บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในครึ่งแรกของปี 2562 พร้อมเดินหน้าสู่การบรรลุเป้าหมายประจำปี ยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วโดยอยู่ที่ 45,343 คัน ขณะที่ยอดขายรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ที่ 523,770 คันหรือเติบโตร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 8.7 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561
“เรามีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จในช่วงครึ่งปีแรกนี้เป็นผลจากความมุ่งมั่นทุ่มเทของทีมพนักงาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยมที่ตรงตามความต้องการและตอบสนองได้อย่างครบครันในทุกเซ็กเมนท์ ด้วยความโดดเด่นด้านดีไซน์ที่ทันสมัย เทคโนโลยีและสมรรถนะปัจจัยอื่นๆ
ที่ส่งผลต่อความสำเร็จยังรวมถึงการยกระดับเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า การดำเนินกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม และการพัฒนาบริการหลังการขาย ตลอดจนการมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรของเรา” มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
รถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ มียอดขายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของยอดขายทั้งหมดของบริษัทฯ ขณะที่รถซิตี้คาร์ มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ มีสัดส่วนยอดขายร้อยละ 26 มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์
ซึ่งบุกเบิกเซกเมนท์ครอสโอเวอร์ใหม่ในประเทศไทย มีสัดส่วนยอดขายถึงร้อยละ 19 ขณะที่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต
มียอดขายร้อยละ 15 โดยยังคงเป็นที่ต้องการสำหรับลูกค้าที่มองหาอีกระดับของเทคโนโลยี สมรรถนะ การออกแบบ
และความปลอดภัยในกลุ่มรถอเนกประสงค์พรีเมียม
ทั้งนี้ในปี 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มียอดขาย 41,101 คัน ส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 8.4 นอกจากยอดขายภายในประเทศ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมีการเติบโตในด้านการผลิตโดยมียอดการผลิตรวมทั้งหมด 173,822 คัน (รวมรถยนต์ผลิตทั้งคันและรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เติบโตร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมียอดการผลิต 169,433 คัน
ด้านการส่งออก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ส่งออกรถยนต์ทั้งหมด 177,715 คัน (รวมรถยนต์ผลิตทั้งคันและรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 โดยเมื่อปลายกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ฉลองการส่งออกรถคันที่ 4 ล้าน คือ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ไปยังทวีปยุโรป
โดยความสำเร็จดังกล่าวเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์สคอร์ปอเรชั่น ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
สำหรับการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2562 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะยังคงมุ่งเน้นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมความสำเร็จ ทั้งการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้สามารถรองรับความต้องการที่แตกต่างในตลาดอย่างการเปิดตัว ที่ผ่านมาของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ รุ่นโลว์ไรเดอร์ และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ โดยมีแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมอีกหลายรุ่นภายในปีนี้
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะเดินหน้าให้ความสำคัญกับการพัฒนาและการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย แผนการดำเนินงานในปีนี้ยังรวมถึงการยกระดับโชว์รูมและศูนย์บริการอีกกว่า 65 แห่งด้วยอัตลักษณ์องค์กร (CI) และดีไซน์ใหม่ และมีเป้าหมายว่าจะทำการปรับปรุงภาพลักษณ์ให้แล้วเสร็จทั้งหมด 240 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีงบประมาณ 2564 นอกจากนี้ บริษัทฯ จะดำเนินโครงการมาตรฐานระดับสูงการดำเนินงานของเครือข่ายผู้จำหน่ายหรือ Advanced Dealer Operation Standard เพื่อยกระดับการบริการและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานี มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการมุ่งมั่นส่งเสริมความรู้และทักษะของพนักงานจากเครือข่าย ผู้จำหน่ายทั่วประเทศเพื่อให้สามารถยกระดับการบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นสู่อีกระดับได้อย่างต่อเนื่อง
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมุ่งมั่นดูแลลูกค้าด้วยบริการหลังการขายภายใต้สโลแกน “เราดูแล คุณแค่ขับ” พร้อมบริการด้วยคุณภาพสินค้าและบริการที่ดี อะไหล่แท้มิตซูบิชิพร้อมช่างผู้ชำนาญที่ผ่านการฝึกอบรมและมีควา
มเชี่ยวชาญตลอดจนการดูแลเพื่อให้ได้ที่สุดของความพึงพอใจและคุณภาพรถยนต์ที่ยาวนาน พร้อมด้วยความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการและเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ เจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นยังได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย แอพพลิเคชั่น M-Drive ซึ่งจะสามารถแสดงสถานะและข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์และการบริการ ได้แบบเรียลไทม์ ดาว์นโหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอส
การดำเนินงานทั้งหมดนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์แบรนด์ระดับโลก ‘Drive your Ambition’ ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรมและมอบบริการที่เหนือระดับเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกค้าขับเคลื่อนสู่ทุกความสำเร็จในชีวิต