สานต่อประวัติศาสตร์เจ้าภาพ โมโตจีพี ปีที่ 2 “” ฝ่ายจัดการันตียกระดับมาตรฐานดีขึ้นกว่าเดิม สร้างปรากฎการณ์ฟีเวอร์อีกครั้ง หลังเปิดขายบัตรแล้ววันนี้ในราคาที่ถูกที่สุดในโลก พร้อมรับส่วนลดและสิทธิพิเศษเต็มพิกัด เพียงไม่ถึงชั่วโมง บัตรแกรนแสตนด์ Sold Out ทันที!!!
ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย (หัวหมาก) นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด และผู้สนับสนุนจากภาคเอกชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวสานต่อประวัติศาสตร์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโต จีพี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในชื่อรายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019″ (PTT THAILAND GRAND PRIX 2019) ซึ่งจะชิงชัยระหว่างวันที่ 4 – 6 ต.ค. 62 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ พร้อมประกาศเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีแรกถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากกับประเทศไทยทั้งในด้านการจัดการแข่งขันและการท่องเที่ยวมีแฟนมอเตอร์สปอร์ตจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาชมติดขอบสนาม รวมแล้วกว่า 222,535 คนตลอดทั้ง 3 วัน ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับตัวเลขผู้ชมทั้งหมด 19 สนาม จากทั่วโลก และทุกคนต่างมีรอยยิ้ม ได้รับความสนุกสนานและความประทับใจกลับไป จนคว้ารางวัล Best Grand Prix of The Year และถูกยกให้เป็นสนามแข่งขันที่ดีที่สุดประจำปี ที่สำคัญยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ
โดยจากผลสำรวจของกองยุทธศาสตร์และแผนงานกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในปีแรก มีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นรายได้หมุนเวียน ในประเทศกว่า 3,053 ล้านบาท ทั้งในส่วนจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง โดยแบ่งออกเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร/เครื่องดื่ม ค่าเดินทางภายในประเทศ ค่าซื้อสินค้าและของที่ระลึกต่าง ๆ สร้างรายได้ ให้ประชาชนในท้องถิ่น และรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล นำประเทศไทยไปสู่การเป็น Sport Hub ชั้นนำระดับโลกเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการวางรากฐานการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งทำให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดอุตสาหกรรมกีฬา อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังสร้าง talk of the world ไปทั่วโลก ด้วยการเปิดตัว ชัตเติ้ล แต๋น ซึ่งเป็นการนำรถอีแต๋น ของเหล่าเกษตรกรมาตกแต่งแบบพื้นบ้านเพื่อใช้อำนวยความสะดวกเป็นรถรับส่งภายในงาน จนเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจนได้รับคำชมจากชาวต่างชาติ และมีการมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในมุมของวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลกอีกด้วย
ในปีนี้ หลังจากขายบัตรอย่างเป็นทางการวันแรก ในเวลา 15.00 น. เพียงไม่ถึงชั่วโมง บัตรแกรนแสตนด์ Sold Out ทันที!!! ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปรากฎการณ์ที่ปีนี้เราจะสานต่อประวัติศาสตร์เหล่านี้อีกครั้ง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย ในฐานะหน่วยงานของรัฐบาลจะยังคงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการจัดแข่งขันปี ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้ติดตามทั่วโลก ถ่ายทอดสดไปยัง 207 ประเทศ สู่สายตาผู้ชมกว่า 800 ล้านคน ได้รับการตอบรับที่ดีจากสื่อมวลชนร่วมทำข่าวมากกว่า 435 สำนัก จาก 33 ประเทศ ทำให้ทั่วโลกได้เห็นศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในด้านการเป็นผู้จัดแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย มุ่งหวังว่าในการจัดแข่งขันโมโตจีพีจะช่วยทำให้นักแข่งและทีมแข่งของไทยได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ในด้านของการพัฒนานักกีฬา ในปีแรกของมีนักกีฬาไทยเข้าร่วม มากถึง 5 คน เริ่มตั้งแต่ รุ่น โมโตทรี ซึ่งมีนักแข่งไทยถึง 3 คน โมโตทู 1 คนและอีกหนึ่งที่ได้รับสิทธิ์เปิดตัวในรุ่น moto e ส่วนในปี 2019 นี้ มีนักกีฬาไทยที่ยืนยันแล้วอย่าง ก้อง สมเกียรติ จันทรา จาก อิเดะมิสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย เข้าร่วมการแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาลในรุ่นโมโตทู และน่าจะมีเพิ่มเติมอีก เชื่อว่าจากกระแสตอบรับในปีแรกจะส่งผลให้ในปีนี้มีแฟนๆทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไปชมที่สนามมากขึ้นและจะเป็นการใช้การแข่งขันกีฬาที่สร้างรายได้และประโยชน์ให้ประเทศไทยได้มหาศาลอย่างแน่นอน
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ เรามีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เข้ามาสนับสนุนการแข่งขันโมโตจีพี รายการพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เราเชื่อว่าการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้นับเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับคนไทยและประเทศชาติอย่างแท้จริง ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของชาวโลกมากยิ่งขึ้น ทำให้คนไทยและคนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น ต่อยอดสู่การสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ซึ่งในปีนี้ ปตท. และพันธมิตรผู้สนับสนุนรายอื่นๆ ยังเตรียมสิทธิพิเศษและกิจกรรมสนุกสนานมากมายไว้รอต้อนรับแฟนๆ จากทั่วโลกเช่นเดิม
พร้อมกันนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้ทำการเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. เป็นต้นไป โดยยังคงเป็นบัตรเข้าชมโมโตจีพีที่ราคาถูกที่สุดในโลก ซื้อบัตรใบเดียว สามารถชมได้ทั้งโมโตจีพี,เวิล์ดซูเปอร์ไบค์และเอเชียโรดเรซซิ่งได้ด้วยโดยบัตรชมการแข่งขัน ทุกประเภทสามารถเข้าชมได้ตลอดทั้ง 3 วัน แกรนด์สแตนด์ ราคา 4,000 บาท, ไซด์สแตนด์ ราคา 2,000 บาท , รอสซี สแตนด์ ราคา4,000 บาท , และมาร์เกซ สแตนด์ ราคา 4,000 บาท ซื้อได้แล้ววันนี้ทาง เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ทิคเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านค้าที่มีสัญลักษณ์เคาน์เตอร์เซอร์วิส กว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ www.allticket.com
แฟนมอเตอร์สปอร์ตห้ามพลาด!! รับสิทธิพิเศษและส่วนลดเต็มพิกัด สำหรับลูกค้า ปตท.รับส่วนลด สูงถึง 25% เพียงแสดงบัตร พีทีที บลูการ์ด ที่จุดขาย หรือซื้อผ่านช่องทางออนไลน์,ลูกค้าเครื่องดื่มช้าง รับส่วนลด 20% เพียงโชว์บัตร ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เฟรนด์ คลับ ณ จุดขาย,ลูกค้าฮอนด้า รับส่วนลด 20% เมื่อแสดงกุญแจรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ที่จุดขาย,ลูกค้ายามาฮ่า รับส่วนลด 20% เมื่อแสดงกุญแจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ารุ่นใดก็ได้ที่จุดขาย และ ลูกค้า SCB รับส่วนลด 20% เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ทุกประเภท (เฉพาะช่องทางออนไลน์)