จัดตู้เสื้อผ้า มิกซ์แอนด์แมทช์ วิธีจัดตู้เสื้อผ้า ไม่มีเสื้อผ้าใส่

แก้ปัญหาโลกแตก ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ทั้งที่เสื้อผ้าล้นตู้ ด้วยเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญ

ไม่มีเสื้อผ้าใส่ นี่คือคำพูดที่สาวๆร้อยทั้งร้อยต้องเคยเอ่ยปาก ทั้งๆที่เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้ามาก็แทบจะล้นตู้กันเกือบทุกราย และคุณก็คือคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ใช่ไหม?

Home / แฟชั่น / แก้ปัญหาโลกแตก ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ทั้งที่เสื้อผ้าล้นตู้ ด้วยเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญ

ไม่มีเสื้อผ้าใส่ นี่คือคำพูดที่สาวๆร้อยทั้งร้อยต้องเคยเอ่ยปาก ทั้งๆที่เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้ามาก็แทบจะล้นตู้กันเกือบทุกราย และคุณก็คือคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ใช่ไหม? วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆในการจัดการตู้เสื้อผ้า จากผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น เกด ฐาดิณี อดีตบรรณาธิการแฟชั่น นิตยสารแมรี แคลร์ มาให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาโลกแตกนี้ให้หายวับไปในพริบตา

เทคนิคง่ายๆ ในการจัดตู้เสื้อผ้าอย่างมืออาชีพ และ แก้ปัญหาไม่มีเสื้อผ้าจะใส่ให้กลับมาเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีอยู่ในตู้ได้อย่างสนุกสนานขึ้น

1 : สำรวจ ไม่ใช่สำรวจตู้เสื้อผ้านะคะ แต่ลองสำรวจตัวเองดูว่า เราเป็นใคร ชอบอะไร จุดที่เราชอบที่สุดในร่างกายคืออะไร เราเป็นคนแบบไหน และบุคลิกลักษณะแบบไหนที่เราต้องการสื่อสารออกไป โดยใช้เสื้อผ้าเป็นเครื่องมือ เหล่านี้คือการเข้ามาดูที่ตัวเราเอง คือการสร้างสไตล์การแต่งตัวแบบมีเป้าหมาย การรู้เป้าหมายจะทำให้เราตั้ง Style goal ได้ง่ายขึ้น เมื่อเราทราบแล้วว่าเราอยากจะนำเสนออะไร เช่น ความเป็นมืออาชีพ ความทันสมัย ความเป็นเจ้าแม่แฟชั่น คำเหล่านี้จะทำให้เราสามารถเลือกสไตล์การแต่งตัวได้ง่าย และสร้างสไตล์ที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ

2 : จัด เชื่อว่า นี่ไม่ใช่การจัดตู้เสื้อผ้าครั้งแรกของคุณหรอกค่ะ แต่การจัดตู้ครั้งนี้จะพิเศษนิดหนึ่ง เพราะเราจะมีโจทย์ในการจัด วิธีการง่ายๆ คือ รื้อเสื้อผ้าออกมาให้หมด แล้วแบ่งตู้เสื้อผ้าออกเป็น 3 กอง กองที่ 1 คือ เสื้อผ้าที่คุณมีเยอะ ยกตัวอย่างเช่น มีเสื้อยืดสีขาวเยอะ หรือ กางเกงยีนส์เยอะ ให้ดูเป็นจำนวน เป็นประเภทเสื้อผ้าที่ซ้ำๆ กัน อาจจะเป็นแบบ สี หรือทรง กองที่ 2 คือ ใส่บ่อย เช่น ตัวที่คุณทราบว่า หยิบมาใส่เมื่อไหร่ก็เกิด ตัวที่อยู่บนๆ ตัวที่ไม่ต้องรีด หรือ เสื้อผ้าที่นำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ง่าย กองที่ 3 คือ กองที่ไม่ได้ใส่เกิน 6 เดือน เป็นกองเสื้อผ้าที่คุณอาจจะซื้อมาตอนเซลล์ ซื้อออนไลน์ ซื้อมาแต่งยังไม่กล้าใส่ ให้แยกเอาไว้ค่ะ

3 : เลือก เลือกเสื้อผ้าทีละกอง แต่ละกอง ลองเลือกว่า เสื้อผ้าแต่ละชิ้นที่หยิบขึ้นมาจากกองนั้นๆ มีเสื้อผ้าตัวไหนนำเสนอส่วนที่คุณชอบที่สุดในร่างกายบ้าง มีเสื้อผ้าตัวไหนที่นำเสนอบุคลิกที่คุณชอบในตัวเอง หรือบุคลิกที่คุณต้องการนำเสนอบ้าง ให้เอามากองรวมกันเป็นหนึ่งกอง แล้วลองสวมใส่ใหม่อีกครั้ง โดยอาจจะมิกซ์แอนด์แมทช์สลับกันเพื่อให้คุณได้เห็นสไตล์การแต่งตัวที่แปลกตาออกไป ถ้าคุณเป็นคนที่มีความเร่งรีบในตอนเช้า แนะนำให้ถ่ายรูปการแต่งตัวไว้ด้วย เพื่อนำไปใช้ได้ง่ายในชีวิตประจำวันและสามารถประหยัดเวลาในการแต่งตัวตอนเช้าได้ด้วย

4 : กำหนด กำหนดการแต่งตัวของตัวเอง ด้วยการสร้าง Style Board แบบง่ายๆ ลองเสิร์ชหาสไตล์การแต่งตัวที่คุณชอบ หรือ ภาพของดาราที่ชื่นชอบ ลองดูว่าเราชอบอะไรในการแต่งตัวแบบนั้น เลือกการแต่งตัวที่ชอบ พิมพ์ออกมาสักประมาณ 5 ถึง 10 รูป ใส่คำที่เป็นแรงบันดาลใจ ลงไป อาจจะเป็นการเขียน หรือ การตัดจากแมกกาซีน การสร้าง Style Board จะช่วยให้คุณออกแบบเสื้อผ้าในตู้ด้วยตัวเอง และทำให้คุณมีสไตล์การแต่งตัวที่ชัดเจนมากขึ้น

5 : สร้าง สร้าง shopping list ของตัวเองขึ้นมา โดยสร้างจากเสื้อผ้าที่มีอยู่ ลองดูว่าเสื้อผ้าที่เราเลือกจากขั้นตอนที่ 3 นั้น ขาดอะไรบ้างที่จะมาช่วยให้การแต่งตัวของคุณเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้มากขึ้น กำหนดงบและระยะเวลาที่คุณจะสามารถสร้างให้ตู้เสื้อผ้าของคุณสมบูรณ์ในแบบที่ต้องการ ปกติแล้ว เราจะชินกับการทำอะไรใหม่ๆ จนกลายเป็นนิสัยในระยะเวลา 6 เดือน ถ้าคุณทำตามแพลนนี้ดีๆ รับประกันว่าคุณจะมีความสุขกับการแต่งกายและมีสไตล์ที่โดดเด่นขึ้นอย่างแน่นอน