ชุดชั้นใน

เทคนิคจบ 7 ปัญหาการใส่ชุดชั้นใน ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ

7 ปัญหาการใส่ชุดชั้นใน ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ เผยทริคเลือกใส่ชุดชั้นในอย่างถูกต้อง

Home / แฟชั่น / เทคนิคจบ 7 ปัญหาการใส่ชุดชั้นใน ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ

ทุกครั้งที่ใส่บรา หรือชุดชั้นใน คุณผู้หญิงหลายๆ คนอาจจะเจอปัญหาที่ทำให้หงุดหงิดใจ วันนี้ขอเผยทริคแนะนำดีๆ เคล็ดลับในการสังเกต และเลือกใส่ชุดชั้นในกันอย่างถูกต้อง โดยคัดเลือกมา 7 ปัญหายอดนิยม ดังนี้

7 ปัญหาการใส่ชุดชั้นใน ที่มักจะเจอกันบ่อยๆ เผยทริคเลือกใส่ชุดชั้นในอย่างถูกต้อง

1. สายหล่น

ทุกครั้งที่ใส่เสื้อชั้นใน แรกๆ เราต้องปรับความยาวสายให้พอดีขนาดช่วงลำตัว แต่ใส่ไปใส่มาระยะหนึ่ง วันดีคืนดี ดันหล่นตอนนาทีสำคัญซะงั้น ใส่ชุดสวยๆ โมเม้นต์ดีๆ ดันมีสายเสื้อชั้นในหล่นมาทำให้รำคาญ เสียบุคลิก ต้องคอยดึงสายขึ้น ทำให้ดูไม่งาม เรามีวิธีง่ายๆ มาบอก

วิธีแก้: ปรับสายเสื้อชั้นในเป็นประจำทุกเดือน แม้จะเป็นการขยับนิดหน่อย ประมาณ 0.5 เซนติเมตร ทุกๆ ครั้งที่เราใส่ สายเสื้อชั้นในก็จะยืด ทำให้หลวมขึ้นได้ แต่ถ้าลองปรับแล้ว ยังเจอปัญหาเดิมกวนใจอีก แนะนำให้ลองเปลี่ยนสไตล์ชุดชั้นใน เพราะบางทีสไตล์ที่คุณใส่อยู่นั้น อาจจะไม่เหมาะกับสรีระของคุณเท่าไหร่ ลองเลือกรุ่นที่ทรงของสายแคบลงมานิดนึง จะช่วยได้ แต่ถ้าเป็นคนที่มีไหล่ลู่ ลองเลือก เสื้อชั้นในแบบที่ถอดสายไขว้ได้จะดีกว่า เพราะจะช่วยให้สาวๆ มั่นใจ รับรองปัญหาสายหล่นหมดไปอย่างแน่นอน

2.สายกด

เคยไหม ใส่เสื้อชั้นในแล้วสายกดทับไหล่จนเห็นเป็นรอยแดง สาเหตุเกิดจากเสื้อชั้นในของคุณรอบตัวใหญ่เกินไป ทำให้รอบตัวหลวม เพราะขนาดของรอบตัว เป็นตัวรองรับน้ำหนักของหน้าอก หรือสายเสื้อชั้นในอาจจะมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้รับน้ำหนักหน้าอกไม่ไหว จึงเกิดรอยแดงได้ หากทนใส่ต่อไปนานๆ บางทีถึงขั้นปวดไหล่กันเลยทีเดียว

วิธีแก้: แนะนำสาวๆ ลองเลือกเสื้อชั้นในใหม่ที่รอบตัวพอดี ไม่หลวมเกินไป โดยการลดไซส์คือ ถ้าปกติใส่ไซส์ 36B รอบตัวที่กระชับขึ้นจะเป็น 34C คัพจะเท่าเดิม แต่รอบตัวจะเล็กลง หรือบางทีการที่เราปรับสายแน่นจนเกินไป คิดว่าจะทำให้กระชับ แต่กลับทำให้สายรับน้ำหนักมากจนปวดไหล่ก็ได้

3.บราลอย

ใส่แล้วเสื้อชั้นในเริ่มลอยขึ้น ไม่ว่าจะปรับสายขึ้น-ลงแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ยังไม่พอดีตัวและเริ่มไม่กระชับ ไม่ช่วยเก็บทรง จนสาวๆ ไม่มั่นใจ ไม่สบายตัว นั่นคือสัญญาณของการเปลี่ยนเสื้อชั้นในใหม่กันแล้ว

วิธีแก้: แนะนำซื้อเสื้อชั้นในใหม่ที่ไซส์เล็กลง โดยวิธีการลดไซส์ก็ใช้วิธีเดียวกับกรณีด้านบน และเพื่อความชัวร์ว่าเราเลือกชุดชั้นในทีพอดีกับสรีระเราแล้วหรือยัง สาวๆ สามารถสังเกตด้วยตัวเองได้ง่ายๆ โดยการลองสอดนิ้วมือ 2 นิ้วไปที่รอบตัว บริเวณด้านหลัง ตรงตะขอ ถ้าสอดนิ้วได้พอดี ไม่รู้สึกแน่นเกินไป ก็แปลว่า คุณเลือกชุดชั้นในได้พอดีกับคุณแล้วล่ะ

4.คัพเหลือ

ส่วนมากปัญหานี้มักจะเกิดกับ สาวๆ ที่มีหน้าอกรูปทรงระฆังคว่ำ หรือผอมมาก จนทำให้ไม่มีเนื้อหน้าอกเลย
วิธีแก้: ลองปรับเสื้อชั้นในดูก่อน ถ้าปรับสายให้แน่นขึ้น แล้วยังไม่เข้าที่เข้าทาง ลองลดคัพไซส์ แต่คงขนาดรอบตัวเท่าเดิมไว้ก่อน เช่น ถ้า 34B ก็ลดลงเหลือ 34A หรือ ถ้าคัพพอดีแล้ว แต่ยังเหลือช่องว่างอีกนิดหน่อยด้านบน แนะนำให้ลองเปลี่ยนสไตล์ เป็นแบบที่ทรงเต้าต่ำลงมาหน่อยก็สวยไปอีกแบบ

5.เนื้อปลิ้น

อีกหนึ่งปัญหาโลกแตกของสาวๆ อ้วนรึป่าวก็ไม่ แต่ทำไมใส่เสื้อชั้นในแล้วเนื้อด้านข้างปลิ้นออกไป เพราะคุณกำลังใส่เสื้อชั้นในผิดไซส์อยู่ เป็นไปได้ทั้งจากกรณีรอบตัวเล็กเกินไป หรือคัพเล็กเกินไป ไม่มีเนื้อที่เก็บทรงอย่างเหมาะสม ทำให้เนื้อปลิ้นออกมาด้านข้าง
วิธีแก้: ลองวัดไซส์ใหม่ สาวๆ สามารถดูวิธีการวัดดูไซส์จากชาร์ตไซส์ได้เองเลยง่ายๆ

6.นม 4 เต้า

แค่ชื่อก็เห็นภาพกันไปไกลละค่ะ แต่อธิบายให้ชัดขึ้นไปอีก ก็คือการที่เสื้อชั้นในของคุณ มีขนาดเล็กเกินไป ทำให้เกิดการกดเนื้อหน้าอก กดเนื้อส่วนที่เกินทะลักออกมาจากคัพ จนมองแล้วดูนูนเหมือนมีนม 4 เต้า

วิธีแก้: ลองใช้การเพิ่มคัพ เช่น เดิมไซส์ 34B ให้เพิ่มเป็น 34C รับรองคุณจะหายใจสะดวกขึ้น หน้าอกผ่อนคลายมากขึ้น หมดปัญหานม 4 เต้าได้อย่างแน่นอน

7. หลังลอย

อาการตะขอลอยขึ้นไป ไม่อยู่ในแนวระนาบเดียวกัน ถึงเวลาปรับสายเสื้อชั้นในหรือเปลี่ยนไซส์กันแล้วล่ะ นอกจากจะแก้ปัญหาหลังลอย ยังช่วยเซฟปัญหาการปวดหลัง ปวดไหล่จากการใส่ชุดชั้นในที่ไม่พอดีได้อีกด้วย

วิธีแก้: ปัญหานี้เกิดจากการที่คุณอาจจะปรับสายเสื้อชั้นในสั้นเกินไป หรือปรับไซส์รอบตัวให้เล็กลง เพิ่มคัพไซส์ใหญ่ขึ้น

ที่มา : sypintimates