บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Mercedes-Benz C 300 e ยนตรกรรมซาลูนสุดหรูปลั๊กอินไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 3 ภายใต้แบรนด์ EQ รุ่นประกอบในประเทศ สร้างมาตรฐานครั้งใหม่ให้กับรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ ที่ผสมผสานขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่างครบครัน นำเสนอในสองรุ่นย่อย ได้แก่ The C 300 e AMG Dynamic ราคา 3,215,000 บาท และ The C 300 e Avantgarde ราคา 2,699,000 บาท
Mercedes-Benz C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ความจุก1,991 ซีซี สมรรถนะ 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200 – 1,400 รอบ/นาที ผสานกำลังพลังจากมอเตอร์ 122 แรงม้า สูงสุดถึง 320 แรงม้าที่ 4,500 – 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ยังมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ต่ำกว่า 45 กรัม/กิโลเมตร เท่านั้น
ทั้งสองรุ่น ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนรุ่นใหม่ที่มีขนาดความจุ 13.5 kWh มากกว่าเดิมถึง 111% ซึ่งมีส่วนผสมของลิเธียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (Li NMC) ส่งผลให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากความจุ 10% จนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที หากชาร์จด้วยเครื่องประจุไฟฟ้าวอลล์บอกซ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบใหม่ (9G-TRONIC) ที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้น ทำให้การขับเคลื่อนมีความนุ่มนวลและลดเสียงรบกวนได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้สามารถลดระดับเกียร์ลงได้หลายระดับในกรณีที่ต้องการเร่งแซงอย่างรวดเร็ว
ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์อันปราดเปรียว เร้าใจ ผสานด้วยคุณสมบัติอัจฉริยะ รุ่น The C 300 e Avantgarde โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมี่ยมพร้อมตราสัญลักษณ์, ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว โคมไฟหน้าและหลังได้รับการออกแบบเป็นเส้นโค้ง ไฟหน้าแบบ LED High Performance มีหลอดไฟ LED 19 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม เป็นต้น
ส่วน The C 300 e AMG Dynamic จะติดตั้งกระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงินพร้อมตราสัญลักษณ์ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว มีกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling, เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam หลอดไฟ LED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และปรับความเข้มแสง โดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้ มาพร้อมระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่าในสภาวะอากาศเลวร้าย สามารถทำงานอัตโนมัติหากระบบตรวจจับได้ว่า ไม่มีผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง กำลังใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง และส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร, หลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่เลื่อนเปิด-ปิด ได้ด้วยระบบไฟฟ้า เป็นต้น
ดีไซน์ภายในถูกออกแบบให้มีความหรูหราสไตล์สปอร์ต และมีโครงสร้างที่ดูต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียว โดยรุ่น C 300 e Avantgarde จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control, เบาะหุ้มด้วยหนัง ARTICO, ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-START ทั้งนี้ Mercedes-Benz C 300 e ทั้งสองรุ่น ยังมาพร้อมกับหน้าจอมัลติมีเดียกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว ระบบ Touch pad ระบบ Apple CarPlay™ ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, ระบบถอยจอดแบบอัตโนมัติ, ระบบแผนที่นำทาง 3 มิติ, กล้องถอยหลัง (Reversing camera), ระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี
ขณะที่ C 300 e AMG Dynamic จะได้รับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control, เบาะหุ้มหนังแบบสปอร์ต และมาพร้อมกับ Memory Seat Package, กุญแจแบบ KEYLESS-START พร้อมฟังก์ชั่น KEYLESS-GO รวมไปถึงยังได้นำเทคโนโลยี และรูปแบบการใช้งานมาจากรถยนต์ The S-Class โดยมีระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Sporty และ Progressive ขับสนุกทุกจังหวะด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system
ระบบความปลอยภัยที่มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program – ESP®) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system)ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator) ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist)ระบบ DYNAMIC SELECT แบบ Sport Sport+ และ Comfort, ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround view camera)
The C 300 e Avantgarda รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 2,699,000 บาท และ The C 300 e AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 3,215,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้วที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ