ฝนตก พายุเข้า น้ำท่วมบ้าน กลายเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับบ้านหลังไหนที่น้ำลดแล้วก็ขอแสดงความยินดีด้วย และขั้นต่อไปก็ต้องลงมือเก็บกวาด ทำความสะอาดบ้าน กัน มาเตรียมพร้อมรับมือกับคำแนะนำ วิธีทำความสะอาดบ้าน หลังน้ำท่วม ให้ปลอดภัยและถูกวิธี
วิธีทำความสะอาดบ้าน หลังน้ำท่วม
เตรียมพร้อมก่อนเข้าบ้าน
– เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม อาทิ แว่นตาช่าง, หน้ากากกรองฝุ่น, ผ้าปิดปากปิดจมูก, ถุงมือยาง, รองเท้าบูท, ไฟฉาย และหมวกนิรภัย
– จากนั้นแต่งกายให้พร้อมก่อนเข้าไปในตัวบ้าน สิ่งสำคัญคือห้ามประมาทและอย่าเข้าไปคนเดียว ต้องมีคนไปเป็นเพื่อน และต้องมีคนรออยู่ด้านนอก เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดขึ้น
GREEN HOUSE ชุดไม้ถูพื้นระบบรีดน้ำ ULTIMATE CLEAN SERIES 2
ชุดไม้ถูพื้นระบบรีดน้ำ ULTIMATE CLEAN SERIES 2 ซื้อ 1 แถม 1 พิเศษสุดแถม ผ้า Microfiber ให้ฟรีอีกจำนวน 4 ผืน (ได้ทั้งหมด 8 ผืน) ให้ทุกการทำความสะอาดบ้านของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ราคา 3,680 บาท
ขั้นตอนก่อนเข้าไปยังตัวบ้าน
1.ก่อนเข้าไปในตัวอาคารบ้านเรือน ให้เดินดูบริเวณรอบ ๆ บ้านก่อน โดยสำรวจพิจารณาดูโครงสร้างที่อาจจะเสียหายเป็นอันตรายก่อนตัดสินใจที่จะเข้าไป
2.ระวังเรื่องสัตว์มีพิษต่าง ๆ ที่อาจหนีน้ำเข้าไปอาศัยอยู่ในตัวบ้าน
3.สังเกตดูรอยร้าว หรือการบิดตัวของโครงสร้างก่อนตัดสินใจเข้าไป
4.ตรวจดูที่จัดเก็บถังแก๊ส มองหาสิ่งผิดปกติที่อาจจะมีการรั่วซึม
5.ตรวจสอบการจ่ายไฟให้แน่ใจว่า ไฟฟ้ายังไม่ได้จ่ายกระแสเข้าไปในบ้าน โดยการดูที่คัตเอาท์ว่ายังมีการสับสวิตช์ลงอยู่หรือไม่
6.เปิดประตูให้เกิดการถ่ายเทอากาศ อย่าเหยียบเข้าบ้านทันที ให้สังเกตพื้นบ้าน ลองค่อย ๆ ใช้เท้าทิ้งน้ำหนักเพื่อทดสอบก่อน
7.สังเกตดูเพดานว่ามีการอมน้ำ แอ่นท้องช้าง หรือมีคราบน้ำอยู่หรือไม่ เพราะเพดานอาจพังทลายลงมาได้เมื่อมีการเคลื่อนไหวให้ระมัดระวัง
จัดพื้นที่เก็บขยะ
1.แน่นอนว่าจะมีขยะทั้งของบ้านเราเองและบ้านคนอื่น เลือกที่พักขยะหรือที่แขวนถุงขยะ เพราะสิ่งที่ลำบากที่สุดหลังน้ำลดก็คือปริมาณขยะมากกว่าคนจะมาเก็บขยะ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลา
2.เรียงลำดับ แยกประเภทขยะ ทิ้งขยะที่จะเน่าได้ก่อน เช่น เศษอาหาร ส่วนขยะบางประเภทเก็บไว้ในบริเวณบ้านก่อนได้แล้วค่อยทยอยทิ้งทีหลัง เช่น โฟม พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ที่พังเสียหาย ส่วนขยะอันตราย จำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า หลอดไฟ (ที่ยังไม่แตก) ควรคัดแยกไว้ต่างหาก แล้วหาวิธีจัดการอย่างเหมาะสมเป็นลำดับถัดไป
การทำความสะอาดตามโซนพื้นที่ของบ้าน
- พื้นที่ด้านนอก ประกอบไปด้วย พื้น กำแพง สวน เป็นพื้นที่โดนน้ำและแสงแดดมาก อาจมีการเกิดตะไคร่ได้ง่าย การทำความสะอาดก็ทำได้ง่ายกว่าพื้นที่ด้านใน เพราะสามารถขัดหรือล้างแบบเปียกได้ ไม่ต้องกลัวจะชื้นหรือเปียกเฟอร์นิเจอร์ ทำให้การทำความสะอาดไม่ต้องระมัดระวังมากนัก และยังเป็นพื้นที่โดนแสงแดดได้ดี อากาศและลมถ่ายเทสะดวก การสะสมของความชื้นและเชื้อโรคจะน้อยกว่าพื้นที่ด้านใน
- พื้นที่ด้านใน ประกอบไปด้วย พื้นและผนัง หากน้ำขังก็จะซึมผ่านปูน ผ่านพื้น และสะสมความชื้นอยู่ด้านใน หากทาสีเลย สีก็จะร่อน หากไม่ดูแลดีๆ ก็จะอับชื้นและเป็นเชื้อราได้ง่าย การทำความสะอาด ก็ทำได้เฉพาะผิวด้านนอก ทั้ง กำแพงและพื้น พวกคราบน้ำ หรือสิ่งสกปรก เท่านั้น หากไม่คิดมากเพราะว่าเปียกจากน้ำท่วมอยู่แล้วก็ขัดล้างทำความสะอาดแบบเปียกเลยจะให้ผลที่ดีกว่า ไม่ควรทาสีทับทันทีเพราะความชื้นจะสะสมอยู่ด้านในและเป็นเชื้อราได้
MOMAX UV PEN PORTABLE SANITIZER เครื่องฉายแสง UV ฆ่าเชื้อโรคแบบพกพา
เครื่องฉายแสง UV ฆ่าเชื้อโรคแบบพกพา ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ง่ายและรวดเร็วภายใน 10-30 วินาที มีหลอดไฟ LED 3 ดวง ที่ฉายแสง UV-C ได้มุมใช้งานที่กว้าง ให้สามารถสาดแสงทุกสิ่งรอบตัวคุณ
ราคา 1,690
ปัญหาอับชื้นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟู ควรเปิดหน้าต่าง ประตู และช่องแสงต่างๆให้ ความร้อนจากแสงแดด และ ลม ช่วยพัดพาความชื้นออกไป
- เฟอร์นิเจอร์ แบ่งหมวดตามประเภทออกเป็น
วัสดุจากผ้า : หลังน้ำลดให้รีบนำไปซักล้าง และตากแดดให้แห้งสนิท ย้ำ! ต้องแห้งสนิทเนื่องจากความชื้นจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียได้อย่างดี ทำให้ผู้อยู่อาศัยเจ็บป่วยตามมาได้ ทั้งโรคผิวหนังและโรคระบบทางเดินหายใจ
วัสดุจากไม้ : โดยธรรมชาติของไม้จะดูดซึมสะสมความชื้น และ สิ่งสกปรกได้ง่าย และ ยากต่อการทำความสะอาด หลังน้ำท่วม เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้อาจบวม แตก หรือ มีเชื้อราขึ้น ได้ หากเสียหายเล็กน้อยยังพอซ่อมแซมได้ แต่ถ้ามากกว่านั้น ตัดใจทิ้งเถอะค่ะ
เครื่องใช้ไฟฟ้า : ส่งซ่อม หรือ ตัดใจทิ้ง ตามสภาพ
ทำความสะอาดให้ถูกจุด จากสาเหตุของปัญหา
- ความชื้น – เป็นต้นเหตุของทุกปัญหา พอชื้นปุ๊บ สะสมเชื้อโรค เกิดเป็นเชื้อรา เกิดจุลินทรีย์ เกิดกลิ่นเหม็น มีคราบสกปรก และอีกมากมาย ดังนั้น ต้องกำจัดให้ได้มากที่สุดครับ ง่ายที่สุดคือ…
เปิดหน้าต่าง เปิดพัดลม เปิดประตู เปิดทุกอย่างที่เป็นไปได้ ให้อากาศและลมถ่ายเทพัดพาเอาความชื้นออกไป หากเป็นวันแดดจัดจะดีมาก แต่ห้ามเปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะเครื่องปรับอากาศ จะดูดเอาความชื้นและเชื้อโรค ไปติดในตัวเครื่อง และต่อไปอากาศจากเครื่องปรับอากาศจะไม่สะอาด ทำให้เกิดโรคและภูมิแพ้ได้
เครื่องทุ่นแรง – ที่ใช้ได้จะเป็นพวกเครื่องเป่าลมหอยโข่ง ถ้ามีลมร้อนด้วยจะดีมาก
สามารถใช้ กากใบชาแห้ง กากกาแฟแห้ง หรือถ่าน ดูดความชื้นได้
- เชื้อโรค เชื้อรา ต่างๆ – เกิดจากความชื้นและสิ่งสกปรกที่มากับน้ำ ทำให้เกิดการสะสมและรวมตัวกัน เป็น เชื้อโรค เชื้อราต่างๆ มีผลร้ายต่อร่างกายหากสูดดม หรือ สัมผัสเป็นเวลานานๆ
สามารถทำความสะอาดได้ 4 วิธี ดังนี้
: ใช้คลอรีน ผสม 1 ต่อ 500 หรือ 1000 ส่วน เช็ดถู ฉีดพ่น หรือ
: ใช้น้ำส้มสายชู เช็ดถู ฉีดพ่น หรือ
: ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราต่างๆ
: หลังจากนั้นประมาณ 10-20 นาที เช็ดถูทำความสะอาดอีกครั้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป
- กลิ่นเหม็น – หลังจากกำจัดความชื้นและ เชื้อโรค เชื้อราต่างๆ ไปแล้ว กลิ่นเหม็นจะเบาบางลงไป แต่กลิ่นที่ยังสะสมอยู่ในท่อน้ำหรือพื้นที่อับชื้นเช่น ห้องน้ำ ควรใช้น้ำหมักชีวภาพ EM แล้วราดลงพื้นหรือฉีดพ่น ช่วยกำจัดกลิ่นได้ การออกฤทธิ์จะช้าแต่ได้ผลดี ไม่ควรใช้น้ำยาที่ผสมน้ำหอมราดเพราะจะทำให้กลิ่นเหม็นยังคงอยู่และอาจรุนแรงขึ้นได้
- คราบสกปรก – กำจัดคราบต่างๆโดยใช้น้ำยาทำความสะอาด และเช็ดถู หรือขัด ตามปกติ หากพื้นที่กว้างสามารถใช้เครื่องขัดพื้นช่วยได้ สำหรับพื้นที่ด้านนอกสามารถใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงร่วมกับน้ำยาจะทำความสะอาดได้เร็วขึ้น (ดูในหมวดการทำความสะอาด)
การทำความสะอาดพื้นที่ต่างๆ หลัง น้ำท่วม
- พื้น
ด้านนอกอาคาร ทำความสะอาดโดยการฉีดน้ำล้าง การขัด และใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ สามารถ ล้างแบบเปียกได้แล้วทิ้งให้แห้ง สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรครวมด้วยเพื่อความสะอาด
ด้านในอาคาร เช็ดทำความสะอาด หากคราบฝังแน่น ขัดด้วยแปรงหรือแผ่นขัด และใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรครวมด้วยเพื่อความสะอาดเพื่อทำความสะอาด
*หมายเหตุ หากพื้นที่กว้างสามารถใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง หรือเครื่องขัดพื้น ช่วยทำความสะอาดจะลดเวลาทำงานได้มาก
GREEN HOUSE ชุดไม้ถูพื้นระบบรีดน้ำ ULTIMATE CLEAN SERIES 2
ชุดไม้ถูพื้นระบบรีดน้ำ ULTIMATE CLEAN SERIES 2 ซื้อ 1 แถม 1 พิเศษสุดแถม ผ้า Microfiber ให้ฟรีอีกจำนวน 4 ผืน (ได้ทั้งหมด 8 ผืน) ให้ทุกการทำความสะอาดบ้านของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ราคา 3,680 บาท
พื้นไม้ สะสมความชื้นสูง ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาด ล้าง หรือเช็ดถู
พื้นพรม หากสะสมความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพื่อความสุขภาพของผู้อยู่อาศัย หากไม่ชื้นมากให้ใช้เครื่องซักพรมทำความสะอาด หรือซักล้างด้วยแปรงขัดล้างทำความสะอาด แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดน้ำเพื่อดูดน้ำกลับ ระวังพรมบางประเภทไม่ทนต่อน้ำ กาวหรือขนพรมอาจหลุดได้
- กำแพง
ด้านนอกอาคาร ทำความสะอาดโดยการฉีดน้ำล้าง การขัด และใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ สามารถ ล้างแบบเปียกได้แล้วทิ้งให้แห้ง สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรครวมด้วยเพื่อความสะอาด
ด้านในอาคาร เช็ดทำความสะอาด หากคราบฝังแน่น ขัดด้วยแปรงหรือแผ่นขัด และใช้น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรครวมด้วยเพื่อความสะอาดเพื่อทำความสะอาด แต่สีผนังอาจหลุด จะต้องแต่งใหม่
วอลเปเปอร์ เช็ดทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรค
- เฟอร์นิเจอร์
ตู้บิวท์อิน เช็ดถูทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรค เปิดหน้าบานระบายความชื้น
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ฉีดล้างทำความสะอาด นำตากแดด หากเป็น เฟอร์นิเจอร์ผ้าจะเปียกและสะสมความชื้นสูง แนะนำให้เปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพื่อความสุขภาพของผู้อยู่อาศัย หากไม่ชื้นมากให้ซักล้างด้วยแปรงขัดล้างทำความสะอาด แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดน้ำเพื่อดูดน้ำกลับ
- เครื่องใช้ต่างๆ
เครื่องครัว ต่างๆ แช่ทำความสะอาดในน้ำคลอรีนผสม หรือ แอลกอฮอล์ เพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วนำไปแช่ในน้ำเดือดต้มทำความสะอาดอีกครั้ง
เครื่องเงินและโลหะ ต้มทำความ แช่ในน้ำเดือดต้มทำความสะอาด
ข้อควรจำ!!
- สวมถุงมือ รองเท้ายาง ผ้าปิดจมูก ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้ารั่ว และการสูดดม สัมผัสกับเชื้อโรคต่างๆ
- ควรทำความสะอาด ฟื้นฟู ทันทีที่ทำได้ อย่าทิ้งไว้นาน เพราะเชื้อโรคจะสะสมมาก คราบสกปรกจะฝังแน่นทำความสะอาดยาก
- ห้ามเปิดเครื่องปรับอากาศทันที เพราะ เชื้อโรคจะสะสมในระบบได้ ควรใช้งานหลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว
- เปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อลดความชื้นและอับ จะลดโอกาสเกิดเชื้อราและไม่สะสมเชื้อโรค
- ห้ามทาสีใหม่ทันที เพราะความชื้นสะสมที่กำแพง จะทำให้สีทาใหม่ลอกร่อนได้
- กำจัดความชื้น เชื้อรา ให้ได้มากที่สุด เพื่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ลดโอกาสเกิดโรคทางเดินหาย โรคปอด หอบหืด
ที่มาจาก www.108clean.com