ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ประจำปี 2019 เตรียมกลับมาเปิดฉากเกมดวลความเร็วบนผืนแผ่นดินไทยเป็นครั้งที่สอง ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ในรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
อีเว้นต์มอเตอร์สปอร์ตใหญ่ยักษ์ครั้งนี้ แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยจะได้สัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจพร้อมกับชมลีลาการบิดของนักแข่งระดับโลก ที่ต่างตบเท้าเข้าร่วมทำศึกการแข่งขันสองล้อชิงแชมป์โลก สนามที่ 15 ของฤดูกาล 2019 กันอย่างพร้อมหน้าที่สังเวียนช้างฯ เซอร์กิต ในรุ่นใหญ่สุดอย่างโมโตจีพี โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การลุ้นว่า “เด็กระเบิด” มาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดสแปนิช จากเรปโซล ฮอนด้า จะสามารถป้องกันแชมป์ในศึกโมโตจีพีที่บุรีรัมย์ได้อีกครั้งหรือไม่
ขณะที่ในรุ่นกลาง โมโตทู แฟนคลับชาวไทยจะได้ส่งเสียงเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดสายเลือดไทยหนึ่งเดียวในรายการเวิล์ด กรังด์ปรีซ์ กันอย่างสุดเสียงในฐานะนักบิดโฮมเรซ ภายใต้สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีมเอเชีย หมายเลข 35 โดยการสนับสนุนของเอ.พี.ฮอนด้า
ขณะเดียวกันแฟนกีฬาความเร็วในบ้านเรายังจะได้ร่วมให้กำลังใจ 3 นักบิดดาวรุ่ง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 5, “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ หมายเลข 6 และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 15 ดาวเด่นวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย จากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ลุ้นทำผลงานขึ้นโพเดี้ยมในเกมการแข่งขัน รายการเอเชีย ทาเลนต์ คัพ หรือซับพอร์ตเรซ ของศึกพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ เกี่ยวกับโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม (Race To The Dream) ก่อตั้งขึ้นโดย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด มีเป้าหมายต้องการสร้างรากฐานและยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทยให้แข็งแกร่ง โดยหวังพัฒนานักบิดไทยตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงมืออาชีพ และพร้อมผลักดันไปสู่เกมการแข่งขันระดับโลก “โมโตจีพี” ให้ได้ภายในปี 2025
สำหรับการแข่งขันรายการเอเชีย ทาเลนต์ คัพ คือ หนึ่งในเส้นทางพัฒนานักแข่งที่ทางฮอนด้าผนึกกำลังกับ ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์โมโตจีพี ร่วมกันจัดขึ้นผ่านเกมดวลความเร็วโดยใช้เรซแมชชีน ฮอนด้า เอ็นเอสเอฟ250อาร์ (Honda NSF250R) เพื่อเปิดโอกาสให้นักบิดแถวหน้าของเอเชียได้มีเวทีเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนก้าวขึ้นสู่รายการแข่งขันที่สูงขึ้นต่อไป ซึ่งนักบิดสายเลือดไทยอย่าง สมเกียรติ เคยแจ้งเกิดในรายการนี้ ด้วยการคว้าตำแหน่งแชมป์ประจำปี 2016 มาแล้ว
ทางด้านผลงานล่าสุดของ 3 นักบิดดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า ก่อนลงสู้ศึกซับพอร์ตเรซที่บุรีรัมย์ วริทธิ์ รั้งอันดับ 5 มี 73 คะแนน ตามด้วย ธัชกร อันดับ 6 มี 72 คะแนน และปิยวัฒน์ อันดับ 7 มี 41 คะแนน ส่วนจ่าฝูงเป็นของนักบิดจากแดนอาทิตย์อุทัย โช นิชิมูระ มี 115 คะแนน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การลุ้นแชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ของฤดูกาล 2019 ยังคงเปิดกว้าง เนื่องจากยังมีแต้มสะสมให้เก็บเพิ่มอีกรวม 150 คะแนน จากเกมชิงชัยที่เหลืออีก 3 สนาม สนามละ 2 เรซ ดังนั้น นักบิดดาวรุ่งชาวไทยทั้ง 3 คน ที่ยังคงเกาะติดท็อปเท็นบนตารางแชมเปี้ยนชิพได้อย่างเหนียวแน่น ยังมีโอกาสแจ้งเกิดตามรอยนักบิดรุ่นพี่ได้เช่นกัน
แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามผลการแข่งขันและข่าวความเคลื่อนไหวของนักแข่งดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า ภายใต้โครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม ในการแข่งขัน “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ ปรีซ์ 2019” ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้างฯ เซอร์กิต ได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม www.facebook.com/aphondaracingthailand