บิ๊นท์ สิรีธร นางสาวไทย ปี 2562 และ Miss International 2019 ได้ตอบคำถามที่สะกิดใจผู้หญิงได้เป็นอย่างดีว่า ทำยังไงเมื่อรู้สึกไม่สวย ซึ่งตัวเธอเองนั้นก็เคยเป็นหนึ่งในคนที่เคยถูกตั้งคำถามนี้มาแล้วเช่นกันเมื่อครั้งที่ได้รับตำแหน่งนางสาวไทย เมื่อปี 2562 โดยสาวบิ๊นท์ได้บอกเล่าประสบการณ์และการรับมือกับทัศนคติต่างๆที่เธอเคยต้องต่อสู้และก้าวข้ามมา จนทำให้เธอเดินหน้าประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่ต้องใช้ความสวยเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่เธอพิสูจน์ความสวยของเธอในแบบไหน และอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ
หลังจากเมื่อวานโพสต์สตอรี่ให้คนที่ติดตามบิ๊นท์ตั้งคำถาม มีคำถามหนึ่งที่น่าสนใจมาก คือ ทำอย่างไรเมื่อรู้สึกไม่สวย? อ่านแล้วก็รู้สึกสะอึกไปนิดหนึ่ง เหมือนประโยคสั้นๆเรียบๆนี้ มันทำให้เราสะเทือนใจบอกไม่ถูก เพราะไม่มีใครสมควรมีความรู้สึกนี้เลย
สมัยก่อนบิ๊นท์ก้าวเท้าเข้ามาในวงการการประกวด บิ๊นท์พอใจในรูปร่างหน้าตาตัวเองมาก หมายถึงว่า เรารู้นะ ว่าหน้าแบบเราเนี่ย ไม่ใช่หน้าที่เรียกว่าสวยเป๊ะ ฉันรู้ว่าคนภายนอกจะมองอย่างไร แต่ฉันมองเข้าไปในกระจกแล้วฉันชอบเวลาตัวเองมีแก้มกลมๆ มีรอยยิ้ม หุ่นอวบๆ ที่ก็รู้นะตอนนั้นว่าอวบ แต่ฉันว่ามันก็เต่งตึงดี มันคือความคิดนี้เลยอ่ะ ดังนั้นเราจะแฮปปี้กับการเป็นตัวเองมาก หรือถ้าช่วงมหาลัยเราเริ่มลดน้ำหนัก นั่นเราก็ทำเพราะเราอยากมีความสุขกับร่างกายตัวเอง ไม่ใช่จากคำคนอื่น และก่อนมาประกวด ก็ตั้งใจว่ามาประกวดนางงามก็คงจะได้สักตำแหน่ง และในช่วงนั้นเราเป็นเด็กธรรมดาจริงๆ คนรอบตัวก็มีแต่เพื่อน พี่น้อง พ่อแม่ ซึ่งเราโชคดีที่ส่วนใหญ่ก็ชอบในความเป็นเรา อย่างแม่นี่ บอกตลอด ผู้หญิงมีแก้ม น่าร้ากก เราเลยรู้สึกดีมาตลอด
แต่ตัดมาพอบิ๊นท์เริ่มมีตำแหน่งทางความงาม แน่นอน ก็จะเริ่มมีคำวิจารณ์เรื่องความงาม แต่อันนี้ก็ไม่ได้โทษคำวิจารณ์หรือความเห็นนะ ว่าทำไมเขาวิจารณ์ว่าเราไม่สวย เพราะนี่คือเวทีนางงาม ยอมรับว่า ‘รู้สึกไม่สวย’ ตอนที่ได้ตำแหน่งนางสาวไทยนั่นแหละ ตอนเดียวเลย มันเป็นเพราะเราไม่คาดคิดว่าคนจะวิจารณ์ขนาดนั้น + หน้าที่ของเราคือตัวแทนระดับประเทศเรื่องความงาม มันก็ต้องรู้สึกกันนิดนึง แต่ความโชคดีของบิ๊นท์อีกแหละ ที่เป็นคนเศร้าหรือทุกข์ ก็ปล่อยร้องไห้เลย แล้วมันจะหาย เราไม่เคยรีบมูฟออน หรือพยายามจะหนีสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ แต่เราเลือกที่จะจมกับมันสักพัก หาสาเหตุ จนทำให้เรารู้สึก ‘เข้าใจ’ ณ โมเม้นท์นั้น เราแบ่งคำวิจารณ์เป็น 2 ส่วน
- วิจารณ์แบบนี้ ฉันพัฒนาได้ คำวิจารณ์ของคุณ คุณจะไม่ได้วิจารณ์ฉันอีก กลายเป็นสนุกดี ก็ดูเองมั่ง ทีมงานดูมั่ง ว่าเขาแนะนำอะไร
- คำวิจารณ์ที่ด่าเอามัน เช่นมีคำหยาบคาย เปรียบเทียบกับสัตว์ อันนี้บิ๊นท์เชื่อว่า หลายคนจะรู้สึกแย่กับคำวิจารณ์อันนี้ จนมันขยายเป็นวงกลมสีดำในหัวใจ แต่อยากบอกทุกคนว่า คำด่าข้อนี้ ปล่อยเบลอ และ ไม่ต้องคิดอะไรเกี่ยวกับมันเลย เพราะเชื่อมั้ย ถ้าเราจมอยู่กับมัน มันจะทำให้เราหมดแรงจะทำอย่างอื่น แล้วคำถามคือ มันควรมีคำพูดจากใครก็ไม่รู้มาทำให้เราไม่สามารถเดินหน้าต่อได้จริงๆหรอ ?
เดี๋ยวจะมีคนถามว่า บิ๊นท์ยังโดนคำด่าว่าไม่สวยอีกหรอ? สวยแล้วนะ เราจะเจอลูปนี้ช่วงหนึ่ง จนทำให้เราตกผลึกว่า คนนี้บอกสวย คนนี้บอกไม่สวย สวยคืออะไรกันแน่เนี่ย? สุดท้ายเราเลยตีความว่า สวยมันเป็นอะไรที่สุดแสนจะ ‘นามธรรม’ แต่ไอ้ความนามธรรมนี้แหละ มันก็เลยก่อเกิดความเห็นต่างกัน จนกระทบความรู้สึกของบุุคคลที่ถูกตัดสินได้ ดังนั้นในเมื่อมันนามธรรมนัก ฉันจะนิยามความสวยของตัวเองเลย
และสุดท้าย บิ๊นท์ก็ตัดสินแล้วว่า บิ๊นท์ส่องกระจกเข้าไปเห็นตัวเอง บิ๊นท์ภูมิใจในตัวเอง และบิ๊นท์รู้สึกสวย เท่านั้นเอง
กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้นิยามคำว่า ‘สวย’ ของบิ๊นท์มันเปลี่ยนไปเยอะเลยแฮะ มันน่าจะเรียกว่าความสวยงามดีกว่า หลายคนเคยได้ยินใช่ป้ะว่า คนนี้สวยที่ใจ เราก็เลยใช้คำว่าสวยนี้ให้กับสิ่งที่เรารู้สึกชื่นชม เช่น ผู้หญิงคนนี้ทำงานแล้วสวยมาก โห คนนั้นขายของออนไลน์แล้วสวยจัง คนนี้ขับจักรยานแล้วสวย คือรวมๆแล้ว น่าชื่นชม ดูน่ามอง ซึ่งมันไม่ได้มาจากแค่ appearance ภายนอกแล้วอ่ะ
ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังคิดแบบนี้ มีคำแนะนำหนึ่งคือ หาข้อเด่น ข้อด้อยของตัวเอง แล้วรับรู้มันซะ เมื่อ่ไหร่ก็ตามที่เราภูมิใจในข้อเด่น แล้วตระหนักรู้ถึงข้อด้อยของตัวเองเสมอและพัฒนามัน เราจะเป็นคนที่ภูมิใจในตัวเอง และ ‘รู้สึกสวย’ ตลอดไปแบบไม่มีใครมาทำลายได้
ที่มาจาก facebook.com/bintsireethorn , @bintsireethorn