ในยุคที่สังคมเมืองอยู่อย่างโดดเดี่ยวกันมากขึ้น ทำให้เกิดช่องว่างของความเหงาเข้ามาครอบคลุมจิตใจกันมากขึ้นตามไปด้วย อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะไม่ทำให้พวกเราว้าเหว่กันจนเกินไปนัก ก็คือเหล่าสัตว์เลี้ยงน่ารักที่จะมาช่วยเยียวยาจิตใจเราให้ฟูฟ่องล่องลอยกันได้มากทีเดียว ซึ่งแต่ละราศีก็มี สัตว์เลี้ยงประจำราศี อยู่นะตัวเธอ เลี้ยงให้เหมาะกับแต่ละราศีจะช่วยเสริมดวง การงาน การเงิน สุขภาพและความรัก ความสัมพันธ์ได้อีกด้วย หากคุณกำลังมองหาสัตว์เลี้ยงอยู่ล่ะก็ ลองมาเช็กดูกันว่า ราศีคุณนั้นเหมาะจะเลี้ยงเจ้าตัวไหนกันค่ะ
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีมังกร : แมว
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ม.ค. – 12 ก.พ. )
ชาวราศีมังกรเป็นคนเจ้าระเบียบ เป็นคนเนี้ยบ ละเอียดรอบคอบ จึงเหมาะกับแมว สัตว์มงคล ตามความเชื่อโบราณบอกไว้ว่า แมวจะนำพาโชคลาภ ความเจริญก้าวหน้าและสิ่งดีๆ มาให้กับเจ้าของ ยิ่งหากได้เลี้ยงแมวสีสวาดด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งช่วยส่งดวงกันมากยิ่งขึ้น
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีกุมภ์ : นก และ หนู
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 ก.พ. – 13 มี.ค. )
ตามจริงแล้วชาวราศีกุมภ์เป็นคนรักอิสระ และขี้เบื่อ เป็นคนหวือหวา ทำให้ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงสัตว์ชนิดไหนเลย หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์เลยค่ะ แต่หากต้องการจะเลี้ยงสัตว์จริงๆ สัตว์ที่จะช่วยเสริมดวงของชาวราศีกุมภ์ก็คือ นก และ หนู เพราะนก คือตัวแทนของอิสรภาพ ส่วนหนูนั้น แนะนำให้เลี้ยงหนูตะเภา หรือ หนูแกสบี้ค่ะ เป็นหนูที่ช่วยเสริมดวงเรื่องความรักให้ได้พบเนื้อคู่และยังเสริมดวงการงานให้ราบรื่น คล่องตัว
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีมีน : ปลา และ กระต่าย
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 มี.ค. – 12 เม.ย. )
ชาวราศีมีนมีสัญลักษณ์เป็นปลาคู่ และแน่นอนค่ะว่า สัตว์เลี้ยงมงคลประจำราศีนี้ก็คือปลานั่นเอง และด้วยชาวราศีมีนเป็นคนรักสวยรักงาม ดังนั้นปลาที่เลี้ยงก็จะต้องเป็นปลาสวยงาม อย่าง ปลากัด ปลาเงินปลาทอง ปลาหมอสี ปลาคาร์ป หรือ ปลามังกร ซึ่งสัตว์มงคลนี้ต้องการความใส่ใจเป็นอย่างมากค่ะ เพราะต้องระวังเรื่องสภาพแวดล้อมของน้ำ ต้องหมั่นทำความสะอาดตู้ปลา อย่าให้น้ำเสีย เน่าเหม็น เพราะจะมีผลต่อตัวปลาและชะตาชีวิตของผู้เลี้ยงได้ ตามหลักฮวงจุ้ยนั่นเองค่ะ นอกจากปลาแล้ว กระต่ายก็เป็นสัตว์เลี้ยงมงคลอีกชนิดสำหรับชาวปลาคู่ เพราะจะช่วยขัดเกลาให้มีนิสัยอ่อนโยนขึ้น ช่วยดึงดูดโชคลาภให้ชาวราศีมีนค่ะ
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีเมษ : สุนัข
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 เม.ย. – 13 พ.ค. )
ชาวราศีเมษเป็นคนมีนิสัยมุ่งมั่น เป็นผู้นำ มีพลังงานล้นเหลือ สัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์จะช่วยเติมเต็มพลังงานนี้ของชาวราศีเมษได้อย่างลงตัว ช่วยเสริมดวงการงานให้ก้าวหน้า เป็นใหญ่เป็นโต และยังช่วยเรื่องสุขภาพให้แข็งแรงทั้งจิตใจและร่างกายมากยิ่งขึ้นไปด้วยนั่นเอง
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีพฤษภ : เต่า และ ปลา
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 พ.ค. – 13 มิ.ย. )
ชาวราศีพฤษภเป็นคนเก็บตัว รักสันโดษ ชื่นชอบธรรมชาติ มีความสุขุม เรียบร้อย จึงเหมาะแก่การเลี้ยงเต่า สัตว์มงคล ตัวแทนของความมั่นคง หนักแน่น อายุยืนนั่นเอง เต่าจะช่วยเสริมดวงด้านการงานให้เป็นไปอย่างมั่นคงและเสริมดวงสุขภาพให้แข็งแรง ปลอดภัยค่ะ นอกจากนี้ชาวราศีพฤษภยังสามารถเลี้ยงปลาสวยงามต่างๆ ได้เช่นกัน โดยปลาจะเป็นตัวแทนของโชคลาภ การงานที่ไหลลื่นไปได้ด้วยดี แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาดในตู้ปลา ต้องหมั่นคอยเปลี่ยนน้ำ ทำความสะอาด สังเกตเหล่าปลาต่างๆ เพราะมีผลต่อเรื่องดวงชะตาผู้เลี้ยงได้ค่ะ ส่วนปลาที่ห้ามชาวราศีพฤษภเลี้ยงเด็ดขาดคือ ปลาที่มีสีดำค่ะ เพราะเป็นสีกาลกิณีของชาวพฤษภนั่นเอง
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีเมถุน : นก
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 มิ.ย. – 14 ก.ค. )
ความเป็นคนกระตือรืนร้น อยู่นิ่งไม่เป็น เป็นคนปรู๊ดปร๊าด ขยันถึงขั้นไฮเปอร์ นกจึงเป็นสัตว์ที่เหมาะกับชาวเมถุนเป็นนักหนา จะช่วยเสริมดวงเรื่องการงานให้ไร้อุปสรรคได้ค่ะ
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีกรกฎ : ปลาที่ดูสง่างาม
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 15 ก.ค. – 16 ส.ค. )
ชาวราศีกรกฎ ต้องการสัตว์มงคลที่เสริมบารมี ด้วยชาวราศีกรกฎเป็นคนทะเยอทะยาน คิดการใหญ่ จึงต้องเลี้ยงสัตว์น้ำตัวใหญ่ แข็งแรง มีทรวดทรงสง่างาม อย่าง ปลามังกร ปลาคาร์ป จะช่วยเสริมพลังดวงการงาน การเงิน โชคลาภและสุขภาพได้อย่างดี
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีสิงห์ : สุนัขพันธุ์ใหญ่
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 ส.ค. – 16 ก.ย. )
ราชสีห์อย่างชาวราศีสิงห์ เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง รักพวกพ้อง และมีความเป็นผู้นำสูง ดังนั้น สุนัขพันธุ์ใหญ่จะช่วยเสริมบารมีให้ชาวราศีสิงห์ได้อย่างดี ยิ่งหากได้ใช้เวลาฝึกพวกเขาได้ จะยิ่งเสริมบารมีด้านการงาน การเงินเป็นอย่างดียิ่งขึ้นค่ะ
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีกันย์ : เม่นแคระ และ หนู
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 ก.ย. – 16 ต.ค. )
ชาวราศีกันย์เป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบอยู่กับที่ ไม่อยู่ในกรอบ เป็นคนกระฉับกระเฉงว่องไว ปราณีตในทุกๆ รายละเอียด แต่พื้นดวงชาวราศีกันย์จะเป็นคนอาภัพรัก การเลี้ยงเม่นแคระหรือหนูจะช่วยเสริมเสน่ห์ เสริมดวงความรัก และช่วยเรียกโชคลาภเข้ามาในชีวิตค่ะ
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีตุลย์ : ปลา
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 ต.ค. – 15 พ.ย. )
เป็นราศีที่เปี่ยมเสน่ห์ในตัว เพราะต้องเดินทางตลอด เป็นคนอยู่ไม่ติดที่ ทำให้ไม่ควรที่จะเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากไม่มีเวลาให้น้องๆ อย่างแน่นอน ถ้าต้องการเลี้ยงจริงๆ ก็แนะนำเป็นปลาสวยงาม อย่างปลาคาร์ป หรือปลาหางนกยูง ไม่ต้องดูแลมาก แต่จะให้ดี ชาวราศีตุลย์เหมาะจะปลูกต้นไม้ประจำราศีมากกว่านะคะ
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีพิจิก : แมว และ งู
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 พ.ย. – 15 ธ.ค. )
ราศีพิจิกเป็นคนเจ้าเสน่ห์ น่าค้นหา ยามรักใคร รักเต็มร้อย แต่ถ้าเกลียดใครก็เกลียดเข้าไส้ แบบไม่เผาผีกันเลยทีเดียว สำหรับชาวราศีพิจิกที่ต้องการเสริมดวงด้านความรัก แนะนำว่าให้เลี้ยงงู เพราะงู เปรียบเหมือนตัวแทนของชาวราศีพิจิก ที่เปี่ยมเสน่ห์ สวยงาม แต่ลึกลับ น่าค้นหาในขณะเดียวกัน การเลี้ยงงูจะช่วยเสริมดวงให้พบคนรักที่ศีลเสมอกัน เข้าใจในตัวตนของชาวพิจิก อีกทั้งยังเรียกโชคลาภและการงานให้เข้ามาแบบปังปุริเย่อีกด้วย
แต่ถ้าต้องการเสริมดวงเรื่องการงาน และสุขภาพ แนะนำให้ชาวพิจิกเลี้ยงแมวค่ะ โดยเฉพาะแมวขนฟูๆ อย่างแมวเปอร์เซีย จะช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ การงานไร้อุปสรรคเลยทีเดียว
สัตว์เลี้ยงเสริมดวงชาวราศีธนู : สุนัขพันธุ์เล็ก – พันธุ์กลาง
(ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่16 ธ.ค. – 15 ม.ค. )
ชาวราศีธนูเป็นคนเฉลียวฉลาด หัวไว ปรับตัวเก่งเป็นเลิศ ทำให้ปล่อยวางเรื่องต่างๆ ได้เร็ว การเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กถึงพันธุ์กลางจะช่วยให้การเงินเฟื่องฟู เงินทองไม่พร่อง ทำมาค้าขึ้น แนะนำให้เลี้ยง ปั๊ก พุดเดิ้ล ชิสุ ค็อกกี้ หรือเฟรนช์ บูลด็อกค่ะ จะทำให้ผ่อนคลาย เพลิดเพลิน ในชีวิตเป็นอย่างมาก
การเลี้ยงสัตว์คือ ความรับผิดชอบที่หนักเอาการนะคะ ทั้งเรื่องเวลา ความใส่ใจ การเลี้ยงดูที่นอกจากเรื่องที่อยู่อาศัยและอาหารการกินของพวกเขาแล้ว ยังหมายรวมถึงการให้เวลาและความรักแกพวกเขาด้วย นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงแล้ว ความรับผิดชอบต่อพวกเขาก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน การนำเขามาเลี้ยง แล้วทิ้งขว้าง หรือ ส่งให้คนอื่นเลี้ยงต่อ มีผลต่อสุขภาพจิตของพวกเขาเช่นกัน หากสัตว์มีภาวะเครียด จะส่งผลต่อพฤติกรรมของพวกเขาอย่างชัดเจน ทำให้คนเลี้ยงดูอยู่ด้วยยาก หากไม่เข้าใจ พฤติกรรมก็จะยิ่งรุนแรง ดังนั้นแล้วหากคิดจะเลี้ยงก็ต้องทำความเข้าใจและประเมินตนเองให้ดีเสียก่อนว่าพร้อมจะเลี้ยงดูพวกเขาหรือไม่ หากเลี้ยงดูอย่างทิ้งขว้างก็จะเป็นบาป และเป็นภาระต่อสังคมส่วนรวมเช่นกันค่ะ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง