หลังจาก Toyota ได้เผยโฉม All-New Toyota Yaris รอบปฐมทัศน์ในญี่ปุ่น และเตรียมเผยโฉมอย่างเต็มรูปแบบในงาน Tokyo Motor Show 2019 ล่าสุดได้มีการเผยข้อมูลขุมพลังของรถซับคอมแพ็คทั้ง 3 แบบ ควบคู่กับการเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดร่วมด้วย
โดย 2020 Toyota Yaris จะมีขุมพลังให้เลือกด้วยกัน 3 แบบอย่างเป็นทางการ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร (1KR), เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ความจุ 1.5 ลิตร (M15A) และขุมพลังไฮบริด THS II จับคู่กับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร Dynamic Force (M15A) และเกียร์ CVT ที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งทั้งหมดได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นรูปธรรม
เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร (1KR) ที่มีการปรับตำแหน่งอุปกรณ์ฟอกอากาศ พร้อมกับจัดวางระบบไอดีและไอเสียใหม่ลดการสูญเสียแรงดันและอุณหภูมิของอากาศ และช่วยควบคุมปริมาณไอเสียให้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด, เพิ่มชิ้นส่วนลดเพื่อเสียงรบกวนและช่วยในการปรับการยึดเครื่องยนต์ให้เหมาะสม ที่สำคัญ น้ำหนักก็ลดลง 6 กิโลกรัมด้วย
สำหรับเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ความจุ 1.5 ลิตร (M15A) “Dynamic Force” เป็นเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาให้สามารถรองรับการใช้งานทั้งทั้งน้ำมันเบนซิน 100% และแบบไฮบริด โดยจุดเด่นของเครื่องยนต์ชนิดนี้อยู่ที่การพัฒนาระบบไหลเวียนอากาศ ระบบหัวฉีดน้ำมันแบบ Direct Injection และออกแบบลูกสูบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจุดระเบิดให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้ “ระบบการเผาไหม้ความเร็วสูง”
ซึ่งเครื่องยนต์ M15A ถูกพัฒนาให้สามารถรองรับกับแพลตฟอร์มรถยนต์ขนาดเล็กอย่าง GA-B ที่จะช่วยในการปรับขนาดของเครื่องยนต์ให้มีขนาดเล็กได้ โดยที่สามารถใช้เทคโนโลยีการเผาไหม้จากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรขึ้นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ
แม้เครื่องยนต์ M15A จะให้แรงบิดที่ต่ำ แต่ก็ไม่ได้ต่ำแบบน่าเกลียดมากนัก ในทางตรงกันข้าม ขุมพลัง 3 สูบนี้จะช่วยให้การไหลเวียอากาศทำได้ดียิ่งขึ้น และ 3 กระบอกสูบสามารถสร้างแรงบิดได้ดีกว่าเครื่อยนต์ 4 สูบแบบเดิม
แถมตัวเครื่องยนต์ M15A ไม่มีเพลาสมดุล เนื่องจากชุดเพลาได้พัฒนาให้มีความไวต่อการสั่นสะเทือนที่ 1,000 รอบต่อนาที หรือน้อยกว่า จึงทำให้เกิดการสั่นสะเทือนที่ต่ำอ ประกอบกับเมื่อผสานด้วยชุดมอเตอร์ไฟฟ้าในรุ่นไฮบริด ก็จะช่วยเพิ่มแรงบิดให้สูงขึ้น และลดการสั่นสะเทือนเนื่องจากมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยสนับสนุนพละกำลัง
และในเครื่องยนต์ M15A จะใช้เกียร์ Direct Shift-CVT ที่ถ่ายทอดจาก Lexus UX ส่วนเกียร์ CVT แบบธรรมดาก็ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อส่งกำลังได้ไหลลื่นกว่าเดิม สำหรับตัวเลขสมรรถนะจะได้รับการเปิดเผยในโอกาสต่อไป