ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเริ่มมีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง หลายๆ แบรนด์ต่างเดินหน้าเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่แบรนด์ยอดนิยมจากญี่ปุ่น แบรนด์รถยนต์หรู ไปจนถึงแบรนด์รถยนต์น้องใหม่ที่เข้ามาทำตลาด จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น
ล่าสุดได้มีรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้ง 10 รุ่น 6 สัญชาติ ในช่วงปี 2019 ที่ได้รับการับรองทั้งคุณภาพและสามารถขับขี่บนท้องถนนในไทยได้อย่างถูกกฎหมาย มาดูกันว่าทั้ง 10 รุ่นนี้มียี่ห้ออะไรบ้าง มาจากสัญชาติใด
1. Jaguar I-Pace (ราคา 5,499,000 – 6,999,000 บาท)
รถอเนกประสงค์ขุมพลังไฟฟ้าจากประเทศอังกฤษ ที่การันตีด้วยการดีไซน์และสมรรถนะจนได้รับรางวัลในเวทีโลกมาแล้ว ตัวรถมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตันเมตร กับแบตเตอรี่ 90 kWh วิ่งได้ไกลถึง 470 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type2 และ CCS2
2. Audi e-Tron (ราคา 5,099,000 บาท)
ยนตรกรรมเอสยูวีพรีเมียม 5 ที่นั่งจากเยอรมนี มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ทำหน้าที่ส่งกำลังไปยังเพลาล้อหน้ากับเพลาล้อหลัง สมรรถนะ 360 แรงม้าแรงบิด 561 นิวตันเมตร และหากใช้บูสต์โหมด จะให้สมรรถนะเป็น 408 แรงม้า แรงบิด 64 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 95 kWh วิ่งได้ไกลถึง 417 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type2 และ CCS2
3. KIA Soul EV (ราคา 2,387,000 บาท)
KIA Soul EV ได้เปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่ 2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิด 395 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 64 kWh วิ่งได้ไกลถึง 311 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type2 และ CCS2 เช่นเดียวกับรถจากยุโรป
4. Nissan Leaf (ราคา 1,990,000 บาท)
มาถึงรถยนต์ไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่คนไทยรู้จักกันดีมาตั้งแต่โฉมแรกสุด ซึ่งในโฉมใหม่นี้ก็ได้รับการยกระดับทั้งบุคลิกและสมรรถนะใหม่ 150 เเรงม้า แรงบิดสูงสุด 320นิวตันเมตร ประกอบกับแบตเตอรี่ความจุ 30 kWh วิ่งได้ไกลถึง 452 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type1 และ CHAdeMO
5. BYD e6 (ราคา 1,890,000 บาท)
BYD e6 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 5 ประตูสไตล์แวกอน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Motor 134 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ความจุ 80 kWh วิ่งได้ไกลถึง 400 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จจะมีเฉพาะแค่ AC Type2 เท่านั้น
6. Hyundai Kona EV (ราคา 1,849,000 – 2,259,000 บาท)
รถอเนกประสงค์ไฟฟ้าจากเกาหลีใต้ที่มาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อย ซึ่งจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 2 ความจุ ได้แก่ 39.2 kWh วิ่งได้ไกลถึง 312 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง และ 64 kWh วิ่งได้ไกลถึง 482 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง แต่จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น
7. Hyundai IONIQ EV (ราคา 1,749,000 บาท)
Hyundai ยังคงส่งวรถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่องกับการวางจำหน่าย Hyundai IONIQ EV ให้แฟนๆ ชาวไทยได้เลือกซื้อ ด้วยขุมพลังที่ให้สมรรถนะสูงสุดถึง 204 แรงม้า แรงบิด 395 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 28 kWh วิ่งได้ไกลถึง 280 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type2 และ CCS2
8. Mine SPA1 (ราคา 1,200,000 บาท)
รถยนต์ไฟฟ้าทรง MPV สัญชาติไทยที่มาแรงไม่แพ้ใคร ขุมพลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้า PMSM 127 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 30 kWh วิ่งได้ไกลถึง 200 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type2 และ CCS2
9. MG ZS EV (ราคา 1,190,000 บาท)
รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้าที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย ขุมพลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้า PMSM 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 44.5 kWh วิ่งได้ไกลถึง 337 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จสามารถรองรับ AC Type2 และ CCS2
10. FOMM One (ราคา 664,000 บาท)
รถยนต์ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นที่พัฒนาให้ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ชาวไทย จนกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 4 ที่นั่งที่สามารถลุยน้ำได้อย่างสบายใจ แบตเตอรี่ความจุ 11.8 kWh วิ่งได้ไกลถึง 160 กม./ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สำหรับหัวชาร์จจะมีเฉพาะแค่ AC Type2 เท่านั้น
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในไทย จะใช้ปลั๊กแบบ AC Type2 และ CCS2 ยกเว้น Nissan Leaf ที่ใช้ปลั๊กไฟ AC Type1 และ CHAdeMO ซึ่งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยก็มีปลั๊กที่รองรับ AC Type1 และ CHAdeMO ประกอบกับในอนาคตก็จะมีรถยนต์ที่ใช้ปลั๊กประเภทนี้เพิ่มมากขึ้น