หลังจากที่ Toyota Motor ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัว All-New Toyota Yaris ซับคอมแพ็คแฮทช์แบ็คโฉมใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการ ในเวลานี้ได้เผยข้อมูลรุ่นย่อย และราคาจำหน่ายออกมาอย่างเป็นทางการ เตรียมนับถอยหลังวางจำหน่ายในโชว์รูมที่ญี่ปุ่นพร้อมกัน 10 กุมภาพันธ์ 2020 ราคาเริ่มต้น 1,395,000 เยน หรือราวๆ 3.85 แสนบาท
โดย Toyota Yaris ได้รับการถ่ายทอดการออกแบบโดยยึดอักษร “B” ที่นอกจากถ่ายทอดของเซ็กเมนต์รถ B-Segment แล้ว ยังประกอบไปด้วย “BOLD”, “BRISK”, “BOOST”, “BOOST”, “BEAUTY”, “BULLET” และ “B-Dash!” ที่ถ่ายทอดความสปอร์ต สวยงาม โฉบเฉี่ยว สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี แถมตัวรถมีสีตัวถังให้เลือกมากถึง 18 เฉดสี ทั้งสีโมโนโทน 12 สี และทูโทนอีก 6 สี โดยจะแยกได้ทั้งหลังคาสีดำ และหลังคาสีขาว
สำหรับเกรดของรถก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย แต่จะแยกออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มขุมพลังไฮบริด กับกลุ่มเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งกลุ่มเครื่องยนต์เบนซินก็จะมีการแยกได้ทั้งเครื่อง 3 สูบ 1.0 ลิตร และเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5 ลิตร Dynamic Force, พร้อมระบบส่งกำลังที่มีให้เลือกอีก 3 แบบ ได้แก่ เกียร์ CVT, เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ Direct Shift-CVT ส่วนระบบขับเคลื่อน จะมีทั้งขับเคลื่อนสองล้อ และขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four ใหม่ล่าสุด
แน่นอนว่า Toyota Yaris จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่มีความทันสมัยยิ่งขึ้น โคมไฟหน้า LED แบบ 3 เลนส์ พร้อมระบบส่องสว่างจากไฟ LED เป็นออพชั่นมาตรฐานในรุ่นไฮบริด ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ก็จะได้รับไฟหน้า LED แบบ 3 เลนส์ พร้อมไฟเลี้ยวสีส้ม และยังมาพร้อมฟังก์ชั่นเปิดไฟหน้าผ่านกุญแจรีโมทในทุกเกรดด้วย
ภายในได้รับการพัฒนาให้มีความทันสมัยมากขึ้น เช่น เรือนไมล์ จะมีให้เลือกทั้งเรือนไมล์หน้าปัด พร้อมจอ TFT กับเรือนไมล์ TFT พร้อมจอ Head-up Display ในรุ่นบนๆ และรุ่นไฮบริด, เรือนไมล์จอดิจิตอลขนาด 7-8 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย อาทิ TC Smartphone Navigation, LINE Car Navigation, SDL (Smart Device Link), Apple CarPlay, Android Auto, Entry Navi Kit, T-Connect Navi Kit เป็นต้น ซึ่งระบบเชื่อมต่อบางรายการจะเป็นแพ็คเกจเสริม
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ DCM (Data Communication Module) ที่จะบันทึกข้อมูลของตัวรถพร้อมส่งข้อความรายงานสภาพรถและคำแนะนำในการจัดสรรเวลาตรวจสภาพรถ โดยจะสามารถใช้งานได้ฟรีนานถึง 5 ปี และในปีที่ 6 เป็นต้นไป จะต้องเสียค่าบริการเป็นจำนวน 3,300 เยนต่อปี หรือ 300 เยนต่อเดือน
จุดเด่นที่น่าสนใจของออพชั่นภายในนั้น จะอยู่ที่เบาะนั่ง ในบางรุ่นจะได้รับเบาะนั่งรูปแบบใหม่ล่าสุด “ระบบหมุมเบาะเข้า-ออกฝั่งคนขับ” ที่จะมีคันโยกแบบพิเศษที่จะสามารถปรับองศาเบาะนั่งให้ออกข้างนอกเล็กน้อย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกห้องโดยสาร รวมไปถึงมีการปรับปรุงระบบปรับเบาะด้วยมือที่มีความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
แถมพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายก็มีการปรับปรุงให้มีความกว้างมากขึ้น ด้วยความกว้าง x ความยาว x ความสูงจะอยู่ที่ 1,000 x 630 x 830 มม. แม้จะไม่ได้พับเบาะด้านหลัง แต่ถ้าพับเบาะด้านหลังก็จะมีความกว้างที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ในเกรดท็อปๆ และรุ่นขุมพลังไฮบริด จะได้ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายใต้แผงคอนโซลหน้าด้วย
Toyota Yaris โฉมใหม่ พัฒนาบนแพลตฟอร์ม GA-B ที่ต่อยอดจาก TNGA ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบากว่าโฉมเดิมราวๆ 50 กิโลกรัม จนทำให้ในเกรดมาตรฐานขุมพลังเบนซิน 1.0 ลิตร มีน้ำหนักเพียง 940 กิโลกรัม รวมไปถึงมีความแข็งแรงมากขึ้น กระจายแรงชนได้ดีกว่าเดิม และมีจุดศูนย์ถ่วงที่เหมาะสม เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ด้านมิติตัวถังจะมีความยาว x กว้าง x สูง x ระยะฐานล้อ อยู่ที่ 3,940 x 1,695 x 1,500 (รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะสูงถึง 1,515) x 2,550 มม.
สำหรับข้อมูลขุมพลัง มีดังนี้
- เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร “1KR-FE” สมรรถนะ 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
- เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร “”M15A-FKS” Dynamic Force สมรรถนะ 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800-5,200 รอบ/นาที
- ขุมพลังไฮบริด ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร “M15A-FXE” สมรรถนะ 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800-4,800 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า
ส่วนระบบความปลอดภัยใน Toyota Yaris จะมีการบรรจุ Toyota Safety Sense ที่ได้รับการยกระดับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) รุ่นแรกที่มาพร้อมกับระบบเบรกอัตโนมัติที่รองรับการตรวจจับยานพาหนะหรือคนเดินข้ามถนนที่กำลังจะมาถึงเมื่อทำการเลี้ยวขวา รองรับการตรวจจับวัตถุได้ทั้งกลางวันและกลางคืน, ระบบสนับสนุนการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำป้องกันอุบัติเหตุระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ควบคู่กับถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง ใหม่ล่าสุด
ทั้งนี้ในรุ่นไฮบริดเกรดบนๆ จนถึงรุ่นท็อปสุด เป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมระบช่วยจอดอัตโนมัติ Toyota Teammate (Advanced Park) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่เวลาขับรถถอยจอดหรือเข้าช่องจอดรถได้เพียงแค่กดปุ่มบนคอนโซลกลาง ที่จะทำงานร่วมกันระหว่างระบบขับเคลื่อน-กล้อง-เซ็นเซอร์โซนาร์รอบทิศทาง
สำหรับราคาจำหน่ายของ 2020 Toyota Yaris จะแบ่งออกเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ราคาตั้งแต่ 1,395,000 ถึง 2,124,000 เยน หรือราวๆ 3.85 ถึง 5.86 แสนบาท และรุ่นไฮบริด ราคาตั้งแต่ 1,998,000 ถึง 2,493,000 เยน หรือราวๆ 5.51 6.88 แสนบาท (ทุกราคาบาทยังไม่รวมภาษี)