รอยัล เอนฟิลด์ ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลก ต้อนรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 หรือมอเตอร์โชว์ 2019 ส่งรถรอยัล เอนฟิลด์ “คอนเซ็ปต์ เคเอ๊กซ์” (Concept KX) รถมอเตอร์ไซค์วี-ทวินรุ่นพิเศษที่โชว์ตัวให้สิงห์นักบิดได้ยลโฉมครั้งแรกในโลกที่งานอิคม่า 2018 (EICMA 2018) ณ ประเทศอิตาลี มาให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสเป็นประเทศแรกในเอเชียแปซิฟิค พร้อมด้วยรถอินเตอร์เซปเตอร์ 650 และ คอนติเนนทัล จีที 650 คัสตอมจากสำนักแต่งชื่อดัง
สุดยอดรถคัสตอมจัดโชว์เอาใจสายแต่งในงานมอเตอร์โชว์ 2019 เท่านั้น
คอนเซ็ปต์ เคเอ๊กซ์ (Concept KX)
รถคันนี้ได้รับการเผยโฉมครั้งแรกในโลกที่งานอิคม่า 2018 (EICMA 2018) ณ ประเทศอิตาลี ได้รับการออกแบบโดย ทีมนักออกแบบอินดัสเตรียล ดีไซน์ของรอยัล เอนฟิลด์ในอินเดียและสหราชอาณาจักรพวกเขาใช้เวลาเพียง 6 เดือนในการพัฒนาคอนเซ็ปต์ เคเอ็กซ์ โดยเริ่มต้นจากศูนย์ ซึ่งคอนเซ็ปต์ไบค์คันนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถจักรยานยนต์โมเดล เคเอ็กซ์ (Model KX) รุ่นดั้งเดิมของรอยัล เอนฟิลด์ที่ผลิตขึ้นในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1930 ที่โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ไซด์วาล์วอันทรงพลังขนาด 1,400 ซีซี
รถรุ่นนี้มีด้วยการผสมผสานตัวถังทรงเตี้ย (Low-slung) ระบบกันสะเทือนแบบสปริงยุคแรก (Girder-fork) และการวางล้อแบบล้ออยู่ใต้ซุ้มเข้าด้วยกัน พร้อมมีการออกแบบที่ปราณีตสวยงาม รวมถึงมีการเลือกใช้วัสดุที่มอบความหรูหราอย่างทองแดงและหนัง สำหรับโครงการคอนเซ็ปต์ เคเอ็กซ์ ใหม่นี้ ทีมงานทั้งในอินเดียและที่ศูนย์เทคนิครอยัล เอนฟิลด์ในสหราชอาณาจักร เริ่มต้นทำงานร่วมกันตั้งแต่เดือนเมษายน โดยเริ่มออกแบบเครื่องยนต์วี-ทวินขึ้นมาก่อนเพื่อให้เป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์คันนี้ต่อไป โดยหลักจากการศึกษาค้นคว้ามากมาย ทีมงานได้คัดสรรให้เหลือรูปแบบรถมอเตอร์ไซค์เพียง 2 รูปแบบ ที่จะนำทั้ง 2 รูปแบบมาขึ้นโมเดลจากดินเหนียวขนาดเท่าคันจริง คันแรกมีรูปลักษณ์สไตล์ “นีโอคลาสสิก” ส่วนอีกคันมีดีไซน์ที่ล้ำสมัย ซึ่งรถต้นแบบที่เสร็จสมบูรณ์ในงานอิคม่า 2018 เป็นผลลัพธ์จากการผสมผสานการออกแบบอย่างเหนือชั้นของรถทั้ง2 คันเข้าด้วยกัน โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ ระบบกันสะเทือนแบบสปริงยุคแรกซึ่งถูกประยุกต์ใหม่ให้เป็นแบบขาตะเกียบเทคโนโลยีขั้นสูง กรอบไฟหน้าแบบยุคก่อนสงครามสุดคลาสสิกซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความทันสมัยและเหนือจินตนาการ รวมถึงช่วงล่างหลังแบบฮาร์ดเทลที่มีเอกลักษณ์และสวิงอาร์มแขนเดียว
ไฟหน้าและไฟท้ายของรถคันนี้ยังส่องสว่างเป็นรูปตัวอักษร “E” สไตล์เรดดิทช์เก่าแก่แบบโลโก้ของรอยัล เอนฟิลด์ (Royal Enfield) โดยตัวถังของรถถอดแบบมาจากตัวถังรถที่มีพื้นที่ว่างที่เรียกว่า Negative Space ซึ่งมักพบเห็นได้ในรถมอเตอร์ไซค์ยุคก่อนสงครามที่ไม่ต้องติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือสายไฟต่างๆ นอกจากนี้ ตัวเฟรมและกล่องกรองอากาศยังถูกออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับโครงสร้างตัวรถ โดยมีส่วนเบาะนั่งแบบสปริงลอยตัว พร้อมระบบไฟฟ้าขนาดเล็ก ทำให้เกิดลุคที่ดู “สะอาดตา” ยิ่งไปกว่านั้น ชิ้นส่วนอย่างล้อและฝาเครื่องยนต์ ได้รับการพ่นสีโทนสีเขียวสลับดำแบบคลาสสิก พร้อมตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการพ่นลายสีทองแดง โดยพ่นสีดำบนเครื่องยนต์และชุดท่อไอเสีย ส่วนเบาะหนังเลือกใช้เบาะนั่งสีน้ำตาลวอลนัทเข้ากับแฮนด์จับสีเดียวกัน
เดอะ ไพร์ม โปรเจกต์ (The Prime Project) โดยสำนักแต่ง Zeus
คอนเซ็ปต์ในการออกแบบคือ Simple & Clean เน้นให้ความละเอียดในทุกๆ ดีเทล ตั้งแต่การเชื่อมคาแรคเตอร์ของถังน้ำมันเดิมของ อินเตอร์เซปเตอร์ 650 เข้ากับท้ายสไตล์คาเฟ่เรเซอร์ ของ Zeus Custom ที่มีความโค้งมนเรียบง่ายดูโฉบเฉี่ยว จบด้วยไฟท้ายขนาดเล็กให้ท้ายดูคลีน เลือกโทนสีดำเงาตัดกับเส้นสายสีบรอนซ์ทองที่วิ่งไล่ระดับจากตัวถังไปถึงท้าย และนำสายตาให้รู้สึกถึงตัวถังและท้ายเป็นชิ้นเดียวกัน เบาะหนังสีดำที่ออกแบบให้ดูเรียบบาง ตัดด้วยหนังสีดำ 2 แบบ เดินด้ายสีดำ เพื่อเพิ่มมิติให้กับรถมากยิ่งขึ้น แฮนด์จับโช๊คสแตนเลสถูกจับมาใส่ให้ดูคลาสสิกมากยิ่งขึ้น พร้อมชุดปะกับสวิตซ์อลูมิเนียม ไฟเลี้ยวปลายแฮนด์ Motogadget สีเงินตัดด้วยปลอกแฮนด์สีดำกระชับมือ ให้ความพรีเมี่ยมคลาสสิกน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น
ไฟหน้าถูกปรับขนาดลงจากเดิมเป็น 5.5 นิ้ว แบตเตอร์รี่ถูกย้ายไปเก็บไว้ช่วงขาตั้งคู่ด้านล่างเฟรม เนียนตาและลงตัว กรองเดิมถูกถอดออกเพื่อเคลียร์พื้นที่ใต้เบาะให้ดูคลีน โชว์กรองเปลือยสแตนเลสสีดำให้ความดุดันดูมีอัตราเร่งมาเต็ม พาวเดอร์โค๊ทดุมล้อซี่ลวดสีดำรัดด้วยยางสุดคลาสสิกแห่งยุค 60 อย่าง Firestone Deluxe Champion ขอบ 18 และเพื่อให้ได้ท่านั่งรับกับสไตล์คาเฟ่ เรเซอร์ งานสร้างพักเท้าเกียร์โยงถูกจัดลงคันนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยอลูมิเนียมตัดกับบอดี้เฟรมสีดำวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ไฟเลี้ยวหลังที่เรายังคงรักษาความเรียบง่าย ด้วย Motogadget Pin ขนาดเล็กแต่ให้ความสว่างที่มากเกินตัว การเดินท่อโค้งพาดตัวเฟรม แยกข้าง 2 into 2 เพิ่มดีเทลปลายทองเหลืองขนาด 1.5 นิ้ว ตัดกับท่อสแตนเลสปัดด้าน ให้ความคลาสสิกแบบพรีเมี่ยมเป็นที่สุด
วายุ เดอะ สปิริต ออฟ วินด์ (VAYU, The spirit of wind) โดยสำนักแต่ง K-Speed
คัสตอมขึ้นจากรอยัล เอนฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที 650 ขุมพลังใหม่เครื่องยนต์สองสูบคู่ ที่มาพร้อมเอกลักษณ์ทรงสปอร์ตคลาสสิกแบบคาเฟ่ เรเซอร์ รถคัสตอมคันนี้ชื่อ “วายุ” ซึ่งเป็นเทพแห่งสายลมจากแดนภารตะ จากรูปทรงพริ้วไหวการขับขี่ที่คล่องแคล่ว และทรงพลังประดุจสายลม แฮนด์จับและโช้คสีดำ ปรับไฟหน้าเล็กลงเป็น 6.5 นิ้ พร้อมติดตั้งวินด์ชิลด์ใหม่ (Wind Shield) และท่อไอเสียปรับแต่งใหม่เดินระบบใหม่ ปรับที่พักเท้าใหม่เป็นแบบเกียร์โยง ดูดุดันและคงความคลาสสิก รวมกันท้ายใหม่เป็นเสริมสไตล์ให้โฉบเฉี่ยวแบบคาเฟ่ เรเซอร์ อันเป็นเอกลักษณ์ ตัวถังของวายุมาในสีเทาพาสเทล ตัดกับสีดำของตัวเครื่องและเบาะ ดูโดดเด่นทรงพลังมากขึ้น เสริมแกร่งด้วยวงล้อขอบ 17 เพื่อให้เติมเต็มลุคคาเฟ่ เรเซอร์เต็มรูปแบบ ส่วนฝาคลอบเครื่องซ้ายขวามีลายเส้นสไตล์วินเทจที่คงความคลาสสิกเหนือกาลเวลา
โปรโมชั่นงานมอเตอร์ โชว์ 2019
รอยัล เอนฟิลด์ จัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเมื่อซื้อหรือจองรถมอเตอร์ไซค์ รอยัล เอนฟิลด์ในงานทุกรุ่น ฟรี! ค่าจดทะเบียน และพ.ร.บ.ทุกรุ่น พร้อมรับ Gift Voucher มูลค่า 7,000 บาท (เฉพาะรุ่นคลาสสิก 500, บุลเล็ต 500 และหิมาลายัน) โดยเลือกเอาไปลดเงินดาวน์ ซื้อประกัน หรือของแต่งเพิ่มเติมได้…พิเศษอีกต่อ สำหรับผู้ที่จอง “อินเตอร์เซปเตอร์ 650” (ราคาเริ่มต้น 213,000 บาท) และ “คอนติเนนทัล จีที 650” (ราคาเริ่มต้น 221,000 บาท) รับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรี! บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 3 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และรับฟรี! Twins Welcome Gift
นอกจากนี้ ทางรอยัล เอนฟิลด์ ยังมีนำสินค้าและอุปกรณ์ในการขับขี่ต่างๆ มาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ พร้อมสัมผัสรถมอเตอร์ไซค์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิค ทั้งบุลเล็ต, คลาสสิก, หิมาลายัน, อินเตอร์เซปเตอร์ 650 และ คอนติเนนทัล จีที 650 ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 หรือมอเตอร์โชว์ 2019 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562 ที่บูธ B3 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับลูกค้าที่สนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรอยัล เอนฟิลด์สามารถสอบถามได้ที่ รอยัล เอนฟิลด์ คอนแทค
เซ็นเตอร์เซอร์วิส โทร.1800 012 720 เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง