Mitsubishi Motors Corporation ประกาศผลการดำเนินงานในระยะเวลา 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2561 (จากรายงานวันที่ 1 เมษายน– 31 ธันวาคม 2561)
- ผลการดำเนินงานที่สำคัญในระยะเวลา 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2561
ยอดจำหน่ายสุทธิของ Mitsubishi Motors ในระยะเวลา 9 เดือน ปีงบประมาณ 2561 คิดเป็นมูลค่า 1,794,100 ล้านเยน (ประมาณ 5.11 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 64,600 ล้านเยน (ประมาณ 18,400 ล้านบาท) ขึ้นมาอยู่ที่ 85,000 ล้านเยน (ประมาณ 24,200 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2560 และมีรายได้สุทธิ 69,200 ล้านเยน (ประมาณ 19,700 ล้านบาท)
- ยอดจำหน่ายรวมของ Mitsubishi Motors ทั่วโลก
ยอดจำหน่ายรวมทั่วโลกของ Mitsubishi Motors ในระยะเวลา 9 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขึ้นมาอยู่ที่จำนวน 894,000 คัน
ทั้งนี้ยอดจำหน่ายของ Mitsubishi Motors ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ที่จำนวน 235,000 คัน นำโดยยอดจำหน่ายที่แข็งแกร่งของ Mitsubishi Xpander ใหม่
ทั้งนี้ Mitsubishi Motors มียอดจำหน่ายในยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่จำนวน 168,000 คัน ยอดจำหน่ายที่แข็งแกร่งนี้ขับเคลื่อนโดย Mitsubishi Eclipse Cross และ Mitsubishi Outlander Phev ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก และ ยอดจำหน่ายของ Mitsubishi Outlander ที่ประกอบในประเทศรัสเซีย
นอกจากนี้ ยอดจำหน่ายของ Mitsubishi Motors ยังคงเติบโตขึ้นในทุกภูมิภาค ครอบคลุมทั้งตลาดพื้นฐานอย่างภูมิภาคโอเชียเนีย และตลาดที่มีความสำคัญอย่างภูมิภาคอเมริกาเหนือและประเทศจีน เป็นต้น ทั้งนี้ Mitsubishi Motors คาดการณ์ว่าจะสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้เป็นไปตามที่ประกาศไว้ในช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณ 2561
- แนวโน้มการดำเนินธุรกิจตลอดปีงบประมาณ 2561
Mitsubishi Motors คาดการณ์การผลดำเนินงานในปีงบประมาณ 2561 ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผลการดำเนินการ ซึ่งได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์โตเกียวไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561
มร. โอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Mitsubishi Motors Corporation กล่าวว่า “การดำเนินงานตลอด 3 ไตรมาสที่ผ่านมา เราได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ อัตราแลกเปลี่ยน รวมไปถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นซ้ำซ้อนในประเทศญี่ปุ่น แม้จะตกอยู่ภายใต้ความท้าทายดังกล่าว Mitsubishi Motors ก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตได้ในระดับใกล้เคียงกับแผนงานที่วางไว้ ทั้งด้านยอดจำหน่าย ยอดจำหน่ายสุทธิ และผลกำไร
แม้ว่าเราต้องเผชิญกับอุปสงค์ที่ลดลงในตลาดที่สำคัญอย่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เราจะยังคงดำเนินการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องและมุ่งมั่นสู่การบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปีงบประมาณนี้
เราจะไม่ประเมินว่าปัจจัยท้าทายดังกล่าวเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เราจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของ Mitsubishi Motors ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเอาชนะปัจจัยที่ท้าทายต่างๆ และสร้างผลประกอบการที่ดีได้อย่างยั่งยืนผ่านความร่วมมือด้านต่างๆ ในฐานะสมาชิกของกลุ่มพันธมิตร Renault Nissan Mitsubishi Motors”