การ ซื้อรถใหม่ แบบผ่อนดาวน์หรือกู้เงินจาก ไฟแนนซ์ ถือเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน แต่วิธีการซื้อรถแบบนี้คุณควรรู้จักการพฤติกรรมการใช้เงินของตัวคุณเองก่อนว่าคุณมีความพร้อมในการที่จะชำระหนี้สินจะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ รับกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นไหวหรือไม่ อย่าลืมว่าการมีรถคันใหม่เข้ามาในชีวิตนอกจากเงินผ่อนชำระ ค่างวดรถ รายเดือนเเล้ว คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงค่าซ่อมบำรุงสึกหรอ, ค่าน้ำมัน, ค่าประกันรถยนต์ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้ ฉะนั้นก่อนจะ ผ่อนรถ ควรคิดให้ดีถึงกำลังจ่ายที่คุณมีให้ดีก่อน
อันดับแรกถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการซื้อรถเงินผ่อนคือคุณต้องมี เงินดาวน์รถ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หรืออย่างน้อยควรมีเงินดาวน์ประมาณ 25% ของราคารถที่จะซื้อ เพราะมิฉะนั้นทางบริษัทไฟแนนซ์จะไม่อนุมัติการผ่อนชำระ เช่นรถมีราคา 600,000 บาท คุณควรมีเงินดาวน์ขั้นต่ำ 150,000บาท
ในกรณีที่คุณเป็นผู้มีรายได้ต่อเดือนน้อยหรือเงินเดือนไม่มากหลักหมื่นกว่าบาทต่อให้มีเงินเก็บ 25%มาดาวน์รถ แต่ทางสถาบันการเงินอาจไม่อนุมัติเงินกู้ให้ได้เพราะมองว่าค่าผ่อนงวดต่อเดือนสูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ต่อเดือนที่คุณมี มีทางเดียวที่ความฝันในการซื้อรถของคุณจะเป็นจริงได้คือเบนเข็มไปซื้อรถมือสองมาใช้ เพราะค่าผ่อนจะถูกกว่ารถใหม่มือ1
ลองคำนวนตัวเลขรายจ่ายต่อเดือนล่วงหน้าก่อนที่จะซื้อเช่นเมื่อคุณทราบตัวเลขคร่าวๆ ที่จะต้องผ่อนชำระค่างวดรถรายเดือนเเล้ว ลองประเมินว่าค่าน้ำมัน ค่าบำรุงเช็คระยะ ภาษี ประกัน พรบ. ค่าซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอ เฉลี่่ยต่อเดือนเป็นค่าใช้จ่ายเดือนละเท่าไหร่ เพราะหากตัวเลขรายจ่ายต่อเดือนออกมาในจำนวนที่คุณรู้สึกว่าชีวิิตในอนาคตต้องพบกับคามลำบากก็ควรหยุดเรื่องซื้อรถไว้แต่เนิ่นๆ แต่ถ้าคิดว่าไหวเดินหน้าไปต่อ
นอกจากเงินดาวน์ 25% ที่ควรมีไว้เพื่อใช้เป็นเงินดาว์นรถเเล้ว คุณควรมีเงินเก็บหรือเงินสำรองในการผ่อนค่างวดรถรายเดือนอย่างน้อย 6เดือน เป็นเงินที่นอนนิ่งๆ อยู่ในบัญชีธนาคาร เพราะคุณไม่มีทางรู่อนาคตได้ว่าวันดีคืนดีนายจ้างอาจบอกเลิกจ้างคุณขขึ้นมาสักวันก็ได้ เเละถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง เงินตรงนี้สามารถใช้ในการผ่อนค่างวดไปก่อนได้