“ยามาฮ่า” หนึ่งในตราสินค้าที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก โดยพันธกิจของการเป็นองค์กรที่ยึดมั่นใน ปรัชญาคันโด เพื่อความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่แบบที่ไม่มีใครเคยสัมผัสมาก่อน ความมุ่งมั่นที่จะคิดค้นนวัตกรรมอันทันสมัย ความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และความท้าทายใหม่ๆ ของยามาฮ่าที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
พวกเราชาวยามาฮ่าล้วนทุ่มเทเต็มที่ในการดึงศักยภาพและพลังความมุ่งมั่นทั้งหมดที่มี เพื่อสร้างฝันของลูกค้าให้กลายเป็นความจริง เพราะเราคือทีมงานคุณภาพที่ลูกค้าต่างมองหาในฐานะองค์กรที่ยึดมั่นในปรัชญาคันโดอย่างแท้จริง และด้วยการวางกลยุทธ์ด้านการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจ เพื่อก้าวขึ้นไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
แบรนด์สโลแกน Revs Your Heart “เปรียบเหมือนกับเครื่องยนต์ที่พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็ว เมื่อเราเพิ่มแรงบิดเฉกเช่นเดียวกันกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นไปตามจังหวะ ยิ่งเข็มไมล์พุ่งขึ้นไปไกลเท่าไหร่ พลังของความเร้าใจแห่ง คันโด ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ด้วยความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยความมุ่งมั่นของยามาฮ่าที่ก้าวไปพร้อมกับพลังแห่งนวัตกรรมสุดล้ำ ผลงานจากการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ของเราได้ส่งต่อประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่จะเติมเต็มชีวิตแก่ลูกค้าทุกคน”
ปีที่ผ่านมา ยามาฮ่า มอเตอร์ ได้เผยวิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่า 5 ประการ พร้อมกันทั่วโลก ได้แก่ Innovation (ความริเริ่ม) Excitement (ความสนุกสนาน) Confidence (ความมั่นใจ) Emotion (ความดึงดูด) และ Ties (ความผูกพัน) เพื่อแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ยามาฮ่า ที่ไม่มีใครเหมือน เอกลักษณ์ที่ชัดเจนนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติตาม “วิถียามาฮ่า” ซึ่งพนักงานทุกคนได้ยึดถือปฏิบัติ และถ่ายทอดสู่การสร้างสรรค์สินค้า รวมถึงจุดบริการลูกค้าในทุกๆด้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ยามาฮ่าในระยะยาว
มร. ชิเงโอะ ฮายาคาวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประกาศว่า ยามาฮ่ามอเตอร์สร้างความแข็งแกร่งผ่านการสร้างแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์จากภายในสู่ภายนอก พร้อมกับจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 64 ปี ของการก่อตั้ง บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขึ้นในวันจันทร์ที่ 1 กรกฏาคม 2562 ด้วยการสร้างแบรนด์ผ่านสินค้า และบริการที่สร้างความแตกต่าง ในปี 2018 เราประสบความสำเร็จด้านการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า อาทิเช่น การเปิดตัว Grand Filano Hybrid และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี Hybrid ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคนไทย ด้วยความโดดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการเปิดตัว MT-15 ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มรถสปอร์ต Naked ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 41%
นอกจากนี้ยังได้ส่งนักแข่งชาวไทยร่วมชิงชัยในระดับ Moto3 ในโอกาสที่เกมความเร็วระดับโลกอย่าง MotoGP จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย สำหรับในปีนี้และในอนาคต เราวางกลยุทธ์ที่จะเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้เป็นรูปธรรมและมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมรอบด้านเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้า อีกทั้งยามาฮ่ายังประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ในสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในเมืองไทย ทั้งนี้ ยามาฮ่า มอเตอร์ เชื่อว่าอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยจะยังคงเดินไปในทิศทางที่ดีและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ยามาฮ่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าภายใต้แนวคิด The last one mile ซึ่งยามาฮ่าจะนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์รูปแบบของการสัญจรที่นับวันจะต้องการความเชื่อมโยงกัน ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย และสะดวกสบายมากขึ้นเรื่อยๆ
ด้านผู้จำหน่ายเรามีโครงการพัฒนาความรู้ความสามารถของผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่อง เทคนิคการขาย การตลาด การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า รวมถึงการสร้างแบรนด์ดิ้ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ เราหวังว่าการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ “ยามาฮ่า” จะเป็นประโยชน์ต่อโลก และสร้างความพึงพอใจให้กับทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในภาคส่วนใดก็ตาม เราจะเดินหน้าสื่อสารการสร้างแบรนด์ดิ้งให้กับผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างเครือข่ายลูกค้าให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน