6 เสียงดังในรถ อย่าปล่อยผ่าน อาการแบบนี้มีความหมาย รถกำลังจะบอกอะไรเรา

หนึ่งในปัญหาที่คอยกวนใจคนใช้รถยนต์อยู่ไม่น้อย ก็คือเรื่องของ เสียงดังในรถ ที่เกิดขึ้นระหว่างขับรถ ไม่ว่าจะเป็นตอนสตาร์ท ตอนเลี้ยว ตอนเบรก แบบนี้เจ้าของรถต้องหมั่นสังเกตุว่าเสียงดังในรถนั้นมาจากส่วนไหนเพื่อระบุต้นตอของการเกิดเสียงที่แน่นอนได้ แล้ะแก้ไขได้อย่างตรงจุด 1. เสียงดังหลังสตาร์ทเครื่อง หลังสตาร์ทรถอุ่นเครื่องสักระยะ แล้วเกิดเสียงดังวี๊ดๆ จี๊ดๆ มาจากห้องเครื่อง แล้วสักพักก็เงียบไปเอง…

Home / AUTO / 6 เสียงดังในรถ อย่าปล่อยผ่าน อาการแบบนี้มีความหมาย รถกำลังจะบอกอะไรเรา

หนึ่งในปัญหาที่คอยกวนใจคนใช้รถยนต์อยู่ไม่น้อย ก็คือเรื่องของ เสียงดังในรถ ที่เกิดขึ้นระหว่างขับรถ ไม่ว่าจะเป็นตอนสตาร์ท ตอนเลี้ยว ตอนเบรก แบบนี้เจ้าของรถต้องหมั่นสังเกตุว่าเสียงดังในรถนั้นมาจากส่วนไหนเพื่อระบุต้นตอของการเกิดเสียงที่แน่นอนได้ แล้ะแก้ไขได้อย่างตรงจุด

1. เสียงดังหลังสตาร์ทเครื่อง

หลังสตาร์ทรถอุ่นเครื่องสักระยะ แล้วเกิดเสียงดังวี๊ดๆ จี๊ดๆ มาจากห้องเครื่อง แล้วสักพักก็เงียบไปเอง หรือระหว่างขับรอบเดินเบาก็จะเกิดเสียงแบบนี้แล้วก็หายไปเอง อาการแบบนี้ชี้ชัดได้เลยว่าสาเหตุมาจากสายพานหย่อน ก็เนื่องมาจากความเสื่อมสภาพของสายพานนั่นเอง กรณีนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับตั้งสายพานใหม่ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาเพียงชั่วคราวเท่านั้นเอง ทางทีดีควรเข้าเช็คกับช่างที่เชี่ยวชาญจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว

 

2. เสียงดังเวลาเร่งเครื่อง

เวลาเร่งเครื่องรอบสูงๆ แล้วเกิดเสียงดังอู้ๆ มาจากห้องเครื่องพร้อมด้วยการสั่นสะเทือนของตัวรถแบบแปลกๆ แบบนี้สาเหตุเกิดจากยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพนั่นเอง ก็หน้าที่ของยางแท่นเครื่องคือรองรับแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ ไม่ให้สั่นแรงจนเกินไป เมื่อยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ การสั่นจึงมากขึ้นส่งผ่านเข้ามาถึงห้องโดยสารจนคนคนขับสามารถรู้สึกได้ โดยรถแต่ละรุ่นก็มีจำนวนของยางแท่นเครื่องต่างกัน เช่น 3 ตัว หรือ 4 ตัว ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนให้ครบชุด

3. เสียงดังเวลาเบรก

เวลาเหยียบเบรกแล้วเกิดเสียงดังจี๊ดๆ คล้ายเหล็กเสียดสีกัน อาจเป็นสัญญาณของผ้าเบรกหมด โดยลักษณะของผ้าเบรกเมื่อเนื้อของผ้าเบรกถูกใช้จนหมดจะถึงส่วนที่เป็นเหล็กจึงเสียดสีกับจานเบรก ซึ่งเมื่อเหล็กเจอกับเหล็กก็จะทำให้เกิดเสียงดังจี๊ดๆ และถ้าปล่อยไว้นอกจากจะทำให้จานเบรกสึกจนต้องเสียเงินเปลี่ยนแล้ว ประสิทธิภาพในการเบรกก็จะลดลงอีกด้วย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงควรรีบเปลี่ยนผ้าเบรกเป็นการด่วน

4. เสียงดังเวลาหักเลี้ยวสุด

ช่วงที่หักพวงมาลัยเลี้ยวจนสุดแล้วเกิดเสียงดังแต๊กๆ มาจากล้อหน้าข้างใดข้างหนึ่ง สาเหตุหลักๆ มาจากบูชปีกนกสึกทำให้เกิดการเสียดสีกัน หากปล่อยไว้จะมีปัญหาเรื่องของศูนย์ล้อไม่ตรง คอนโทรลรถได้ยาก เมื่อขับเร็วขึ้นก็ยิ่งอันตรายยิ่งขึ้น

5. เสียงดังเวลารถตกหลุมหรือทางขรุขระ

เมื่อขับรถหลุม ขึ้นลูกระนาด หรือลุยทางขรุขระแล้วเกิดเสียงดังกุกๆ กักๆ ที่ล้อข้างใดข้างหนึ่ง อาจเกิดจากลูกปืนล้อแตกหรือโช้คเสื่อมสภาพ ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ทันทีและใช้เวลาไม่นาน เท่านี้ก็สามารถแก้เสียงดังรบกวนได้เลย

6. เสียงดังใต้ท้องรถ

ระหว่างขับรถหากเกิดเสียงดังเอี๊ยดๆ อ๊าดๆ มาจากใต้ท้องรถไม่ต้องตกใจ ให้จอดรถดูว่ามีอะไรเกี่ยวอยู่ หรือมีสิ่งที่หลุดร่วงลงมาขูดกับพื้นถนนหรือไม่ หากไม่มีแล้วยังเกิดเสียงอยู่อาจเกิดจากการขยับของเพลากลางหรือท่อไอเสีย ซึ่งส่วนนี้จะถูกยึดอยู่กับยางและตะขอเหล็ก มีความเป็นไปได้ที่ยางเกิดการชำรุดฉีกขาด จนให้ให้เกิดการกระทบกับตัวรถ

ไม่ว่าจะเกิด เสียงดังในรถ จากกรณีไหนก็ตาม นั่นหมายความว่ารถกำลังส่งสัญญาณบอกอะไรบางอย่าง เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ควรรีบนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการใกล้บ้านในทันที หรือเดี๋ยวนี้ก็มีศูนย์บริการในสถานีบริการน้ำมัน ทำให้สะดวกยิ่งขึ้น อย่างที่ศูนย์บริการ FIT Auto ก็สามารถเลี้ยวรถเข้ามาปรึกษา และรับบริการตรวจเช็คสภาพรถได้ฟรีกว่า 30 รายการได้เลย ทั้งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น ระบบเบรก ระบบโช้คอัพ ระบบช่วงล่าง เปลี่ยนยาง ดูแลครบวงจรโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ และไว้ใจได้ แถมตอนนี้ยังสะดวกในการจองคิวเข้ารับบริการผ่านทางเว็บไซต์ www.pttfitauto.com ได้เลย