในบทความไม่ได้ระบุว่า ดิว อริสรา ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนนะคะ เป็นเพียงภาพประกอบบทความเท่านั้น)