Triumph เผยโฉม All-New Triumph Tiger 900 แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งรุ่นใหม่ล่าสุด สานต่อความเร้าใจจาก Triumph Tiger 800 สู่ขุมพลังที่ใหญ่ขึ้น จัดจ้านยิ่งขึ้น พร้อมกับการพัฒนาบุคลิกและเทคโนโลยีใหม่ ที่ทำให้การขับขี่สนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว โดยมีให้เลือกด้วยกันถึง 5 รุ่น ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน, Rally, Rally GT, GT และ GT Pro
Triumph Tiger 900 ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์สามสูบเรียง DOHC 12 วาล์ว ความจุ 888 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมกับพัฒนาให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5 สมรรถนะเท่าเดิมจากรุ่นปัจจุบันที่ 95.2 แรงม้า ที่ 8,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงถึง 87 นิวตันเมตร ที่ 7,250 รอบ/นาที ซึ่งจากเดิมจะอยู่ที่ 79 นิวตันเมตร
Triumph Tiger 900 ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมกับเฟรมใหม่, ถังน้ำมันความจุใหม่, ชุดดิสก์เบรกพร้อมคาลิเปอร์เบรกจาก Brembo, ระบบไฟส่องสว่าง LED รอบคัน, ชุดท่อไอเสีย, ชิลด์บังลมหน้า, เรือนไมล์จอดิจิตอล TFT ขนาดตั้งแต่ 5-7 นิ้วตามรุ่นย่อย พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ แต่ในรุ่น Rally GT กับ GT Pro จะได้รับฟังก์ชั่นแผนที่ที่มีความแม่นยำสูงกับฟีเจอร์แฮนด์ฟรีที่จัดเต็มยิ่งข้น
ทั้งนี้ในรุ่น Rally, Rally GT, GT และ GT Pro จะได้รับออพชั่นระบบอิเล็กทรอนิกส์ Continental developed, IMU 6 แกน, Cornering ABS, Traction Control กับ Cornering Traction Control , Cruise Control, ปลอกแฮนด์พร้อมระบบอุ่นมือ ส่วนรุ่น GT Pro และ Rally Pro จะได้รับฟังก์ชั่นอุ่นเบาะนั่งเพิ่ม, เบาะซ้อนท้าย, ระบบตรวจแรงดันลมยาง เป็นต้น
สำหรับรายละเอียดรุ่นย่อย มีดังนี้
Triumph Tiger 900 Rally / Rally GT จะเป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาเพื่อการวิ่งตะลุยทางฝุ่น และทาง Off-Road โดยชุดช่วงล่างจะได้โช้คอัพหัวกลับ 45 มม. จาก Showa ที่สามารถปรับระดับแบบแมนนวล โดยมีระยะยุบตัวมากถึง 240 มม. ด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นโมโนโช้คจาก Marzocchi ที่สามารถปรับด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีระยะยุบตัวมากถึง 230 มม.
รวมไปถึงโหมดขับขี่จะมีทั้ง Rain, Road, Sport, Off-Road ส่วนรุ่น Rally GT จะเพิ่มโหมด Off-Road Pro กับตั้งค่าเองร่วมด้วย ส่วนล้อในรุ่น Rally ทั้งหมดจะได้เป็นซี่ลวด และสามารถปรับความสูงได้ตั้งแต่ 850 – 870 มม.
Triumph Tiger 900 GT / GT Pro จะเป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาเพื่อรองรับการขับขี่สันทนาการทางไกล วิ่งได้ทั้งบนทางเรียบ กับทาง Off-Road โดยชุดช่วงล่างจะได้โช้คอัพหัวกลับ 45 มม. จาก Marzocchi ที่สามารถปรับระดับแบบแมนนวล โดยสามารถปรับระยะยุบตัวมากถึง 180 มม. ด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นโมโนโช้คจาก Marzocchi ที่สามารถปรับด้วยแมนวล กับระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรุ่น GT Pro โดยมีระยะยุบตัวมากถึง 170 มม.
รวมไปถึงยังได้รับแพ็คเกจ Low Ride Height Version, ปรับความสูงตัวรถได้ตั้งแต่ 810 – 830 มม. โหมดขับขี่จะมีทั้ง Rain, Road, Sport, Off-Road ส่วนรุ่น Rally GT Pro จะเพิ่มโหมดตั้งค่าเองร่วมด้วย และรุ่น GT ทั้งหมดจะได้รับล้อแม็ก