มินิมอล เฟอร์นิเจอร์ แต่งบ้าน

7 เทคนิค แต่งบ้านมินิมอล ไม่ให้น่าเบื่อ

ขึ้นชื่อว่าการ แต่งบ้านมินิมอล ทุกคนน่าจะคิดออกถึงห้องสีขาวล้วน หรือห้องสีขาวกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนๆ เรียบง่าย ชนิดที่ว่าถ้าคนไหนชอบก็ชอบไปเลย แต่บางคนก็จะคิดว่ามันดูน่าเบื่อเพราะเป็นสีเดียวกันไปหมด เอาจริงๆ แล้วบ้านแบบมินิมอลยังมีรายละเอียดลูกเล่นอีกมากที่ท้าทายนักแต่งบ้าน ลองมาดูกันว่า ห้องแบบมินิมอลจะแต่งอย่างไรให้ดูสนุกขึ้นได้บ้าง 7 เทคนิค แต่งบ้านมินิมอล ไม่ให้น่าเบื่อ…

Home / DECOR / 7 เทคนิค แต่งบ้านมินิมอล ไม่ให้น่าเบื่อ

ขึ้นชื่อว่าการ แต่งบ้านมินิมอล ทุกคนน่าจะคิดออกถึงห้องสีขาวล้วน หรือห้องสีขาวกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนๆ เรียบง่าย ชนิดที่ว่าถ้าคนไหนชอบก็ชอบไปเลย แต่บางคนก็จะคิดว่ามันดูน่าเบื่อเพราะเป็นสีเดียวกันไปหมด เอาจริงๆ แล้วบ้านแบบมินิมอลยังมีรายละเอียดลูกเล่นอีกมากที่ท้าทายนักแต่งบ้าน ลองมาดูกันว่า ห้องแบบมินิมอลจะแต่งอย่างไรให้ดูสนุกขึ้นได้บ้าง

7 เทคนิค แต่งบ้านมินิมอล ไม่ให้น่าเบื่อ

แต่งบ้านมินิมอล

1. สองสีกำลังดี
การตกแต่งแบบมินิมอล เน้นใช้สีขาวเป็นสีหลัก แต่ก็ยังสามารถเติมสีอื่นลงไปได้เพื่อให้ดูพิเศษขึ้น ถ้าชอบแนวเท่ๆ อาจจะเพิ่มผืนพรมสีเทาเข้าไปสักผืนร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ผ้าบุหรือผ้าม่านสีเทา ถ้าชอบเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น ก็แซมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน หรือแม้กระทั่งถ้าเป็นมินิมอลสายสนุกสนาน ก็อาจเติมโคมไฟเมทัลลิกแขวนเพดานเข้าไปทำให้สร้างจุดดึงดูดสายตาให้กับห้องก็ได้

2. ใช้เท็กซ์เจอร์เข้าช่วย
หลายครั้งความสนุกไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงสัมผัสทางสายตา แต่ส่งต่อไปถึงสัมผัสทางกาย ถึงแม้จะเป็นวัสดุสีเดียวกันแบบเดียวกัน แต่พื้นผิวที่แตกต่างกันก็ช่วยให้ห้องมินิมอลของเราดูไม่ธรรมดา ตัวอย่างเช่น ห้องเรียบง่ายสีขาว แต่อาจมีผนังตกแต่งอีกส่วนที่ใช้สีขาวเหมือนกัน แต่ติดตั้งแผ่นไวนิลฉลุสามมิติ หรือเป็นแผ่นลามิเนตแบบกลอสซี่ ก็เพิ่มมิติทางการมองเห็นที่สนุกกว่าที่เคย

ต้นไม้

3. ต้นไม้คือพร็อพส์ชั้นดี
ถ้าคิดไม่ออกบอกไม่ถูก เพียงหาต้นไม้มาวางไว้สักต้นก็ช่วยเปลี่ยนห้องมินิมอลเรียบง่ายให้ดูอบอุ่นขึ้นอีกขั้น สำหรับต้นไม้ฟอร์มสวยที่ปลูกในบ้านได้ก็เช่น ต้นจั๋ง ลิ้นมังกร หรือวาสนา หรือถ้าจะให้สนุกขึ้นมาอีกนิด ก็สามารถใช้ไม้ใบปักใส่แจกันใสเป็นพร็อพส์ที่เปลี่ยนได้บ่อยๆ ตามต้องการ ไม้ใบตัวอย่างเช่น ใบฟิโลเดนดรอน ใบโปร่งฟ้า ใบหลิวทอง ที่หาซื้อได้ตามร้านขายดอกไม้ทั่วไป

แสงสว่าง

4. แสงสว่างเปลี่ยนอารมณ์
จากกลางวันที่รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ผ้าม่านโปร่งที่ช่วยกรองแสงอาทิตย์สว่างจ้าให้ซอฟต์ลง เปลี่ยนเข้าสู่กลางคืนจากโคมไฟติดหลอดไฟวอร์มไวท์ หรือจะเป็นไฟคูลไวท์สว่างจ้าที่เป็นหลอดไฟหลักของห้อง ก็ทำให้บรรยากาศตลอดทั้งวันแตกต่างกันไปไม่มีเบื่อแม้จะเป็นห้องสีขาวห้องเดียวกัน ยิ่งถ้าไฟแสงสว่างที่ติดตั้งเพิ่มไม่ว่าจะเป็นจากโคมไฟสีอบอุ่นแบบวอร์มไวท์หรือหลอดไฟสีสว่างแบบคูลไวท์สามารถดิมปรับระดับ ก็ยิ่งเน้นถึงอารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันไปได้อีก

เฟอร์นิเจอร์
5. เติมเฟอร์นิเจอร์สีแสบเข้าไปสักชิ้น
ถึงใจรักสายคลีน แต่ก็แอบเปรี้ยวซ่าได้ด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวโทนสีสดใส เช่น เก้าอี้สตูล เก้าอี้อาร์มแชร์ หมอนอิง ผ้าตกแต่ง หรือแม้กระทั่งงานศิลปะชิ้นใหญ่ แนะนำให้อีกนิดว่า ลองเติมดอกไม้สีเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวชิ้นนั้นเลยก็ได้ เพื่อห้องที่สดใสทั้งจากสีสันของเฟอร์นิเจอร์และสีสันแสนสดชื่นของดอกไม้ แล้วถ้าวันไหนเกิดเบื่อขึ้นมา แค่ยกออก ห้องก็กลับมาเป็นห้องมินิมอลเช่นเคย หรือจะวนเปลี่ยนเป็นสีอื่นก็สนุกได้ตามใจ

กรอบรูป

6. กรอบเพิ่มรูปทรงให้ผนัง
กรอบรูปสีขาวบรรจุภาพวาดหรือลายเส้นสไตล์มินิมอล หรือกรอบกระจกเงา แม้จะเป็นสีเดียวกลมกลืนไปกับงานตกแต่งของห้อง แต่ก็ช่วยขับเน้นให้พื้นที่ให้ดูมีลีลาไม่น่าเบื่อ แนะนำให้ใช้กรอบรูปตั้งแต่สองชิ้นขึ้นไปมาจัดองค์ประกอบบนผนังให้สวยงาม หรือจะใช้กรอบรูปชิ้นใหญ่เพียงชิ้นเดียวหรือกรอบกระจกบานใหญ่ วางร่วมกับพร็อพส์อื่นๆ เช่น หนังสือหรือต้นไม้ต้นเล็กๆ ก็เพิ่มมุมชีวิตชีวาให้กับห้องมินิมอล

7. วัสดุพลิ้วไหวแบบธรรมชาติ
เบรกห้องแบบมินิมอลที่ดูแข็ง ด้วยพร็อพส์สายพลิ้วไหวที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม ตัวอย่างเช่น พรมชิ้นขนยาว หมอนอิงสีขาวขนยาว ผืนผ้าแต่งบ้านแบบปล่อยชาย หรือทำของตกแต่งผนังด้วยตัวเองด้วยไอเดียการทำมาคราเม่ ซึ่งเป็นเทคนิคการถักเชือกฝ้ายสำหรับตกแต่งบ้าน จะเป็นชิ้นงานสำหรับตกแต่งผนัง ใช้เป็นพาร์ทิชั่นสำหรับกั้นห้อง หรือเป็นเปลแขวนกับฝ้าเพดาน ก็จะได้สไตล์อาร์ติสต์เพิ่มขึ้นมาอีกจุด

ทริคง่ายๆ เหล่านี้ทำให้ห้องมินิมอลของคุณดูสนุกขึ้น และยังบ่งบอกถึงรสนิยมความเอาใจใส่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มมิติทางความรู้สึกให้กับงานมินิมอลดูเป็นพิเศษมากกว่าที่เคย