หากบอกว่า โกคาร์ท คือบันไดก้าวแรกสู่การเป็นนักกีฬา มอเตอร์สปอร์ต สายอื่นก็ไม่ผิดมากนัก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR จึงเล็งเห็นความสำคัญของพื้นฐานที่ดีของนักกีฬา มอเตอร์สปอร์ต เเละพร้อมปลูกฝังให้กับเยาวชนได้มีทักษะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม การมีรากฐานที่ดีผู้ฝึกสอนก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการพัฒนาฝีไม้ลายมือของเด็กๆ ให้ก้าวหน้า เหมือนกับที่ ติณห์ ศรีตรัย ที่ผันตัวมาเป็นโค้ชให้กับสามเยาวชนในนาม PTT Karting Team ที่ PTTOR เป็นผู้สนับสนุน วันนี้ auto.MThai.com มีโอกาสได้คุยกับนักแข่งชื่อดังจากรายการ TCR Asia Series ถึงหน้าที่โค้ชผู้ฝึกสอนให้กับน้องๆ ในการดูเเลทั้งสาม
กีฬา โกคาร์ท มีความสำคัญอย่างไรต่อการเป็นบันไดก้าวแรกของนักกีฬาสายมอเตอร์สปอร์ต?
ติณห์ – จริงๆ เเล้วต้องบอกว่ากีฬาโกคาร์ทเป็นบันไดขั้นพื้นฐานของกีฬามอเตอร์สปอร์ตทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถล้อเปิด รถล้อปิด แรลลี่ หรือทางเรียบ รถจีทีทุกอย่าง ถ้าเราเริ่มจากการเล่น โกคาร์ท ก่อนเราสามารถฉีกไปขับมอเตอร์สปอร์ตได้ทุกประเภท เพราะว่า โกคาร์ท คือกีฬาที่ค่อนข้างใช้แรงมาก ทำให้เรามีร่างกายที่เเข็งแรงถ้าร่างกายแข็งแรงเราก็สามารถไปเล่นมอเตอร์สปอร์ตชนิดอื่นได้ อีกอย่างเทคนิกในการขับโกคาร์ทเราสามารถนำไปใช้กับกีฬามอเตอร์สปอร์ตได้ทุกแขนง และกีฬาโกคาร์ทมีค่าใช้จ่ายที่สามารถเอื้อมถึงสำหรับคนที่ยังไม่มีสปอนเซอร์ พูดง่ายๆ ว่าการเล่นโกคาร์ทราคามันถูกกว่าการขับรถประเภทอื่นๆ เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นสู่เส้นทางมอเตอร์สปอร์ต กีฬาโกคาร์ทถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีง่ายกว่าการไปเริ่มต้นกับกีฬามอเตอร์สปอร์ตอื่นๆ
เบสิคที่ต้องเรียนรู้พื้นฐานตั้งแต่เด็กในกีฬาโกคาร์ทมีอะไรบ้าง?
ติณห์ – อันดับแรกคือน้องๆ ต้องมีความชอบก่อน ต่อจากนั้นคือผู้ปกครองก็ต้องให้การสนับสนุนด้วยเพราะกีฬาประเภทนี้ช่วงเริ่มต้นเราต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยตัวเราเองก่อนทั้งค่าน้ำมัน ค่าเช่าสนาม ค่าเช่ารถ ทุกอย่างมันมีค่าใช้จ่ายหมดเพราะฉะนั้นหากครอบครัวไม่สนับสนุนมันก็จะลำบากที่เด็กจะพัฒนาฝีมือได้ เมื่อเด็กมีปัจจัยเอื้อทุกอย่างในการเริ่มขับโกคาร์ทก็จะเริ่มฝึกซ้อม โกคาร์ทก็เหมือนกีฬาอื่นๆ ที่หากจะเล่นแบบจริงจังก็ต้องซ้อม ซ้อมเเล้วก็จะเก่ง เก่งเเล้วก็จะมีผลงานที่ดี เมื่อมีผลงานดีสปอนเซอร์ก็จะเข้ามาผลักดันให้กลายเป็นนักเเข่งต่อไปในอนาคต
ติณห์เป็นโค้ชให้กับน้องๆ เยาวชนมาแล้วหลายรุ่น ในครั้งนี้กับ ทีม PTT Karting Team มีความแตกต่างกับที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง?
ติณห์ – หลักๆ ตอนนี้ดูเเลน้องๆ อยู่สามนักแข่ง คือ น้องปลั๊ก น้องเป็ปเปอร์ และน้องเจมม์ อย่างน้องปลั๊กเค้าก็จะไปในเลเวลที่สูงกว่าสองคนเพราะอายุมากว่า ตอนนี้ก็อยู่ในการแข่งขันซีรี่ส์ที่สูงในระดับโลก การแข่งขันของเค้าจะเข้มข้นกว่าคนอื่นอย่างในเรื่องของฝีมือของปลั๊ก ผมแทบไม่ต้องสอนอะไรเค้าเเล้วแต่จะเน้นไปที่ความผ่อนคลายระหว่างการแข่งขันมากกว่า เพราะบางทีเราเห็นว่าเค้าตั้งใจกับการเเข่งขันมากเกินไป เค้าเครียดกับการเเข่งมากไปเมื่อเป็นแบบนี้จะส่งผลเสียเพราะพอเเข่งขันจริงผลงานของเขาจะไม่เป็นธรรมชาติเหมือนตอนที่ซ้อม สำหรับปลั๊กเราจะเน้นคุยให้เขาผ่อนคลายมากกว่าไปสอนด้านเทคนิก
ส่วนของเป็ปเปอร์ก็จะเด็กลงมากว่าปลั๊กสองปีก็ยังมีการสอนเรื่องเทคนิกอยู่บ้างเเละเป็นการสอนให้เขาเห็นเป้าหมายของการขับโกคาร์ทให้ชัดเจนก่อน เพราะน้องเพิ่งอายุ 13ปี เราต้องคอยสอนให้เขารู้ว่าเขาสามารถเป็นนักแข่งรถโกคาร์ทได้ ส่วนน้องเจมม์นี่เด็กที่สุดอายุ 12 ปี ผมอยากให้เขาขับโกคาร์ทด้วยความสนุกก่อน เพราะด้วยวัยขนาดนี้เขายังมีความคิดว่ายังมีเรื่องอื่นที่สนุกกว่าการขับโกคาร์ท ทั้งเล่นเกม เล่นโทรศัพท์มือถือ เราเลยต้องปลูกฝังให้เขารู้สึกว่าการขับโกคาร์ทเป็นเรื่องสนุกมากกว่าจะเน้นเรื่องผลการเเข่งขันกับเขา อีกอย่างหากขับด้วยความสนุกผลการเเข่งขันจะออกมาดี ก็ต้องบอกว่าการเป็นโค้ชให้กับน้องๆ ทั้งสามคนเราก็ต้องสอนคนละทางกัน
ติณห์มองวงการโกคาร์ทระดับเยาวชนตอนนี้อย่างไรบ้าง เด็กๆ ในประเทศอื่นผลงานเป็นอย่างไร?
ติณห์ – ถ้ามองในระดับโลกต้องบอกว่าในยุโรปคืออันดับหนึ่งของโลกฝีมือเขาดีมากๆ เพราะอุปกรณ์การแข่งขันทุกอย่างมันมาจากเขาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรถ สนามเเข่งที่ใหญ่ที่สุดก็อยู่ในยุโรป ทัวร์นาเมนต์เเข่งขันรายการใหญ่ที่สุดก็อยู่ในยุโรป รองลงมาก็เป็นญี่ปุ่น ในส่วนของอาเซี่ยนผมมองว่าไทยเราฝีมือดีที่สุดในย่านนี้เพราะว่าบ้านเรามีรายการแข่งขันรองรับอยู่มากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
ในปี 2019 น้องๆ ทีม PTT Karting Team มีคิวลงแข่งขันรายการใดบ้างทั้งในและต่างประเทศ?
ติณห์ – อย่างน้องปลั๊กตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในยุโรปเพื่อรอเเข่งรายการใหญ่อย่าง FIA Karting European Championship เป็นการเเข่งขันชิงแชมป์ยุโรป ต่อมาก็จะเป็น FIA World Karting Championship ก็จะเป็นการเเข่งขันรายการระดับโลก ส่วนเป็ปเปอร์ปีนี้จะเน้นเเข่งรายการในเอเชียและมีรายการแข่งขันภายในประเทศ ส่วนเจมม์หลักๆคือรายการชิงแชมป์ประเทศไทย เเละมีรายการระดับเอเชียเช่น X30 Asia
การแข่งในและต่างประเทศมีความแตกต่างอย่างไร?
ติณห์ – การแข่งต่างประเทศเราก็จะเจอกับผู้เข้าเเข่งขันที่เก่งกว่า ยกตัวอย่างเช่นเราเก่งที่สุดในประเทศไทยเเล้วสเต็ปต่อไปคือการไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่นเเละถ้าเราเอาชนะที่ญี่ปุ่นได้เเล้ว สเต็ปต่อไปคือต้องไปเเข่งในยุโรปเราก็จะต้องเจอกับนักแข่งที่เก่งยิ่งขึ้นไปอีก รายการเเข่งขันก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมมองว่าการได้ไปเเข่งต่างประเทศเป็นการพัฒนาฝีมือให้กับเด็กด้วยเพราะการได้ไปเจอนักแข่งเก่งๆ ได้ลงเเข่งในรายการที่มีคนเก่งๆ จากทั่วโลกมันก็เป็นตัวพัฒนาฝีมือน้องๆ แม้เราจะเเพ้มาบ้างเเต่มันยังพัฒนาฝีมือได้ดีกว่าที่ลงแข่งแต่รายการในประเทศเท่านั้น
ติณห์วางคิวการซ้อมให้กับน้องๆ ทั้ง 3 คนลงซ้อมบ่อยเเค่ไหน?
ติณห์ – ตัวของน้องๆ เองส่วนใหญ่เเล้วเขาจะซ้อมกันที่สนามพีระพัทยา ก็จะซ้อมทุกเสาร์-อาทิตย์ถ้าเป็นไปได้ ช่วงนี้การซ้อมยังไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่เพราะเพิ่งผ่านช่วงปีใหม่มา คาดว่าเดือนหน้า(กุมภาพันธ์) น่าจะเริ่มซ้อมกันจริงจังเเล้วเพราะรายการเเข่งสนามแรกของทุกประเทศส่วนใหญ่จะจัดกันตอนต้นเดือนมีนาคมเพราะฉะนั้นกุมภาพันธ์คือช่วงที่เราต้องเตรียมตัวกันเเล้ว การซ้อมผมก็จะเน้นให้น้องๆ ซ้อมกับนักขับคนอื่นมากกว่าการซ้อมแบบเดี่ยว เพราะการซ้อมแบบกลุ่มมันสามารถเอาผลงานของเราไปเปรียบเทียบกับนักเเข่งคนอื่นได้ จะพัฒนาตัวเองได้ดีกว่า เราดูออกว่าโค้งนี้เราพลาดตรงไหน โค้งนี้เราเบรกตื้นไป หรือโค้งนั่นเราเบรกลึกไป
ส่วนตัวติณห์มีการแบ่งเวลาอย่างไร จากการฝึกสอนให้น้องๆ และต้องฝึกซ้อมเพื่อเตรียมลงแข่งในรายการต่างๆ ของตัวเอง?
ติณห์ – ส่วนตัวผมเองพอเราลงเเข่งรายการรถฟอร์มูล่ารถใหญ่การซ้อมแต่ะครั้งในสนามค่าใช้จ่ายมันสูง อีกอย่างมันต้องมีทีมงาน ทีมนักเเข่ง สนามที่ใช้จะว่างมั้ยรถที่ใช้เสร็จเรียบร้อยรึยัง เรียกว่ามันมีหลายองค์ประกอบมากในการซ้อมก็เลยไม่ค่อยได้ซ้อมเท่าไหร่ ผมจะเน้นการซ้อมสัปดาห์ที่เเข่งเลยส่วนใหญ่ผมจะเน้นไปที่ฟิตเนสมากกว่าทำร่างกายของตัวเราเองให้แข็งแรงที่สุดเมื่อร่างกายเราฟิต เราก็จะมั่นใจในการขับ หรือบางทีก็อาจมีการเล่นวีดีโอเกมซิมูเลเตอร์บ้าง
ตัดเรื่องผลการแข่งขันออกไปกีฬาโกคาร์ทให้อะไรแก่เด็กและเยาวชนบ้าง?
ติณห์ – โกคาร์ทก็เหมือนกีฬาอื่นๆ ทั่วไป อย่างแรกคือปลูกฝังความเป็นคนมีระเบียบวินัยเพราะน้องต้องมาซ้อมให้ตรงเวลา สองคือฝึกการรับผิดชอบไม่เกี่ยวกับเทคนิกการขับนะ เเต่เป็นการรับผิดชอบในหน้าที่ ต้องตื่นมากี่โมงเพื่อมาซ้อม มาถึงสนามเเล้วต้องทำอะไรบ้างให้เป็นระเบียบวินัย ต่อมาคือเรื่องของสมาธิเพราะการขับโกคาร์ทถ้าเราไม่มีสมาธิเราก็จะหลุดโค้ง การขับโกคาร์ทก็จะช่วยในเรื่องการมีสมาธิ ไปทำอะไรอย่างอื่นน้องๆ ก็จะมีสมาธิที่ดีมากขึ้น
