ในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่คนส่วนใหญ่ต่างขับรถกลับถิ่นฐานบ้านเกิดของตัวเอง เพื่อไปเฉลิมฉลองใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ สิ่งต่อมาก็คือ การเดินทางกลับเข้ามาทำงานใน กทม. แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยมักจะไม่กลับมามือเปล่า แน่นอนว่าต้องมีการบรรทุกผลผลิตทางการเกษตร บ้างก็ขนข้าวกลับมาเป็นกระสอบๆ เต็มรถไฟหมด ซึ่งนั่นก็สร้างภาระให้กับรถ แถมยังส่งผลให้เปลืองน้ำมันไปแบบที่เลี่ยงไม่ได้ วันนี้ทางทีมงาน Auto MThai ก็มี เคล็ดลับ ใน การบรรทุกของหนัก ให้ ประหยัดน้ำมัน มาฝากกัน
เลือกเอาเฉพาะของที่จำเป็น
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักจะเลือกไม่ได้ “ปีนึงกลับบ้านไปแค่ครั้งสองครั้ง ต้องเอาให้คุ้ม” นี่แหละที่ทำให้สร้างภาระกับรถได้อย่างชัดเจน ใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ แนะนำให้เปลี่ยนด่วน เลือกเอาเฉพาะของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตจริงๆ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอามา ยิ่งรถบรรทุกหนักเท่าไร การกินน้ำมันก็ยิ่งมากขึ้นตามลำดับ แถมเมื่อรถทำงานหนักมากๆ อายุการใช้งานก็ยิ่งน้อยลงไปอีก เดี๋ยวจะกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสียเอา
จัดวางเรียงของให้ดี มีสมดุล
เมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว สิ่งต่มาก็คือ การจัดเรียงของให้ตัวและสร้างสมดุลให้ตัวรถ ถ้าเดินทางหลายก็ควรคำนวนน้ำหนักรถให้ดี เพราะไม่ใช่เรื่องประหยัดน้ำมันอย่างเดียวเท่านั้น เรายังต้องคำนึงถึงการรับน้ำหนักของโช๊คอัพด้วย ถ้าโช๊ครับน้ำหนักมากเกินไป ก็อาจทำให้โช๊คแตกได้ ซึ่งนั่นอันตรายอย่างยิ่ง ส่วนการบรรทุกของหนัก ไม่ควรอัดแน่นส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป ควรกระจายๆให้ทั่วๆกันเช่น ถ้าไว้ของที่ท้ายรถอย่างเดียวหน้ารถอาจจะเชิดได้ ควรจะกระจายมาไว้ในห้องโดยสารบ้าง เพื่อสร้างความสมดุลที่ดีของตัวรถในระหว่างการขับขี่
ค่อยๆออกตัว ไม่ควรออกตัวแรง
และขับรถลากเกียร์ในขณะที่บรรทุกของหนัก เพราะจะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นกว่าปกติ สิ่งต่อมาที่ส่งผลเสียกับตัวรถก็คือทำให้ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์สึกหรอได้ง่ายนั่นเอง
รักษาความเร็วให้นิ่งและคงที่ การขับด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ไม่ควรใช้ความเร็วมากเกินไปในการขับขี่ ถือเป็นการประหยัดน้ำมันได้ดีวิธีหนึ่งเลยทีเดียว ยิ่งบรรทุกของหนักด้วยแล้ว แถมยังขับเร็ว รถซดน้ำมันกันบานตะไทแน่นอน
ศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง
ควรวางแผนการเิดนทางก่อนออกเดินทางสักหนึ่งวันเป็นอย่างน้อย เพื่อร่นเวลาการเดินทางให้สั้นและเร็วที่สุด เช็คเส้นทางที่รถอาจจะติดด้วยการโหลด Application เช็คการจราจรมาไว้เพื่อดูเส้นทางที่สามารถใช้สัญจรได้ และเส้นทางที่ควรเลี่ยง Application ที่ควรจะมีไว้ใน Smartphone ก็ยกตัวอย่างเช่น Highway Traffic Application ของกรมทางหลวง ที่สามารถเช็คสภาพการจราจร ผ่านกล้อง cctv กว่า 100 ตัวของกรมทางหลวงแบบ realtime แสดงระดับของการจราจรแบ่งเป็นเป็นสีอย่างชัดเจน เช็คอัตราการเคลื่อนตัวของการจราจรย้อนหลังได้ 24 ชม. และ JS100 Application ของคลื่นวิทยุชุมชน จส.100 ที่ไว้ใช้เช็คเส้นทางการจราจร รับทราบสถานการณ์บนท้องถนน ดูแผนที่การเดินทาง ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน