ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม หลังจากจบการเดินโชว์อของ อแมนด้า ชาลิสา มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ บนเวที มิสยูนิเวิร์ส 2020 ในรอบ พรีลิมมินารี ซึ่งชุดราตรีที่เธอเลือกหยิบมาสวมใส่ในรอบนี้ มาจากผลงานดีไซเนอร์ไทย จากแบรนด์ วาเลนเทียร์ (Valentier) เป็นชุดราตรีสองชิ้น ที่กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และอแมนด้า ก็สวมใส่ก็มาได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ
“Fireworks Embellished Two-Pieces Gown” ชุดราตรีสองชิ้น ปักลายพลุ จากแบรนด์วาเลนเทียร์ (Valentier)
ชุดราตรีสองท่อนสีทองนี้ ถูกเล่าผ่านลวดลายและเฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพลุ หลังจากที่ “คุณบิ๊ก ดนวัต พฤกษ์ชินวร” ดีไซน์เนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้พูดคุยกับ “อแมนด้า ออบดัม” เกี่ยวกับเรื่องราวที่เธออยากจะบอกผ่านชุดราตรีนี้ ในขณะที่เธอยืนอยู่บนเวที Miss Universe
ให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงตัวตนของเธอ ว่าเธอเป็นคนเข้มแข็งมากแค่ไหนและสิ่งสำคัญคือ เธออยากจะมีเสียงที่ทรงพลังที่จะบอกไห้ทุกคนบนโลกใบนี้ หันมารับฟังเสียงของกันและกัน เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน
พลุ (Firework) จึงเป็นภาพที่ดีไซน์เนอร์ต้องการวาดออกมา เพื่อเป็นตัวแทนทั้งความงามและพลังของผู้หญิงที่ได้พูดและแสดงไห้โลกใบนี้ได้เห็นว่าเธอมีสิ่งที่อยากจะบอก และทุกคนต้องหยุดและหันมาฟังในสิ่งที่เธอต้องการจะพูด เหมือนกับเสียงของพลุ ที่เมื่อไหร่มันถูกจุดขึ้น ทุกคนจะต้องหยุดฟังและหันไปมองว่าพลุนั้นมีความงดงามมากเพียงใด อีกทั้งสีทองของพลุยังเป็นภาพแทนการเฉลิมฉลองความสำเร็จ (Achieve The Universe) ของอแมนด้าที่ได้ต่อสู้และฝ่าฟันไปจนสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ก้าวที่ทุกคนจะหันมามองและรับฟังเธอ และเป็นก้าวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล
หากพูดถึงเทคนิคและดีเทลงานปัก จะเห็นว่ามีความผสมผสานลายเส้นของพลุที่มีความโค้งมนแสดงถึงความอ่อนโยน กับลายกราฟฟิคเส้นตรงที่แสดงถึงความแข็งแรง ทำให้ชุดนี้มีทั้งความอ่อนโยนและความเข้มแข็งรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน งานปักที่ผสมผสานทั้งคริสตัล เลื่อม ลูกปัดและปล้องอ้อย ถูกเรียงและไล่เฉดสีไห้เกิดไดนามิคที่เหมือนกับพลุ โดยใช้เวลาในการปักด้วยมือถึง 720 ชั่วโมง
นอกจากนั้นโครงชุด(Silhouette)และคัทติ้งต่างๆยังถูกหยิบยืมมาจากภาพของนักรบหญิง(women warrior) ที่มีความแข็งแกร่ง ทะมัดทะแมงและคล่องตัวสูงและแสดงถึงความพร้อมในการต่อสู้ของอแมนด้าบนเวที Miss Universe
รวมถึงดีไซน์เนอร์ได้ตั้งใจออกแบบไห้ชุดนี้เป็นสองชิ้น (Two Pieces Gown) เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นให้กับชุดและผู้สวมใส่ให้ดูทันสมัย เพราะผู้หญิงยุคใหม่ที่จะก้าวไปสู่ความเป็นสากล ต้องเป็นผู้หญิงที่ทะมัดทะแมงและมีความคล่องตัวสูงสามารถเผชิญสิ่งต่างๆได้ในทุกสถานการณ์
อีกส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือเครื่องประดับที่นำมาคอมพลีทลุคให้ดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จากแบรนด์ Jee’s Jewelry แบรนด์เครื่องประดับ Fine Jewelry ของดีไซน์เนอร์ไทยอย่าง “คุณโบ จีรนันท์” ต่างหูคู่นี้ถูกออกแบบมากจากไอเดียเดียวกับกันชุด (Firework) เพื่อความสมบูรณ์แบบของลุคที่จะนำเสนอบนเวทีระดับโลก ตัวเรือน Gold Plate ที่ประดับไปด้วย พลอยและ White Cubic Zirconia ที่เสมือนกับแสงไฟที่ถูกจุดขึ้นและส่องสว่างจากภายในสู่ภายนอก รวมไปถึงตัวเรือนที่ถูก custom made ขึ้นมาโดยเฉพาะ รวมไปถึงการฉลุตัวเรือนและฝังพลอยอย่างปราณีตโดยช่างทองฝีมือที่ดีที่สุดจากทางแบรนด์ ทำให้ได้เครื่องประดับชิ้นที่เหมาะที่สุดสำหรับลุคนี้
Couture-To-Wear คือสิ่งที่ วาเลนเทียร์ (Valentier) พยายามนำเสนอมุมมองใหม่ๆไห้กับวงการนางงาม หลายคนอาจมองว่าเสื้อผ้ากูตูร์เป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง ชุดราตรีชุดนี้จึงถูกออกแบบลดทอนลงมา โดยยังคงงานปักและเทคนิคชั้นสูง(Haute Couture)แต่ผสมผสานให้อยู่ในรูปแบบของเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Ready-To-Wear) เพื่อให้ดูจับต้องได้มากขึ้น “นางงามต้องเข้าถึงง่าย แฟชั่นและความงามก็ควรเป็นสิ่งที่จับต้องได้เช่นเดียวกัน”
ที่มาภาพจาก donnawat.p