ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 มีคิวดวลความเร็วสนามสุดท้ายของฤดูกาลระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-1 ธันวาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันโฮมเรซของนักบิดไทย
ไฮไลต์ของการแข่งขันสนามสุดท้ายของ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 อยู่ที่การตัดสินแชมป์เอเชียเกือบของทุกคลาส ได้แก่ เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี, เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี และ อันเดอร์โบน 150 โดยมีเพียงคลาสเดียวที่ได้แชมป์เอเชียไปแล้ว นั่นคือ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี จากผลงานสุดเพอร์เฟ็คท์ของ “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม
โดยการลุ้นแชมป์ในคลาสใหญ่ที่สุดอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ยังคงต้องเดินทางมาตัดสินกันใน 2 เรซสุดท้ายที่บุรีรัมย์ โดย “บร็อค พาร์ค” อดีตนักบิดโมโตจีพีและเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ชาวออสเตรเลียน จาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง ทีม เอเชียน นำเป็นจ่าฝูงมีทั้งสิ้น 212 คะแนน เหนืออันดับ 2 อย่าง “อาซลัน ชาห์” นักบิดจอมเก๋าชาวมาเลเซียนจาก วันซ็อกซ์ ทีเคเคอาร์ แซ็ก ทีม อยู่ 19 คะแนน ส่วนอันดับ 3 อย่าง “ซัควาน ไซดี้” ดาวบิดมาเลเซียนจาก ฮอนด้า เอเชีย ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ หมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ไปแล้ว เพราะมีคะแนนตามหลังหัวแถวถึง 46 คะแนน
ด้านนักบิดไทยในคลาสนี้ “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 5 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 140 คะแนน จากการขึ้นโพเดี้ยมมาแล้วทั้งสิ้น 4 ครั้ง และมีลุ้นคว้าแชมป์ในสนามนี้ ตามด้วย “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 6 มี 107 คะแนน ส่วนอันดับ 7 เป็นของ “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม มี 106 คะแนน ขณะที่ “ซีเค” ชัยวิชิต นิสสกุล จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 10 มีทั้งสิ้น 56 คะแนน
ส่วนการลุ้นแชมป์ในคลาส ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี นั้นจบลงไปแล้ว โดยยอดนักบิดไทยอย่าง “ต๋ง” พีรพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม สร้างผลงานระดับมาสเตอร์ คว้าแชมป์ 9 เรซ และอันดับ 3 อีก 3 เรซ ทำสถิติขึ้นโพเดี้ยมร้อยเปอร์เซ็นต์เก็บไปทั้งสิ้น 264 คะแนนจาก 6 สนาม (12 เรซ) ทำแต้มขาดลอยจากอันดับ 2 อย่าง คาสม่า แดเนียล คาสมายูดิน นักบิดมาเลเซียนจาก หง หลง ยามาฮ่า มาเลเซีย ถึง 81 คะแนน ตามด้วย อดัม นอร์โรดิน นักบิดมาเลเซียนจาก เอสไอซี จูเนียร์ ซีเค เรซซิ่ง ตามหลัง 139 คะแนน
ขณะที่คู่หูจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อย่าง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ และ “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ รั้งอันดับ 8 และ 11 มีคนละ 88 คะแนน และ 62 คะแนน
ขณะที่คลาส เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี จ่าฝูงร่วมอย่าง เออร์ฟาน อาร์เดียนสยาห์ นักบิดอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม และ แอนดี้ มูฮัมหมัด ฟาดลี นักบิดอินโดนีเซียนอีกคนจาก แมนวล เทค เควายที คาวาซากิ เรซซิ่ง ทีม ต้องวัดกันในสนามสุดท้าย โดยมีทั้งสิ้น 176 คะแนนเท่ากัน
ส่วนนักบิดสาวแกร่งชาวไทยอย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ยังคงมีลุ้นแชมป์เอเชีย โดยรั้งอันดับ 4 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มี 127 คะแนน แม้จะต้องลุ้นเหนื่อยเพราะตามหลังจ่าฝูงถึง 49 คะแนน ด้านทีมเมทดาวรุ่งอย่าง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี และ “ฟิล์ม” ปิยะวัฒน์ ประทุมยศ รั้งอันดับ 7 และ 10 มีคนละ 97 คะแนน และ 83 คะแนน
นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษา สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ นับเป็นรายการแข่งขันสำคัญของทวีป ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของนักบิดไทย รวมถึงทีมแข่งไทยได้พิสูจน์ตนเอง และเสริมความแข็งแกร่งในระดับนานาชาติ ก่อนจะก้าวไปสู่ระดับโลก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ให้ความสำคัญกับรายการนี้อย่างมาก และรองรับการแข่งขันมาแล้วถึง 6 ปีติดต่อกัน ผมได้เห็นนักบิดไทยเติบโตขึ้นอย่างมากตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา และเราได้เห็นนักกีฬาแข่งรถชาวไทยคว้าแชมป์เอเชียมาแล้วหลายรุ่น ซึ่งในสุดสัปดาห์นี้เราจะเป็นสังเวียนปิดฤดูกาลอีกครั้ง แน่นอนว่าการลุ้นแชมป์จะต้องเข้มข้นอย่างมาก ผมอยากให้แฟนๆ ชาวไทยเข้ามาให้กำลังในเด็กไทยที่สนาม เพื่อให้เขามีแรงใจคว้าชัยชนะในบ้านเกิดให้ได้
”
ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนชาวไทยเข้าชมการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามสุดท้ายโดยไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ได้เอาใจแฟนๆ ด้วยการมอบสิทธิ์ชมฟรีสำหรับผู้ที่แสดงบัตรเข้าชมการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 โดยการแข่งขันจะออกสตาร์ทการซ้อมในวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟายและแข่งขันเรซแรกในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน และปิดท้ายฤดูกาลด้วยเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคมนี้