บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบชิ้นส่วน อะไหล่รถยนต์ กว่า 10,000 ชิ้น ให้แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สะท้อนความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการศึกษาทางด้านเทคโนโลยี และวิศวกรรมเครื่องกลอย่างต่อเนื่อง เพื่อวางรากฐาน เสริมสร้างความชำนาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้กับเหล่านักศึกษา
พิธีส่งมอบอะไหล่รถยนต์ในครั้งนี้ จัดขึ้นที่คลังสินค้านิสสัน ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 52,000 ตารางเมตร บนถนนบางนา-ตราด โดยมีคณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม คณาจารย์และนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีมาร่วมในพิธี
โดยนิสสันได้ดำเนินการส่งมอบชิ้นส่วนอะไหล่กว่า 10,000 ชิ้น เพื่อประโยชน์ด้านการศึกษา มุ่งส่งเสริมการเรียนรู้และการฝึกฝนภาคปฏิบัติ โดยชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ส่งมอบให้แก่มหาวิทยาลัยประกอบไปด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ, ชุดปั๊มน้ำมันพวงมาลัย, โช้คอัพหน้า, มอเตอร์สตาร์ท, ชุดควบคุมเครื่องยนต์, ไดชาร์จ, ชุดสายไฟห้องเครื่อง และไฟหน้ารถยนต์ เป็นต้น
ธีระพันธุ์ ละอองศรี รองประธานสายงานอะไหล่ และบริการหลังการขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในพิธีส่งมอบว่า “เรามีความยินดีที่ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ของเราซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก จะช่วยยกระดับการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้ในภาคปฏิบัติให้แก่นักศึกษา ซึ่งจะเป็นการต่อยอดความรู้ในภาคปฏิบัติ ที่นอกเหนือไปจากการเรียนรู้ในภาคทฤษฎี เพื่อส่งเสริมการฝึกฝนความชำนาญ ทักษะทางเทคนิคที่จำเป็นสำหรับอาชีพการทำงานของนักศึกษาของไทยในอนาคต”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อานนท์ นิยมผล คณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ได้กล่าวแสดงความขอบคุณว่า “ผมขอขอบคุณ นิสสัน ประเทศไทย เป็นอย่างยิ่งสำหรับการบริจาคชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เรามุ่งมั่นในการส่งมอบการศึกษาที่ดีที่สุดแก่นักศึกษา เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง และก้าวสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าอะไหล่รถยนต์จากนิสสันจะช่วยส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ในห้องเรียนให้เหล่านักศึกษาได้อย่างเต็มที่ ตลอดจนขัดเกลาทักษะ และเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพให้ประสบความสำเร็จในอนาคต”
การบริจาคในครั้งนี้ถือเป็นเครื่องสะท้อนความมุ่งมั่น ในการสนับสนุนด้านการศึกษาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึง โครงการพัฒนาภาวะผู้นำสำหรับเด็กและเยาวชนที่บูรณาการเข้ากับสะเต็มศึกษา ผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิรักษ์ไทย โดยมุ่งเน้นให้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน