ฉีดวัคซีนโควิด ผลค้างเคียงฉีดวัคซีน ยาคุมกำเนิด วัคซีนโควิด-19

สรุปประเด็น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในผู้ใช้ ยาคุมกำเนิด มีความเสี่ยงจริงหรือไม่

การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันตั้งครรภ์ ส่วนความเชื่อมโยงต่อการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้นมีคำแนะนำดังนี้

Home / แฟชั่น / สรุปประเด็น ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในผู้ใช้ ยาคุมกำเนิด มีความเสี่ยงจริงหรือไม่

ประเด็นน่าสนใจ

  • ในผู้ใช้ยาคุมกำเนิดชนิด ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด มีผลเพิ่มความเสี่ยงได้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ แต่เป็นภาวะที่พบได้น้อยมากในสตรีไทย
  • ส่วนข้อมูลที่รวบรวมจากทั่วโลก ณ ปัจจุบัน ไม่พบว่ามีการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตัน
  • สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดใช้ยาคุมกำเนิด แต่หากยังมีความกังวลใจ อาจเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นทดแทนก่อนได้

เป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เมื่อมีข่าวการเสียชีวิตของหญิงสาวรายหนึ่งหลังจากได้รับการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยมีการระบุรายละเอียดว่า หญิงสาวที่เสียชีวิตด้วยภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากเข้ารับวัคซีน มีการใช้ยาคุมกำเนิดร่วมด้วย จึงทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยหลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น สร้างความแตกตื่นให้กับผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิดอย่างมากมาย ถึงความปลอดภัยในการรับวัคซีน ว่าที่จริงทำให้เกิดภาวะต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการเกิดผลข้างเคียงในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้จริงเท็จแค่ไหน เราได้รวบรวมคำตอบ ที่ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจนจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลดความกังวลใจในการเข้ารับวัคซีนกันต่อไปในอนาคต รวมถึงแนวทางปฎิบัตที่ถูกต้องและปลอดภัย สำหรับในกรณีผู้หญิงที่จำเป็นต้องใช้ยาคุมกำเนิดต่อไป

ในประเทศไทย การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ และมีผลข้างเคียงน้อย ยาเม็ดคุมกำเนิดได้รับการวิจัยและพัฒนาด้านความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 50ปี
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน ป้องกันโรค โควิด-19 ในผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ดังนี้

  1. ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนที่มีเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ยาเม็ด ยาฉีดคุมกำเนิดและแผ่นยาปิดผิวหนังคุมกำเนิด มีผลเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตันได้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้วิธีดังกล่าว อย่างไรก็ตามภาวะดังกล่าวพบได้น้อยมากในสตรีไทย และยังพบได้น้อยกว่าในสตรีตั้งครรภ์ซึ่งมีระดับเอสโตรเจนสูงมากตามธรรมชาติ
  2. ข้อมูล ณ ปัจจุบัน ซึ่งรวบรวมจากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ในสตรีทั่วโลกและในประเทศไทย ซึ่งมีผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ไม่พบว่ามีการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตันแต่อย่างใด
  3. ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนทุกชนิด สามารถรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดการใช้
  4. หากยังมีความกังวลใจ และต้องการหยุดการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่นๆมาทดแทนเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

กล่าวโดยสรุปคือ ในผู้ใช้ยาคุมกำเนิดชนิด ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด มีผลเพิ่มความเสี่ยงได้มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ แต่เป็นภาวะที่พบได้น้อยมากในสตรีไทย
ส่วนข้อมูลที่รวบรวมจากทั่วโลก ณ ปัจจุบัน ไม่พบว่ามีการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตัน
สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดใช้ยาคุมกำเนิด แต่หากยังมีความกังวลใจ อาจเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นทดแทนก่อนได้

คำแนะนำการคุมกำเนิด ด้วยวิธีอื่นๆ ที่ไม่ใช่การใช้ ยาเม็ดคุมกำเนิด , การฉีดยาคุมกำเนิด และการใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด มีดังนี้

การใส่ห่วงทองแดงคุมกำเนิด
เป็นการใส่ห่วงทองแดงในโพรงมดลูกเพื่อคุมกำเนิด กลไกการคุมกำเนิดคือการขัดขวางการฝังตัวอ่อนในโพรงมดลูก แพทย์จะใส่ห่วงคุมกำเนิดเข้าไปในโพรงมดลูก แล้วเหลือสายห่วงออกมาจากปากมดลูกยาวประมาณ 2-3 ซม. ต้องคอยตรวจสายห่วงเป็นระยะ และอายุการใช้งานคือ 3-5 ปี แล้วแต่ชนิดของห่วงคุมกำเนิด ข้อดีคือไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ข้อเสียคือ ต้องคอยเช็คสายห่วงอย่างสม่ำเสมอ

การสวมถุงยางอนามัยในสตรี
ถุงยางอนามัยของสตรีนั้นแตกต่างจากของคุณผู้ชาย โดยมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ให้คุณผู้หญิงสวมก่อนมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันออกแบบใช้สะดวกขึ้น ไม่รำคาญ ใช้ง่าย ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เหมาะสำหรับการ คุมกำเนิด และป้องกันการติดเชื้อได้อีกด้วย

การสวมถุงยางอนามัยในผู้ชาย
เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ง่ายสะดวกและมีความปลอดภัย ในการป้องกันการตั้งครรภ์ และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เทคนิควิธีการใช้ต้องมีการพิจารณาถึงคุณภาพ และชนิดของถุงยาง โดยดูวันหมดอายุ การฉีกซองต้องระวังถุงยางจะรั่วขาด การสวมต้องขณะอวัยวะเพศชายแข็งตัว โดยบีบที่ปลายถุง แล้วสวมเพื่อให้ส่วนปลายเป็นที่รองรับน้ำอสุจิที่จะหลั่งออกมา ห้ามใช้วาสลินหรือน้ำมันเป็นสารหล่อลื่น แต่ให้ใช้เจลหรือน้ำแทน เมื่อใช้เสร็จการถอดต้องใช้กระดาษทิชชูพันรอบ แล้วดึงออกมานำทิ้งในภาชนะที่จัดไว้ เป็นวิธีที่สะดวก ปลอดภัย ราคาไม่แพง

วิธีการคุมกำเนิดหลังร่วมเพศ หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉิน

โดยการรับประทานยาคุมกำเนิด ที่มีปริมาณเอสโตรเจนสูง เพื่อป้องกันการฝังตัวของตัวอ่อน ฮอร์โมนตัวนี้จะไปเพิ่มการเคลื่อนไหวและบีบตัวของมดลุกและท่อนำไข่ ทำให้การผสมกันระหว่างไข่ และเชื้ออสุจิเป็นไปได้ยาก ยากลุ่มนี้ที่รู้จักกันดีได้แก่ ออพรอล (Ovral) โดยรับประทานครั้งเดียว 4 เม็ด หลังร่วมเพศ พบว่ามีผล คุมกำเนิด หลังมีเพศสัมพันธ์ได้ อาการข้างเคียงจากยา คือ คลื่นไส้ อาเจียน พบได้บ่อยมาก ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่รู้จักกันดีคือ โพสตินอร์ (Postinor) มีปริมาณโปรเจสเตอโรนสูง แต่ความเป็นจริงแล้ว ไม่ควรรับประทานมากกว่า 4 เม็ดต่อเดือน และควรใช้หลังร่วมเพศภายใน 3 ชั่วโมง ไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมง


อ้างอิงข้อมูลจาก ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย