ในช่วงเวลาของการขับรถช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืนอันแสนยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ต้องเผชิญกับสภาพจราจรที่คับคั่งในระหว่างกลับภูมิลำเนา หรือแม้แต่ถนนในเมืองที่โล่งสนิทจนแทบอยากเหยียบให้มิดสมการรอคอย แต่ขึ้นชื่อการขับรถในเวลากลางคืนนั้นย่อมต้องใช้สติ และทักษะการขับขี่ที่มากกว่าเวลากลางวัน ซึ่งความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุที่สูง และการช่วยเหลือค่อนข้างมาช้า โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ทราบเส้นทาง หรือเส้นทางที่มีแสงไฟน้อย ไปจนถึงเส้นทางที่อับสัญญาณ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน
แต่ถ้าในกรณีที่มีความจำเป็นในการขับขี่ช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยตัวเอง ผู้ขับขี่จึงต้องวางแผนและต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้นในทุกเมตร ทุกกิโลเมตร ซึ่งเทคนิคการขับขี่ในเวลากลางคืนอย่างปลอดภัย มีดังนี้
1.เช็คสภาพรถ โดยเฉพาะระบบไฟ ด้วยอุปกรณ์ส่องสว่างภายนอกรถถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ที่นอกจากจะต้องตรวจสอบว่าระบบไฟให้แสงว่างดีพอหรือไม่ หากรถของคุณมีฟังก์ชั่นระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ก็ควรจะตรวจสอบว่าทำงานได้สมบูรณ์แบบหรือไม่ หากไม่สมบูรณ์แบบพอควรปรึกษาช่างทันที
2.เซ็ตระบบ GPS โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้สมาร์ทโฟน ควรตั้งค่าระบุตำแหน่งตัวคุณเอาไว้ หากเกิดเหตุสุดวิสัยก็จะสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้อีกทาง
3.เตรียมอุปกรณ์แจ้งเตือน เช่น ป้ายสะท้อนแสง ไฟฉาย สำหรับการส่งสัญญาณ หรือการทำเครื่องหายเพื่อแจ้งเตือนรถที่มาข้างหลัง
4.ขับรถให้ช้ากว่าปกติ ไม่ว่าถนนจะมีลักษณะใด หากต้องขับขี่ในเวลากลางคืน ควรจะทำความเร็วให้ช้ากว่าปกติ ซึ่งจะช่วยในการสังเกตพื้นที่โดยรอบได้ดีขึ้น เช่น ทางแยก หรือมีอะไรวิ่งตัดหน้า หรือข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา นอกจากนี้การขับขี่ที่ช้าลงจะช่วยตอบสนองต่อการเลี้ยวและเบรกได้แม่นยำกว่าเดิม
5.สังเกตไหล่ทางเสมอ บริเวณไหล่ทาง อาจจะไม่ได้มีแค่รถที่จอดเอาไว้อย่างเดียว แต่อาจจะมีทั้งทางลาด หนองน้ำ ขอบกั้น เสาไฟฟ้า ที่จะเพิ่มความเสี่ยงแก่ผู้ขับขี่ในเวลากลางคืนมากยิ่งขึ้น
6.ไม่ไหวจริงควรหาที่พัก หากการขับขี่รู้สึกเหนื่อยล้าเกินไป หากพบปั้มน้ำมัน ร้านอาหาร ที่พัก หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเข้ามาพักผ่อน แต่ผู้ขับขี่ควรพิจารณาหาสถานที่เหล่านี้ที่อยู่ในชุมชน หรือจุดที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ได้อยู่ที่เปลี่ยว แสงสว่างเพียงพอ มีบริการขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้
7.มีเพื่อน-คนใกล้ชิดช่วยผลัดกันขับรถ ในกรณีที่ต้องขับรถไกลกว่า 150 กิโลเมตรขึ้นไป หากมีเพื่อน หรือครอบครัวที่สามารถขับขี่รถได้อย่างถูกกฎหมาย ควรจะทำการวางแผนในการสับเปลี่ยนผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันการหลับในของผู้ขับขี่ และสามารถสลับกันพักผ่อนได้อย่างสบายใจ
ส่วนการขับขี่บนท้องถนนในเมืองที่โล่งสนิทก็ยังต้องขับรถให้ช้าลงกว่าปกติเช่นเดียวกัน หมั่นสังเกตทางแยกว่ามีรถวิ่งมาเร็วกว่าปกติหรือไม่และหากรู้สึกเมื่อล้า ควรหาจุดพักจอดรถสำหรับการผ่อนคลายก่อนเดินทางต่อไป ซึ่งการขับขี่ในเมืองที่ถนนโล่งกว่าปกติจะค่อนข้างสบายใจในระดับหนึ่ง เนื่องจากมีแสงไฟส่องทาง และมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นควรจะขับขี่ให้ช้าจะดีที่สุด