นับตั้งแต่ มลพิษ ฝุ่นละออง PM2.5 กลายเป็นปัญหาใหญ่จนทำให้หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพชีวิตกันมากขึ้น และเริ่มมีเทรนด์ในการป้องกันไม่ให้ ฝุ่นละอองพิษ เหล่านี้เข้าสู่ร่างกายในหลากหลายรูปแบบ แม้แต่ในรถยนต์เองก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมากจึงสามารถเล็ดลอดเข้ามาสู่ภายในห้องโดยสารรถยนต์ของคุณได้ ทำให้อุปกรณ์อย่างเครื่องฟอกอากาศภายในรถขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในช่วงนี้ แต่คำถามมีอยู่ว่าเเล้วเจ้า เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ ติดตั้งเเล้วอากาศในรถจะดีขึ้นแค่ไหนเเละป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 เข้ามาในรถได้หรือไม่
อันดับแรกต้องอธิบายก่อนว่าเนื่องจากภายในห้องโดยสารรถยนต์มีสภาพเป็นอากาศปิดจึงเป็นแหล่งสะสมของความสกปรกได้อย่างดีไม่ว่าจะเป็นฝุ่น เชื้อไวรัส แบ็คทีเรีย การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ในรถ เครื่องจะทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคที่เข้ามาในห้องโดยสาร ทำให้อากาศภายในห้องโดยสารดีขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถขจัดได้ทั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องโดยสารอย่าง กลิ่นบุหรี รองเท้า อาหารที่เคยนำเข้ามาทานในรถให้หมดไป
เห็นคุณสมบัติของ เครื่องฟอกอากาศ ในรถก็อย่างเพิ่งได้ใจคิดว่าว่าเจ้าสิ่งนี้คืออปกรณ์วิเศษที่จะช่วยป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 ไม่ให้เข้ามาในรถได้เนื่องจาก เครื่องฟอกอากาศ หน้าที่ของมันคือ การฆ่าเชื่อในอากาศที่วนเวียนอยู่ในรถ หลักการทำงานของมันคือการปล่อยประจุที่เรียกว่าพลาสม่าคลัสเตอร์ออกมา ประจุดังกล่าวไม่ได้ทำให้ฝุ่นหายไปแต่จะเกาะดักจับฝุ่นเหล่านี้ให้มีน้ำหนักเเละร่วงลงมาสู่พื้นหรือติดที่ตะแกรงกรองหยาบของเครื่อง ประจุตัวนี้ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ ทั้งแบคทีเรีย รา และไวรัสที่เล็กจนสามารถทะลุผ่านไส้กรองได้ แต่ไม่มีหน้าที่กัน ฝุ่นละอองไม่ให้เข้ามาในรถเหมือน กรองอากาศ หรือกรองแอร์รถยนต์ สรุปง่ายๆ คือมันไม่สามารถปกป้องสิ่งสกปรกเชื้อโรคฝุ่นละอองไม่ให้เข้ามาในรถได้ เเต่จะช่วยฆ่าเชื้อในรถได้ในระดับหนึ่ง
เเล้วเรามีความจำเป็นแค่ไหนในการติตตั้ง เครื่องฟอกอากาศ ในรถ? สำหรับคนที่มีร่างกายสมบูรณ์ปกติ อุปกรณ์เหล่านี้ก็ดูไม่ได้จำเป็นอะไรมากมายรัก เพียงแต่มันช่วยลดเรื่องกลิ่นอับเเละอาหารได้ดี แต่หากคุณหรือคนในครอบครัวที่โดยสารในรถทุกวันมีโรคประจำตัวเช่น ภูมิเเพ้อากาศ แพ้ฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ ก็ดูจะเหมาะในการใช้งานแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพเเละราคาของ เครื่องฟอกอากาศ ด้วย