ต้องมีวินัยแค่ไหน อแมนด้า ชาลิสา ถึงได้ทำผลงานทุกอย่างออกมาได้ตรงตามเป้าของทีม โดยเฉพาะเมื่อต้องฝึกทักษะหลายๆอย่างควบคู่ไป ภายใต้เวลาที่จำกัด แต่เธอคนนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความตั้งใจและมุ่งมั่น จนมองเห็นพลังแห่งความพยายามของเธอนั้นฉายแสงอย่างชัดเจน และไม่ว่าผลการประกวดจะออกมาเป็นเช่นไร แต่เราเชื่อว่า ผู้หญิงคนนี้เทหมดหน้าตักและสุดความสามารถแล้วจริงๆ
อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ก่อนจะมาถึงวันที่ได้รับการยอมรับและพร้อมใจกันสนับสนุนเธอมากมายเช่นนี้ เธอก็ไม่ต่างจากใครหลายคนที่เคยผ่านช่วงเวลาที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ในช่วงแรกที่ประกาศชื่อของเธอ คือผู้ครองมงกุฎ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 นั้น อแมนด้า ไม่เพียงแต่ถูกมองว่าเธอไม่ใช่ที่สุด เหล่ากองเชียร์ยังตั้งคำถามในใจว่าเธอจะไปได้ไกลแค่ไหน ในเมื่อหลายปีที่ผ่านมา รุ่นพี่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ทำผลงานไว้ได้ไกลมากแล้วทั้งสิ้น ด้วยความที่เธอยังถูกมองเรื่องการสปีชที่ไม่ชัดเจนนัก
แต่ใครจะเชื่อว่า อแมนด้า ชาลิสา แก้เกมที่เหล่ากองเชียร์บอกว่ามันคือจุดอ่อนที่ชัดเจนของเธอ ด้วยการออกมาประกาศจุดยืนอย่างมุ่งมั่นว่า “ฉันนี่ล่ะจะเป็นมิสยูนิเวิร์สที่พร้อมรับฟังทุกคน”
ถ้าเรารู้วิธีการรับฟังที่ถูกต้อง เราสามารถเอาไปช่วยคนที่อยู่รอบๆตัวเราได้ อแมนด้า พูดถึงโครงการที่เธอริเริ่มในเรื่องของการเป็นนักฟังที่ดี ฟังด้วยความเข้าใจและพร้อมส่งพลังแห่งการฟังให้กับคนรอบตัว จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อโลกนี้มีคนพูดเยอะแยะมากมาย แต่ไร้คนฟัง นี่คือเรื่องราวที่เสนอความเป็นตัวตนของเธอได้อย่างลึกซึ้งและตอบโจทย์มาก จนได้ใจทั้งกองเชียร์และผู้คนที่ติดตามเรื่องราวที่เธอกำลังดำเนินไปอย่างมุ่งมั่น
คุณพร้อมที่จะรับฟังหัวใจตัวเอง และออกไปช่วยเหลือผู้อื่นหรือยังคะ
อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020
เหนือสิ่งอื่นใด อแมนด้า ได้เปรียบในเรื่องของประสบการณ์ในการไปยืนบนเวทีระดับอินเตอร์เนชั่นแนลมาแล้ว นั่นจึงทำให้เมื่อเธอก้าวเข้าสู่การประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2020 ในครั้งนี้ แววตาที่ทรงพลังและแน่วแน่ของเธอมันชัดเจนจนกองเชียร์ต้องขนลุกไปกับเธอ
และถึงแม้ว่า ผลงานที่ทำได้ดีที่สุดคือการผ่านเข้ารอบ 10คนสุดท้าย บนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2020 แต่เธอก็ได้ใจกองเชียร์ทั้งประเทศไปอย่างงดงามแล้ว