หลังจากมีการเผยแพร่คลิปที่เเสดงให้เห็นภาพของเด็กสาว 2 คนนำ รถจักรยานยนต์ของกลาง ออกเล่นน้ำสงกรานต์ก่อนที่ผู้ชาย(เจ้าของ) จำรถของตนเองได้เเเละเเสดงว่าเป็นเจ้าของจนเกิดโต้เถียงกัน คำถามที่คนส่วนใหญ่ดูคลิปดังกล่าวจบคือ แบบนี้ รถของกลาง ที่โดนยึดมาด้วยข้อหาหรือคดีต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือญาติเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำรถ จยย. ของกลาง มาใช้ขับขี่ทำธุระส่วนตัวได้หรือไม่??
ตามกฎหมายเเล้วรถจักรยานยนต์ที่ถูกตำรวจยึดไว้เป็นของกลางในบางกรณีบางข้อหาจะถูกยึดกุญแจรถไว้พร้อมกัน รถเเละกุญแจรถจะถูกเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจเจ้าของคดี พื้นที่ที่ตรวจยึดไม่สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปใช้หรือให้ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักนำรถจักรยานยนต์ของกลางไปใช้ในกิจใดๆ ก็ตาม ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่เดียวหากญาติพี่น้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือคนรู้จักที่นำรถไปใช้มีความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต้องรับโทษ 2 ใน 3 ของโทษ 10 ปี หรือประมาณ 6 ปี
สรุปคือของกลางไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์หากตกอยู่ในสถานะของกลางเเล้ว เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้หากนำไปใช้ถือเป็นความผิดวินัยและอาญา สถานะของของกลางคือการถูกยึดเเละเก็บรักษารอให้ผู้ต้องหาเคลียร์คดีหรือจ่ายค่าปรับให้เรียบร้อย จึงสามารถไถ่ถอนรถของกลางออกมาได้
ขณะเดียวกันรถที่ถูกยึดเเละถูกตัดสินคดีจากกระบวนการยุติธรรม หากมีการตัดสินจากอัยการศาลว่าผู้ต้องหามีความผิดคดีอาญาเช่น ใช้รถคันดังกล่าวในการขนยาเสพติดหากจำเลยทำผิดจริงรถคันดังกล่าวจะถูกยึดเป็นของหลวงตกเป็นของแผ่นดิน