เคยมั้ยที่เวลาขับรถอยู่เพลินๆ แล้วบังเอิญสายตาไปสะดุดกับสัญญาณไฟไม่คุ้นตาอยู่บนแผงคอนโซล เท่านั้นแหละก็ได้งงเป็นไก่ตาแตก อดสงสัยไม่ได้ว่าสัญลักษณ์นั้นหมายถึงอะไร แล้วมันรุนแรงเลวร้ายมากขนาดไหน ตกใจเลี้ยวเข้าอู่ทั้นที พอช่างมาจับไม่ถึงนาที สรุปว่าลืมปลดเบรกมือ โถ…แบบนี้ต้องมาศึกษาเสียหน่อยแล้วว่า สัญญาณเตือน บนคอนโซลหน้ารถนั้นบอกอะไรเราได้บ้าง
ที่จริงแล้ว สัญญาณเตือน บนคอนโซลนั้นก็เหมือนเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเรากับรถ เพราะเป็นส่วนที่รถจะสื่อสารกับเราผ่านสัญลักษณ์เตือนต่างๆ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรศึกษาและทำความเข้าใจว่าสัญลักษณ์หรือสีต่างๆ นั้นหมายถึงอะไร
สี
โดยปกติแล้ว สัญญาณเตือน บนคอนโซลจะแบ่งออกเป็น 3 สีด้วยกันคือ
- สีเขียว หมายถึงเรากำลังใช้งานฟังก์ชั่นใดของรถอยู่ เช่น เปิดไฟตัดหมอก
- สีเหลือง หมายถึงมีอะไรบางอย่างในรถที่กำลังพร่องหรือใกล้จะหมด แต่ยังคงทำงานได้อยู่ ควรรีบตรวจสอบ
- สีแดง หมายถึงส่วนหนึ่งส่วนใดนั้นกำลังมีปัญหาอย่างรุนแรง ควรรีบจอดรถและดับเครื่องยนต์ในทันที พร้อมติดต่อช่างโดยด่วน
สัญญาณเตือนบนคอนโซลมีอยู่หลายสัญลักษณ์ด้วยกัน แต่ก็มี สัญญาณเตือน ที่คนใช้รถต้องใส่ใจและจดจำมีอยู่ด้วยกัน 5 สัญลักษณ์คือ
1. สัญญาณเตือน เครื่องยนต์มีปัญหา
เมื่อสัญญาณรูปเครื่องยนต์สีเหลืองหรือสีแดงแสดงขึ้นมาที่คอนโซลหน้ารถ ซึ่งปกติแล้วจะเตือนขึ้นมาเพียงครู่หนึ่งหลังตาร์ทเครื่องยนต์แล้วจะดับไปเอง แต่ถ้าไฟสัญญาณนี้ยังค้างอยู่ หรือแสดงขึ้นมาระหว่างขับรถแสดงว่าเครื่องยนต์มีปัญหาบางอย่าง เช่น เรื่องของสายพาน หรือ ECU แต่ที่แน่นอนคือเราไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ วิธีเดียวคือค่อยๆ ขับรถไปให้ช่างตรวจเช็กสถานเดียว
2. สัญญาณเตือน ระบบเบรกมีปัญหา
ถ้าสัญลักษณ์รูปวงกลมแล้วมีเครื่องหมายตกใจสีแดงขึ้นมาเมื่อไร ให้รีบเช็กเบรกมือก่อนในขั้นแรก เพราะเบื้องต้นรถอาจจะเตือนว่าเราดึงเบรกมือค้างไว้ (ในรถรุ่นใหม่ๆ จะแยกสัญลักษณ์ดึงเบรกมือออกมา เป็นรูปวงกลมแล้วตรงกลางจะเป็นอักษร P) แต่ถ้าเอาลงแล้วไฟยังไม่หาย แปลว่าระบบเบรกมีปัญหา อาจจะเกิดจากน้ำมันเบรกพร่อง แต่อย่างไรก็ตามให้ช่างเช็กดีกว่าเน๊อะ
3. สัญญาณเตือน เแบตเตอรี่มีปัญหา
หลายคนอาจคิดว่าเมื่อ สัญญาณเตือน สีแดงรูปแบตเตอรี่แสดงขึ้นมา นั้นหมายถึงแบตเตอรี่เสื่อมแน่ๆ แต่ไม่ใช่เลยอย่าเพิ่งใจร้อนรีบเข้าไปเปลี่ยนแบต เพราะสัญญาณเตือนนี้หมายถึงรถกำลังมีปัญหาเรื่องระบบจ่ายไปเข้าแบต หมายความว่าถ้าสัญญาณนี้แสดงขึ้นมาให้รีบจอดรถ แล้วโทรหาช่างให้มาเช็กระบบไดชาร์จโดยด่วนเลย
4. สัญญาณเตือน น้ำมันเครื่องมีปัญหา
ถ้าสัญญาณรูปกาน้ำมันเครื่องสีแดงโผล่มาเมื่อไรให้รีบจอดรถในทันที ห้ามขับโดยเด็ดขาดต้องเรียกรถมาลากไปเท่านั้น ถ้าฝืนขับไปล่ะก็ ได้เปลี่ยนยกเครื่องแน่ๆ เพราะรถกำลังจะบอกว่าตอนนี้ระดับน้ำมันในเครื่องกำลังมีปัญหา กรณีนี้อาจจะแก้เบื้องต้นได้โดยเช็กระดับน้ำมันเครื่องแล้วเติมให้กลับไปอยู่ในระดับปกติ แต่ถ้าเติมแล้วไฟยังไม่หาย อาจจะมีปัญหาที่ระบบปั๊ม ทำให้ไม่มีแรงดันน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงตามจุดต่างๆ แต่อย่างไรก็ควรเอารถเข้าเช็กอย่างละเอียด
5. สัญญาณเตือน ระบบความร้อนมีปัญหา
สัญญลักษณ์รูปเทอร์โมมิตเตอร์สีแดง เตือนให้รู้ว่าขณะนี้เครื่องยนต์ร้อนผิดปกติ นึกเอาไว้เลยว่าระบบหม้อน้ำกำลังมีปัญหา ไม่หม้อน้ำรั่ว ปั๊มไม่ทำงาน หรือพัดลมไม่หมุน แต่อย่างไรก็ตามให้รีบจอดรถดับเครื่องยนต์ เปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อระบายความร้อน และห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในทันที ที่สำคัญไม่ควรฝืนขับต่อไปเพราะจะทำให้ฝาสูบโก่ง ต้องเรียกรถมาลากไปเท่านั้น คราวนี้จากงานเล็กจะกลายเป็นงานใหญ่ได้
สรุปง่ายๆ ถ้าหาก สัญญาณเตือน ไม่ว่าจะมีสีเหลืองหรือสีแดงปรากฏขึ้นมาเมื่อไร ทางที่ดีที่สุดควรรีบหาที่ปลอดภัยจอดรถแล้วดับเครื่องยนต์ หรือจะมาที่ศูนย์บริการ FIT Auto เพราะหาง่ายมีหลายสาขา ทั้งยังมีทีมช่างผู้ชำนาญทุกอาการเรื่องรถ ซึ่งสามารถค้นหาสาขาใกล้ๆ และเบอร์ติดต่อที่นี่ www.pttfitauto.com/th/branch ได้เลย หรือถ้าสงสัยว่ารถมีปัญหาอื่นๆ ก็สามารถเอารถมาตรวจเช็กสภาพได้ฟรี 30 รายการ ที่ FIT Auto ทุกสาขา
และถ้ามาตรวจเช็กรถที่ FIT Auto ช่วงนี้ เค้ามีส่วนลดสบายๆกระเป๋า กับ โปร 5 เฮ เปย์ 5 คุ้มด้วย เข้าไปดูรายละเอียดที่ www.pttfitauto.com/th/promotions ได้เลย โปรดีๆเค้ามีถึงสิ้นปีนี้เลยนะ